วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

สสว.กางแผนแม่บทปี 64 ตั้งเป้าดัน SMEs สู่ศูนย์กลางอาเซียน

On September 26, 2019

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า การส่งเสริมด้านการตลาดแก่ผู้ประกอบการ SME รวมทั้งการขยายตลาดเอสเอ็มอีไทยสู่ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกเป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักของ สสว. โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมาตนได้สานต่อภารกิจ สสว. ในฐานะหน่วยงานที่เป็นศูนย์กลางขับเคลื่อน SME ทั้งประเทศ และสร้างองค์ความรู้ชุดใหม่เพื่อยกระดับ SME ไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยพัฒนาผู้ประกอบการด้วยเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ ส่งเสริมการตลาดเอสเอ็มอีภายในประเทศ และเชื่อมโยงตลาดทั่วโลกผ่านโครงการต่างๆของ สสว.

“การปฏิบัติงานตามแผนยุทธศาสตร์ สสว. ปี 2564 มีเป้าหมายว่าจะนำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไปสู่ระดับนานาชาติด้วยกลยุทธ์การทำงานเชิงรุก และส่งเสริมเชิงลึกเพื่อเพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน เสริมศักยภาพทำธุรกิจให้เอสเอ็มอีไทยแข่งขันในตลาดระดับนานาชาติ โดยตั้งเป้าการเป็นศูนย์กลาง SMEs ในอาเซียน เริ่มจากการส่งเสริมทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยดำเนินการผ่านหลายโครงการ ที่ทำมาอย่างต่อเนื่องคือ โครงการ SME Provincial Champion หรือสุดยอดเอสเอ็มอีระดับจังหวัด เป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นตามนโยบายรัฐบาล ในแต่ละปีจะมีสุดยอดเอสเอ็มอีระดับจังหวัดจากทั้งประเทศจำนวน 462 ราย โดยกรรมการจะทำการคัดให้เหลือจังหวัดละ 2 ราย เพื่อนำมาต่อยอด พัฒนา ส่งเสริมกลยุทธ์ และหาจุดเด่น แล้วช่วยจัดหาตลาดรองรับ ด้วยการจับคู่ธุรกิจกับโมเดิร์นเทรดและกลุ่มธุรกิจโรงแรม ในปีนี้ สสว. มีการทดสอบตลาดในประเทศมากกว่า 10 ครั้งแล้ว ซึ่งโจทย์ใหม่ในปีนี้คือ พา SME ไทยสู่ตลาดต่างประเทศให้ได้”

2

นายสุวรรณชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการส่งเสริมตลาดในต่างประเทศ สสว. ได้สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการผ่านหลายโครงการ เช่น โครงการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ให้บริการ SMEs สู่อาเซียน ที่สามารถพัฒนาศักยภาพและสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยกับประเทศอาเซียน+8 ได้แก่ กลุ่มประเทศในประชาคมอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น จีน เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย โดยในปี 2562 เพิ่มตลาดยุโรปคือ เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ สำหรับกลุ่มยุโรปพร้อมให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านการตลาดและการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่ด้านการตลาดผ่านการนำผู้ประกอบการเข้าทดสอบตลาดหรือร่วมเวทีการประกวดระดับนานาชาติ

“สสว. พยายามผลักดันผู้ประกอบการสาขาต่างๆในกลุ่มตลาดเป้าหมาย เช่น สาขาแฟชั่น รุกตลาดสหรัฐอเมริกา ร่วมโชว์ศักยภาพในงานแสดงสินค้า TEXWORLD & APPAREL SORCING USA SUMMER 2019 ณ จาวิทส์ เซ็นเตอร์ นครนิวยอร์ก ส่วนตลาดในภูมิภาคอาเซียน สสว. ได้จัดการอบรมความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กลุ่มเป้าหมายเบื้องต้นประกอบด้วย ลาว กัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม”

3

นอกจากนี้ สสว. ยังได้พัฒนากลไกใหม่สำหรับกลุ่มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ สร้างความเข้าใจในการค้าอี-คอมเมิร์ซ และพัฒนาเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ ภาครัฐ และเอกชน ผ่านระบบ SME CONNEXT ที่รวบรวมองค์ความรู้การทำธุรกิจไว้ทั้งหมด ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงกิจกรรมของ สสว. พร้อมกันนี้ยังได้จัดทำเว็บไซต์ SME ONE (www.smeone.info) ขึ้นเพื่ออัพเดทสถานการณ์ โดยแนะนำให้ผู้ประกอบการที่ต้องการทำธุรกิจกับต่างประเทศต้องศึกษา Global Niche ให้สินค้าและบริการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มย่อยหรือ Niche Marketing ในประเทศเป้าหมายได้ เมื่อสำเร็จหนึ่งประเทศก็จะสามารถเป็นโมเดลการขยายกลุ่มลูกค้าย่อยในภูมิภาคอื่นๆได้เช่นกัน ยกตัวอย่างผู้ส่งออกปลากัดไทยที่เริ่มต้นจับตลาดประเทศญี่ปุ่นและจีน เมื่อประสบผลสำเร็จจึงนำมาต่อยอด โดยเพิ่มองค์ความรู้ด้านโลจิสติกส์ให้ผู้ประกอบการ ทำให้สามารถส่งออกได้ไกลถึงกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและสหรัฐอเมริกา เกิดเป็นคลัสเตอร์ (Cluster) และส่งเสริมให้ธุรกิจอื่นๆในกลุ่มธุรกิจนี้เติบโตไปพร้อมกัน

4

ทั้งนี้ การดำเนินงานปี 2562 มีผู้ประกอบการ SME ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาแล้วกว่า 280,000 ราย เกิดมูลค่าเพิ่มมากกว่า 4,000 ล้านบาท


You must be logged in to post a comment Login