- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
AJAเปิดแอพพลิเคชั่นคาราโอเกะ”EZ-OK”รายแรกของไทย

นายอภิสิทธิ์ ไทเศรษฐวัฒน์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA ดำเนินธุรกิจภายใต้เครื่องหมายการค้า “AJ” เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำความเป็นที่หนึ่งในด้านคาราโอเกะของเมืองไทยมาช้านาน และเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ก้าวเข้าสู่โหมดดิจิทัล บริษัทได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นคาราโอเกะภายใต้ชื่อ EZ-OK จุดประสงค์หลักของการพัฒนาแอพฯ EZ-OK คือต้องการคืนความสุขให้คนในครอบครัวได้กลับมาอยู่ใกล้ชิดกัน ทำกิจกรรม ร้องเพลง แชร์ความสุขร่วมกัน ซึ่งเป็นแอพฯที่รวบรวมเพลงสากลและเพลงไทยทุกสไตล์ของค่ายเพลงดังมาไว้ในแอพฯเดียว จุดเด่นของแอพฯคือ ใช้งานง่าย รองรับระบบคำสั่งด้วยเสียง และสามารถบันทึกเพลงโปรดเพื่อร้องในโหมดออฟไลน์ได้ พร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดตั้งแต่วันที่ 3 กันยายนนี้เป็นต้นไป
“การใช้งานของแอพฯ EZ-OK นั้น สามารถใช้บนสมาร์ทโฟนได้ทั้ง iOS และ Android ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก สมัครหนึ่ง account สามารถใช้ได้ถึง 3 อุปกรณ์ ทั้งมือถือ แทบเล็ต และทีวี รองรับคำสั่งงานด้วยเสียง ที่สำคัญเป็นแอพฯเดียวที่สามารถบันทึกเพลงโปรดเพื่อเล่นในโหมดออฟไลน์ได้ เปิดให้ทดลองใช้ฟรี 7 วัน โดยตั้งเป้ายอด 1 ล้านดาวน์โหลดภายใน 1 ปี นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวสินค้า ลำโพงบลูทูธพร้อมไมค์หลากหลายรุ่น เพื่อเติมเต็มอารมณ์ผู้บริโภคในการร้องคาราโอเกะไปพร้อมกับแอพฯ EZ-OK อีกด้วย”
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะมีสินค้ารูปแบบใหม่ออกมาเพื่อสร้างรายได้ในอนาคต โดยในส่วนของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซจะปรับขยายไปในส่วนการให้ความรู้และจัดงานสัมมนาภาคธุรกิจเอสเอ็มอี รวมถึงการทดลองฝากขายสินค้าผ่านหน้าร้านในเว็บไซต์อาลีบาบาของบริษัท ซึ่งเป็นพันธมิตรรายใหญ่ของ AJ
ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์ในแบรนด์ของ AJ ยังคงมีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อว่ายังสามารถสร้างรายได้ให้กลุ่มบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ในปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายไปยังธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้ารูปแบบอื่นๆเพิ่มเติม ซึ่งจะมีความชัดเจนในไตรมาส 4/62
นอกจากนี้บริษัทได้เข้าร่วมลงทุนในธุรกิจการจำหน่ายและให้บริการตู้เติมเงิน และธุรกิจการให้บริการระบบโอนและรับชำระเงินด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยจัดตั้งบริษัท บางกอกเพย์ จำกัด เริ่มดำเนินธุรกิจในเดือนสิงหาคม 2562 และมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท ซึ่ง AJA ถือหุ้น 60% ขณะที่บริษัทดังกล่าวมีแผนจะเพิ่มทุนเป็น 100 ล้านบาท ภายใน 1 ปีข้างหน้า
สำหรับการลงทุนในธุรกิจจำหน่ายและให้บริการตู้เติมเงินอัตโนมัติ และการให้บริการระบบโอนและรับชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ข้างต้นเป็นการร่วมทุนกัน ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเป็นธุรกิจที่มีอนาคต มีโอกาสเติบโตและต่อยอดธุรกิจของบริษัทเพิ่มขึ้น รวมทั้งช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และเป็นการลดความเสี่ยงการพึ่งพาธุรกิจหลักของบริษัท
You must be logged in to post a comment Login