นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) ของ RBF ในวันที่ 12 กันยายน 2562 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากนี้ไปบริษัทเตรียมเดินหน้านำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้กับกองทุน นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเดินทางไปให้ข้อมูลกับนักลงทุนรายย่อยและประชาชนทั่วไปภายในประเทศอีกจำนวน 15 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง ภูเก็ต นครปฐม ราชบุรี เชียงใหม่ อุดรธานี นครราชสีมา ขอนแก่น พิษณุโลก นครสวรรค์ อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี สงขลา และกรุงเทพมหานคร
“RBF มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมากในอนาคต เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมมากกว่า 80% ของรายได้รวม ดังนั้น การเดินทางไปโรดโชว์ให้กับกองทุน นักลงทุนสถาบัน รวมถึงนักลงทุนรายย่อยทั้งในและต่างประเทศ ก็เพื่อให้นักลงทุนได้เข้าใจธุรกิจของบริษัทมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทุกกลุ่มอย่างแน่นอน” นายสมภพกล่าว
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 2,000 ล้านบาท (มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาท) แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,000 ล้านหุ้น ซึ่งชำระทุนจดทะเบียนแล้ว 1,480 ล้านหุ้น และอีกจำนวน 520 ล้านหุ้นจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) คิดเป็นสัดส่วน 26% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด ทั้งนี้ RBF เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ RBF ในครั้งนี้
ดร.สมชาย รัตนภูมิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร (Food Ingredients) ให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก รวมถึงผลิตตามคำสั่งซื้อ (Made to order) นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท ได้แก่ “อังเคิลบาร์นส์” “เบสท์ โอเดอร์” “ก๊อปจัง” “Haeyo” “Angelo” และ “Aroi Mak Mak”
ทั้งนี้ บริษัทแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 6 กลุ่มคือ กลุ่มวัตถุแต่งกลิ่นและรส และสีผสมอาหาร กลุ่มแป้งและซอส กลุ่มผลิตภัณฑ์อบแห้ง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาเพื่อจำหน่าย ปัจจุบันบริษัทส่งออกผลิตภัณฑ์ไปขายทั่วโลก อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา ประเทศแถบตะวันออกกลางและเอเชียใต้ ทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต อินเดีย ปากีสถาน รวมถึงออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน รัสเซีย อังกฤษ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา
“บริษัทเป็นบริษัทของคนไทย 100% และดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 33 ปี มีจุดแข็งในเรื่องทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ด้านอาหาร รวมถึงการสังเคราะห์วัสดุแต่งกลิ่นและรสชาติ จนสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ให้มีเอกลักษณ์ มีความแตกต่างและหลากหลายในแบบเฉพาะตามความต้องการของลูกค้า ดังนั้น จึงทำให้บริษัทมีลูกค้าอยู่ทั่วทุกมุมโลก” ดร.สมชายกล่าว
You must be logged in to post a comment Login