- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ลูกเสือพลังนิวเคลียร์
คอลัมน์ : ร้ายสาระ
ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 6-13 กันยายน 2562)
วัยรุ่นเป็นวัยที่มีพลังงานเหลือล้นและมีเวลาว่างมากมาย พวกเขาจึงมักหากิจกรรมต่างๆทำตามจริตของตน บางคนก็เล่นกีฬา เล่นดนตรี ปลูกผัก ทำสวน อ่านหนังสือ ทำขนม เลี้ยงสัตว์ หรือไม่ก็ “สร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์”
เดวิด ฮาห์น นักเรียนโรงเรียนชิพเพวาวัลเลย์ เมืองคลินตันทาวน์ชิพ รัฐมิชิแกน ก็เหมือนเด็กทั่วๆไปที่ใช้เวลาว่างเล่นกีฬาเบสบอลและฟุตบอล เขาเล่นกีฬาได้ดีพอตัว โดยเห็นได้จากถ้วยรางวัลที่เคยได้รับ เพียงแต่เขาคิดว่ากีฬาเป็นกิจกรรมที่น่าเบื่อ เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
พ่อและแม่หย่าร้างกันตั้งแต่เดวิดยังเป็นเด็กแบเบาะ และทั้งคู่ต่างแต่งงานใหม่ เดวิดอาศัยอยู่กับพ่อในวันธรรมดาและมาอยู่บ้านแม่ในวันหยุด อาจเป็นเพราะเกรงว่าลูกจะเหงา พ่อจึงพาเดวิดไปอบรมวิชาลูกเสือเมื่อตอนอายุ 10 ขวบ ทำให้เดวิดหลงใหลกิจกรรมล่าเครื่องหมายวิชาพิเศษมาประดับบนเครื่องแบบลูกเสือ
เดวิดสอบผ่านกิจกรรมลูกเสือหลายสาขาจนได้รับแถบเครื่องหมายวิชาพิเศษมากมาย นอกจากเครื่องหมายพลังงานปรมาณูที่ยังไม่มีลูกเสือคนใดในเมืองคลินตันทาวน์ชิพได้รับเครื่องหมายพิเศษนี้ เดวิดอยากเป็นคนแรกที่สามารถคว้าแถบเครื่องหมายพลังงานปรมาณูมาได้สำเร็จ
ขณะเดียวกันพ่อของแม่เลี้ยง (ไม่รู้ว่าเรียกคุณตาเลี้ยงได้ไหม?) กลัวหลานจะเหงาตอนที่ไปอยู่บ้านแม่และสามีใหม่ของแม่ในวันหยุด คุณตาก็เลยซื้อหนังสือ The Golden Book of Chemistry Experiments อันมีเนื้อหาเกี่ยวกับการทดลองทางเคมีมาให้หลานอ่านฆ่าเวลา
เดวิดสนใจวิชาวิทยาศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาดีใจมากที่ได้รับหนังสือสอนการทดลองทางเคมี ช่วงเวลาประจวบเหมาะพอดีกับที่เขากำลังไขว่คว้าหมายตาแถบเครื่องหมายพลังงานปรมาณู เดวิดจัดแจงสร้างห้องทดลองขนาดย่อมๆภายในห้องนอนของเขาที่บ้านพ่อ
มุ่งมั่นเพื่อแถบเครื่องหมาย
เดวิดนำสารชนิดต่างๆมาผสมกันตามตำราที่อ่าน สารเคมีหกเรี่ยราดพื้นห้องเป็นรอยด่าง บางครั้งก็เกิดการระเบิดจนกลายเป็นเรื่องปกติ แต่สภาพห้องนอนที่ผนังมีรอยแตกร้าวและพรมมีรอยกระดำกระด่าง ทำให้แม่เลี้ยงห้ามเดวิดทำการทดลองในบ้านอีก ถ้าอยากทำให้ลงไปทำในห้องใต้ดิน ซึ่งดูเหมือนเป็นการให้รางวัลมากกว่าการลงโทษ เพราะห้องใต้ดินกว้างขวางกว่าห้องนอน เดวิดสามารถทำทุกอย่างที่ต้องการโดยไม่มีใครมายุ่มย่าม
ครั้งหนึ่งเดวิดไปประชุมลูกเสือโดยมีใบหน้าเป็นสีส้มอันเกิดจากการบริโภคสารแคนทาแซนทินเกินขนาด แคนทาแซนทินเป็นสารธรรมชาติมีสีแดง พบในสัตว์มีเปลือกแข็ง เช่น ปูและกุ้ง ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารทั่วไป เดวิดทำการทดลองใช้สารแคนทาแซนทินทำสีย้อมผิวให้เป็นสีแทนเหมือนไปอาบแดดมา
เมื่อถึงฤดูร้อนเดวิดเข้าค่ายค้างแรมฝึกลูกเสือ เขานำสารแมกนีเซียมติดตัวไปด้วยเพื่อจะไปทำพลุจุดอวดเพื่อนๆ แต่เพื่อนร่วมเต็นท์คนหนึ่งบังเอิญไปทำให้แมกนีเซียมจุดระเบิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ส่งผลให้พื้นเป็นหลุมลึก
