- ไม่ลด-ละ-เลิก- อันตรายPosted 12 hours ago
- อย่าด้อยค่าวันสำคัญศาสนาPosted 2 days ago
- เสียเพราะรักPosted 5 days ago
- ตำรวจไทยโชว์ฝีมือPosted 6 days ago
- สามัคคีปรองดองกันให้ดีPosted 6 days ago
- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 1 week ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 1 week ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 2 weeks ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 2 weeks ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 2 weeks ago
“วิริยะประกันภัย”เปิดปฏิบัติการ FIRST AID กู้รถยนต์ในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคอีสาน
นายณัฐพงศ์ บุญเย็น ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยอันเนื่องมาจากอิทธิพลพายุโซนร้อนโพดุลและพายุโซนร้อนคาจิกิ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในหลายจังหวัด ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานที่สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง และในบางพื้นที่ยังคงต้องคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
สำหรับบริษัทวิริยะประกันภัยมีการรับประกันภัยเอาไว้ ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ โดยข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากผู้เอาประกันภัยตามรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนในพื้นที่ ณ วันที่ 10 กันยายน 2562 มีรถยนต์ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมครั้งนี้จำนวนรวมทั้งสิ้น 190 คัน โดยจังหวัดที่มีรถยนต์ประสบภัยน้ำท่วมมากที่สุดคือ จังหวัดร้อยเอ็ด 69 คัน รองลงมาคือ จังหวัดขอนแก่น 56 คัน จังหวัดอุบลราชธานี 17 คัน จังหวัดมุกดาหาร 15 คัน จังหวัดยโสธร 12 คัน จังหวัดอุดรธานี 10 คัน จังหวัดกาฬสินธุ์ 8 คัน และจังหวัดสกลนคร 3 คัน ประเมินความเสียหายเบื้องต้นรวมเป็นเงินกว่า 25 ล้านบาท
นายณัฐพงศ์กล่าวต่อไปว่า บริษัทได้เข้าไปช่วยเหลือรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมจำนวนมากด้วยการนำโมเดล “ปฏิบัติการ FIRST AID” อันเป็นระบบที่บริษัทได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อดำเนินการกู้และซ่อมแซมรักษารถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมจากการเกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศไทยเมื่อปี 2554 และยังคงมีการพัฒนากระบวนการทำงานอยู่เสมอ อีกทั้งเมื่อเกิดเหตุอุทกภัยในครั้งต่อๆมา บริษัทยังได้นำ “ปฏิบัติการ FIRST AID” มาใช้จนเป็นผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นได้ว่าไม่ว่าอุทกภัยจะเกิดขึ้นที่ไหน และมีรถยนต์เสียหายจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนก็สามารถทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการสั่งการ ตลอดถึงการส่งทีมงานจากส่วนกลางเข้าไปช่วยเหลือ
“บริษัทมีความเชี่ยวชาญจากการปฏิบัติการ FIRST AID ในเหตุการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา และมีการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวที่จะต้องใช้ความรวดเร็วในการเข้าไปยังพื้นที่น้ำท่วม นำรถยนต์ออกมาให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้ความเสียหายขยายตัวไปมากกว่าเดิม และด้วยจิตสำนึกในการบูรณาการและประสานความร่วมมือของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร พนักงาน ตัวแทน นายหน้า ศูนย์ซ่อมมาตรฐาน และคู่ค้า รวมถึงการเตรียมความพร้อมของเครือข่ายรถยกในสังกัดวิริยะประกันภัยที่อยู่ในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง จึงทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ในทันที ตลอดถึงความรวดเร็วในการดำเนินการและการให้ความดูแลลูกค้า ดังเช่นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อรถผ่านกระบวนการฟื้นสภาพหรือซ่อมแซมเบื้องต้นแล้ว ไม่เกิน 7 วันก็สามารถส่งมอบรถคืนให้แก่ลูกค้า
ทั้งนี้ การเข้าไปกอบกู้รถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม พบว่ารถยนต์หลายคันที่กู้ขึ้นมาไม่ได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัท หรือเป็นการประกันภัยประเภทอื่นที่ไม่มีความคุ้มครองภัยน้ำท่วม ซึ่งในกรณีนี้บริษัทก็ยินดีที่จะให้คำปรึกษาและแนะนำถึงกระบวนการต่อไปว่าควรทำอย่างไรกับสภาพความเสียหายจริงที่เกิดขึ้น” นายณัฐพงศ์กล่าว
นอกจากการระดมสรรพกำลังเข้าไปกู้และซ่อมแซมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของบริษัทแล้ว การเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในรูปแบบอื่นๆ ทางบริษัทก็ได้ดำเนินการควบคู่ไปพร้อมๆกัน โดยนายณัฐพงศ์ได้กล่าวถึงการดำเนินงานในส่วนนี้ว่า เป็นภารกิจหลักของกลุ่มพนักงานวิริยะจิตอาสา โดยเริ่มจากกลุ่มพนักงานสำรวจภัยซึ่งต้องทำหน้าที่เข้าไปสำรวจรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมตามที่ได้รับแจ้งอยู่แล้ว และจะสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่นั้นๆไปด้วยเลยว่าต้องการให้ช่วยเหลือในเรื่องเครื่องอุปโภคและบริโภคอย่างไรบ้าง
จากนั้นจะส่งข้อมูลความต้องการเหล่านี้มายังศูนย์กลางที่บริษัท โดยประสานงานผ่านศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนในพื้นที่ ซึ่งจะทำหน้าที่ประมวลความต้องการและดำเนินการจัดซื้อ รวมถึงการผลิตอาหารพร้อมรับประทาน ก่อนส่งต่อให้กลุ่มพนักงานจิตอาสาอีกกลุ่มหนึ่งลำเลียงไปส่งตามพิกัดข้อมูลที่ได้รับมา
“ด้วยระบบเทคโนโลยีของบริษัทที่เชื่อมเครือข่ายโยงใยเป็นหนึ่งเดียวภายใต้นวัตกรรมบริการประกันภัย 4.0 ทำให้กลุ่มวิริยะจิตอาสาทั้งที่เป็นพนักงาน ตัวแทน นายหน้า ศูนย์ซ่อม ตลอดถึงคู่ค้า และพันธมิตรทางการค้าที่อยู่ทั่วประเทศ จึงสามารถส่งความช่วยเหลือมาอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปแล้ว ในขั้นของกระบวนการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ต้องรีบสรุปความเสียหายที่แท้จริงเพื่อดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้เร็วที่สุด มิใช่พิจารณาตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้” นายณัฐพงศ์กล่าวในที่สุด
You must be logged in to post a comment Login