วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

“พิชัย”ชี้”บิ๊กตู่”ทำผิดยุทธศาสตร์ชาติต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่

On September 5, 2019

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หากจำกันได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โจมตีนโยบายประชานิยมตั้งแต่เริ่มทำปฏิวัติรัฐประหาร อีกทั้งได้ยกเรื่องประชานิยมเป็นเหตุผลหนึ่งของการปฏิวัติรัฐประหารด้วย ทั้งนี้ ยังไม่พอ ตอนร่างรัฐธรรมนูญใหม่ยังบอกจุดประสงค์ชัดเจนว่าป้องกันไม่ให้มีประชานิยมเพื่อป้องกันประเทศล่มจมจากการแจกเงิน ถึงกับต้องมีการวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติขึ้นมาเพื่อกำกับไม่ให้มีการแจกเงินสะเปะสะปะ

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าตลอด 3-4 ปีแรกของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ แทบไม่ช่วยเหลือประชาชนเลย โดยจ่ายเงินช่วยประชาชนน้อยมาก ประชาชนเดือดร้อนกันอย่างมาก แต่พอใกล้จะเลือกตั้งรัฐบาลกลับมีการแจกเงินแบบอีลุ่ยฉุยแฉก โดยเฉพาะบัตรคนจน และหลังเลือกตั้งยิ่งแจกเงินมากขึ้น จึงอยากถามว่านี่เป็นการแจกเงินที่แย่ยิ่งกว่าประชานิยมใช่หรือไม่ และฝากถามไปยังคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติว่า การดำเนินการดังกล่าวผิดกับยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้ใช่หรือไม่ โดยอยากให้พรรคฝ่ายค้านยื่นเรื่องให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติได้พิจารณา เพื่อหยุดการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพราะเชื่อว่าหากเป็นพรรคฝั่งตรงข้ามที่เป็นรัฐบาลป่านนี้อาจถูกคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติหยุดการบริหารประเทศแล้ว

ทั้งนี้ นอกจากรัฐบาลจะแจกเงินอย่างมโหฬาร ล่าสุดแจกกว่า 3 แสนล้านบาทแล้ว ยังจะแจกเพิ่มอีก แต่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยกลับยังต่ำมาก และโตต่ำมาโดยตลอด ไม่ได้ขยายตัวถึงปีละ 5% ตามที่ยุทธศาสตร์ชาติกำหนดไว้ และไม่เคยถึงปีละ 5% เลยตลอด 5 ปีกว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศมา โดยเศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยได้เพียงปีละประมาณ 3% เท่านั้น รวมถึงปีนี้ด้วยที่อาจจะขยายตัวต่ำลงอีก ประเทศที่กำลังพัฒนาแบบประเทศไทยหากขยายเศรษฐกิจได้ไม่ถึง 5% ก็ต้องถือว่าติดลบและล้มเหลวแล้ว หลักการนี้สามารถสอบถามจาก ดร.วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องกำหนด 5% ไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ และรัฐบาลประยุทธ์ได้สอบตกมาตลอด 5 ปีกว่าที่บริหาร และมีแนวโน้มว่าจะสอบตกและล้มเหลวต่อไปอีกตลอดเวลาที่จะยังคงบริหารประเทศต่อ ซึ่งถ้าหากจะอยู่ครบถึง 8 ปีจริงตามที่หมอดูที่รัฐบาลจ้างมาให้เป็นข้าราชการการเมืองทำนาย ประเทศไทยจะยิ่งล้าหลังและล้มเหลวอย่างแน่นอน

ดังนั้น อย่าได้สงสาร พล.อ.ประยุทธ์ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ร้องขอเลย ให้สงสารประเทศไทยและคนไทยมากๆจะดีกว่า เพราะประชาชนจะยิ่งลำบากกันอย่างมาก และการที่ พล.อ.ประยุทธ์สั่งทุกหน่วยงาน รวมถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้ออกมาบอกว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ถดถอยนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะหากดูตัวเลขจีดีพีที่ยังเป็นบวก ไม่ติดลบ แมัจะบวกน้อยลงมากเหลือแค่ 2.3% เท่านั้น แต่ถ้าหากวัดจากรายได้ของประชาชนส่วนใหญ่ที่รายได้ลดลงมาตลอดก็ต้องบอกว่าเศรษฐกิจของคนไทยได้ถดถอยมา 5 ปีแล้ว และที่เศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมขยายตัว รายได้ที่เพิ่มก็ไปเพิ่มเข้ากระเป๋านายทุนและมหาเศรษฐีที่สนับสนุนรัฐบาลเท่านั้น ประชาชนจึงรู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยถดถอย ซึ่งคงปฏิเสธยาก เพราะเงินในกระเป๋าประชาชนส่วนใหญ่ลดลงมาหลายปีติดกัน จนทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นสูง

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว เพราะเศรษฐกิจโลกยังอาจจะชะลอตัวลงอีกได้ ต่างกับที่พรรคพลังประชารัฐทั้งหัวหน้าพรรคและรองโฆษกพรรคพยายามให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องกับประชาชนที่บอกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังจะฟื้น ซึ่งจะถือว่าเป็นการปล่อยเฟกนิวส์หรือไม่

ทั้งนี้ อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ไปศึกษาแนวคิดของนายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ล่าสุดออกมาเตือนว่าธนาคารไทยพาณิชย์ต้องเร่งปรับตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรงเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของโลกและพฤติกรรมของผู้ใช้บริการธนาคารที่เปลี่ยนไป ไม่เช่นนั้นจะเป็นกบต้มตายคาหม้อได้ ประเทศไทยก็เช่นกัน หากไม่เร่งปรับเปลี่ยนวิธีการคิดและวิธีการดำเนินการอย่างรวดเร็วและรุนแรง ใช้วิธีคิดแบบเก่าๆ วิธีทำแบบเดิมๆ ย้อนหลังไป 30 ปี ทำทุกวิธีที่จะสืบทอดและรักษาอำนาจแบบที่สื่อต่างประเทศวิจารณ์ ประเทศไทยจะตกยุคและกลายเป็นกบต้มตายคาหม้อเร็วมาก และสงครามการค้าและภาวะเศรษฐกิจโลกอาจจะตกต่ำจนถึงถดถอยได้ จะเป็นเหมือนการเร่งไฟให้กบสุกและตายเร็วขึ้น ทั้งนี้ ต้องขอร้อง พล.อ.ประยุทธ์ว่า อย่าได้แจ้งจับประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารไทยพาณิชย์ไปดำเนินคดีเพราะพูดเรื่องกบต้มเหมือนที่ตนเคยพูดเลย เพราะทฤษฎีกบต้มนี้มีอยู่จริง พล.อ.ประยุทธ์อาจจะไม่ได้มีความรู้จึงได้ส่งคนมาดำเนินคดีกบต้มกับตน


You must be logged in to post a comment Login