การเข้าค่ายฝึกลูกเสืออีกครั้งปีถัดมาแม่เลี้ยงได้รับโทรศัพท์บอกให้มารับตัวเดวิดกลับบ้านก่อนกำหนด เพราะเดวิดแอบไปขโมยเครื่องตรวจจับควัน เนื่องจากเครื่องตรวจจับควันมีสารบางอย่างที่เดวิดต้องการใช้ในการทดลองเพื่อให้ได้แถบเครื่องหมายพลังงานปรมาณู
เผาบ้านเผาเรือน
เดวิดคิดได้ว่าการลักขโมยเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการไม่ใช่คำตอบ เขาเริ่มทำงานเป็นเด็กส่งของหารายได้มาซื้อหาอุปกรณ์ที่ต้องการ เมื่อมีเวลาว่างก็หมกมุ่นอยู่แต่ในห้องใต้ดิน จนกระทั่งคืนหนึ่งเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น พ่อและแม่เลี้ยงรีบวิ่งลงไปดูพบเพลิงกำลังลุกไหม้ห้องใต้ดิน ส่วนเดวิดนอนสลบไสลอยู่ที่พื้น
ก่อนหน้านี้เดวิดได้ทำการทดลองบางอย่างที่มีฟอสฟอรัสเป็นส่วนผสม หลังจากชั่งตวงปริมาณได้ตามสัดส่วนเดวิดก็ใช้ไขควงบดลงบนสารนั้น เกิดเสียงระเบิด “ตูม!” ดังสนั่นลั่นบ้าน เดวิดได้รับบาดเจ็บที่แขนข้างซ้าย สะเก็ดชิ้นส่วนถ้วยผสมสารเคมีปลิวเข้าตาทั้งสองข้าง ทำให้ต้องส่งตัวไปล้างตาที่โรงพยาบาล
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น แม่เลี้ยงห้ามเดวิดทำการทดลองใดๆในเขตบ้านโดยเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้เองเดวิดจึงต้องย้ายไปสร้างห้องทดลองใหม่ที่เรือนเพาะชำบ้านแม่ เดวิดอธิบายให้แม่และพ่อเลี้ยงฟังว่าเขากำลังคิดค้นแหล่งกำเนิดพลังงานเพื่อจะมาใช้แทนที่น้ำมัน ซึ่งอีกไม่นานก็จะหมดจากโลก
เดวิดวาดแผนผังนิวเคลียร์ฟิวชั่น และสร้างแบบจำลองจากกระป๋องน้ำผลไม้ ไม้แขวนเสื้อ หลอดกาแฟ ไม้ขีด และหนังยาง แสดงให้เห็นว่าเดวิดมีความเข้าใจกระบวนการแยกนิวเคลียส ทำให้ในที่สุดเขาได้รับแถบเครื่องหมายพลังงานปรมาณูมาครอบครองเมื่ออายุได้ 15 ปี และเป็นลูกเสือคนแรกของเมืองคลินตันทาวน์ชิพที่ได้รับแถบเครื่องหมายพลังงานปรมาณู
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น
เดวิดไม่หยุดเพียงแค่แบบจำลอง เขาต้องการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขึ้นมาจริงๆโดยใช้เพียงสิ่งของที่หาได้ภายในบ้านบวกกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาด้วยตนเองเป็นเวลานานหลายปี เริ่มจากการเก็บสะสมเครื่องตรวจจับควันซึ่งมีสารอะเมริเซียม ตะเกียงเก่าซึ่งมีส่วนผสมของสารทอเรียม 232 นาฬิกาเรืองแสงรุ่นเก่าที่ใช้สารเรเดียม 226 ถ่านไฟฉายที่มีสารลิเทียม ศูนย์เล็งยิงของปืนที่มีสารทริเทียม
แต่ความรู้ของเขายังไม่เพียงพอ เดวิดต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เขาปลอมตัวเป็นอาจารย์สอนฟิสิกส์เขียนจดหมายไปขอคำแนะนำจากสมาคมนิวเคลียร์แห่งอเมริกา คณะกรรมาธิการกำกับดูแลพลังงานนิวเคลียร์ และหน่วยงานราชการและเอกชนอีกหลายแห่ง จนได้ข้อมูลมากเพียงพอที่จะสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์
เดวิดใช้เงินที่ได้จากการรับจ้างส่งของไปซื้อเครื่องตรวจจับควันที่ไม่ผ่านมาตรฐานจำนวนมากนำมาแกะเอาสารอะเมริเซียม ซื้อถ่านไฟฉายจำนวนมากเพื่อเอาสารลิเทียม ใช้ค้อนทุบก้อนแร่ยูเรไนซ์บดเป็นผงแล้วใช้กรดไนตริกแยกเพื่อให้ได้สารยูเรเนียม และสกัดสารอื่นๆที่ต้องการด้วยวิธีบ้านๆแบบเดียวกัน
ยังดีที่เดวิดรู้ว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นเกี่ยวข้องกับสารกัมมันตรังสี เขาจึงติดตั้งเครื่องตรวจจับกัมมันตรังสีไว้ในเรือนเพาะชำ เวลา 02.40 น. วันที่ 31 สิงหาคม 1994 ตอนนั้นเดวิดอายุได้ 17 ปี ขณะที่เขากำลังประกอบเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์อยู่นั้น เครื่องตรวจจับกัมมันตรังสีก็ส่งเสียงเตือน ด้วยความตื่นตกใจกลัวว่ากัมมันตรังสีจะแผ่กระจายออกไปในชุมชน เดวิดรวบเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใส่ท้ายรถแล้วรีบขับออกจากบ้าน
โชคร้ายของเดวิดแต่เป็นโชคดีของชุมชน ชาวบ้านคนหนึ่งเห็นพฤติกรรมแปลกๆของเดวิดจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ เพราะคิดว่าเขาเป็นโจรขโมยยางรถยนต์ ตำรวจสายตรวจรีบเดินทางมาสกัดรถของเดวิดและขอตรวจค้น พบว่าเขามีวัตถุอันตรายอยู่ที่ท้ายรถ
ทดลองจนวันตาย
เดวิดได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากอุปกรณ์ที่พบในรถนั้นยังไม่ใช่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ มันเป็นได้เพียงแค่แหล่งกำเนิดนิวตรอนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สารอันตรายในเรือนเพาะชำปลดปล่อยกัมมันตรังสีจนอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ทำให้รัฐบาลต้องเสียค่าใช้จ่าย 60,000 ดอลลาร์ ส่งเจ้าหน้าที่มาชำระล้างและนำสิ่งของทั้งหมดในเรือนเพาะชำไปฝังกลบในทะเลทรายที่ห่างไกลจากชุมชน
หลังจากจบการศึกษา เดวิดสมัครเข้ากองทัพเรือโดยหวังว่าจะได้บรรจุในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ แต่ฝันต้องสลายเพราะกองทัพเรือให้ตำแหน่งอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ เดวิดตัดสินใจลาออก กลับมาศึกษาทดลองด้วยตัวเองอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน FBI จับตาดูเดวิดอยู่ห่างๆเพราะเกรงว่าเขาอาจเป็นภัยต่อความมั่นคง จนกระทั่งในเดือนเมษายน 2007 เดวิดถูกตำรวจรวบตัวในข้อหาขโมยเครื่องตรวจจับควันอีกครั้ง ขณะถูกจับกุมตัว ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยบาดแผลพุพองอันเกิดจากการสัมผัสสารกัมมันตรังสีเป็นเวลานาน
อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่พบวัตถุต้องห้ามในห้องพัก เดวิดถูกจำคุก 90 วันในข้อหาลักขโมย และถูกส่งตัวไปรักษาแผลพุพอง หลังจากได้รับการปล่อยตัวเดวิดกลับไปศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเมคอมบ์ วิชาเอกวิศวะเครื่องกล เดวิดเสียชีวิตในปี 2016 จากการเสพสารพิษโดยไม่ตั้งใจ ประกอบด้วยแอลกอฮอล์ เฟนทานิล และไดเฟนไฮดรามีน เป็นไปได้ว่าตอนนั้นเขาอาจกำลังทำการทดลองอะไรบางอย่างอยู่
1.เดวิดในวัยเด็ก
2.เดวิดหลังได้รับเครื่องหมายพลังงานปรมาณู
3.เครื่องหมายพลังงานปรมาณู
4.เดวิดที่เรือนเพาะชำบ้านแม่
5.เดวิดกับหนังสือ The Golden Book of Chemistry Experiments
6.อุปกรณ์ทำเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์
7.เดวิดสกัดสารกัมมันตรังสีที่ต้องการจากของใช้ในบ้าน
8.เจ้าหน้าที่ชำระล้างกัมมันตรังสีบริเวณเรือนเพาะชำ
9.เดวิดในปี 2013
10.ใบหน้าเดวิดตอนที่ถูกตำรวจจับในปี 2007
You must be logged in to post a comment Login