วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

“อาร์เอส” ทุ่มงบ 50 ล้านบาท ดันยอดขาย MPC ไตรมาสสุดท้าย

On September 30, 2019

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง (MPC : Multi-platform Commerce) เติบโตต่อเนื่อง สร้างรายได้เป็นสัดส่วนหลักถึง 60% ให้กลุ่มอาร์เอส ภายใต้กลุ่มธุรกิจไลฟ์สตาร์ (Lifestar) ที่มุ่งผลิตสินค้าสุขภาพและความงามคุณภาพระดับโลกสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าเฮลท์แอนด์บิวตี้ (Health and Beauty) กลุ่มสินค้าโฮมแอนด์ไลฟ์สไตล์ (Home and Lifestyle) กลุ่มสินค้าเครื่องประดับ (Accessories) กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และแก็ดเจ็ต (Electronic & Gadget) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ของธุรกิจ MPC ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่จากการขยายแพลตฟอร์มการจำหน่ายสินค้าเจาะเข้าถึงดาต้าเบสผู้บริโภคมากที่สุด ทั้งจากช่อง 8, ช่องไทยรัฐทีวี และวิทยุคูลฟาเรนไฮต์ ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้ชมได้มากกว่า 20 ล้านคน

นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ www.shop1781.com, LINE@shop1781, LINE@COOLanything รวมถึงผ่าน LifestarBIZ หรือตัวแทนขายตรง ซึ่งหลังจากโยนบิ๊กล็อตให้กับกลุ่มบีทีเอส ดาต้าเบสของทั้ง2 บริษัท จะมีฐานลูกค้าพุ่งถึง 35 ล้านคน แบ่งเป็นฐานลูกค้าของอาร์เอสอายุ 35 ปีขึ้นไป และฐานลูกค้าของกลุ่มบีทีเอสจะเป็นกลุ่ม 35 ปีลงมา ซึ่งไม่ทับซ้อนกับกลุ่มเดิม และแผนธุรกิจที่บริษัทมองโอกาสร่วมกับกลุ่มบีทีเอสจะเกิดใน 2 มิติคือ การ Synergy นั่นคือกลุ่มบีทีเอสจะทำหน้าที่เป็นอีกช่องทางขายนอกจากช่องทางเดิมที่อาร์เอสมีอยู่แล้ว และต่อยอดธุรกิจ MPC เดิมของอาร์เอสในกลุ่ม Health & Beauty เดิม และพัฒนาสินค้าใหม่ร่วมกัน ซึ่งจะเห็นภาพที่ชัดเจนในปีนี้

นอกจากนี้บริษัทยังมีเป้าหมายเพิ่มจำนวน Telesales ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญเพื่อรองรับการซื้อซ้ำของผู้บริโภค รวมทั้งให้บริการคำปรึกษาแนะนำธุรกิจตลอด 24 ชั่วโมง จากปัจจุบันมีอยู่กว่า 500 ราย และจะมีการเพิ่มขึ้นตามจำนวนการสั่งซื้อ ซึ่งบริษัทได้เตรียมย้ายออฟฟิศต้นปี 2563 สามารถรองรับเทเลเซลได้ถึง 2,000 ราย โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้าที่ซื้อขายสินค้าของบริษัทแล้วจำนวน 1.3 ล้านราย และโตต่อเนื่องเดือนละ 20,000 ราย

ล่าสุดเขย่าตลาดเฮลท์แอนด์บิวตี้ให้กลับมาคึกคักอีกครั้งในไตรมาสสุดท้ายด้วยการทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ “Story Telling” การสื่อสารแนวใหม่ ผ่านเรื่องราวในชีวิตจริงของน้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ ที่มาร่วมเผยเคล็ดลับและเปิดตัวแคมเปญ “ใครว่าผิวเข้ม กระจ่างใสไม่ได้” กับมาจีคเฮิร์บลิส พร้อมทั้งวางกลยุทธ์สื่อสารและทำการตลาดหลากหลายช่องทางในรูปแบบ Omni-Channel Marketing เชื่อมโยงช่องทางระหว่างออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าง่ายขึ้น

นอกจากนี้ยังคงตอกย้ำการเล่าเรื่องราวคุณสมบัติของสินค้าให้น่าสนใจผ่านกลยุทธ์ Celebrity Endorsement โดยพรีเซ็นเตอร์ดัง ได้แก่ “ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี” นักแสดงรุ่นใหญ่ เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม. หลินจือซัน, “ฝ้าย-เวฬุรีย์ ดิษยบุตร” นางเอกช่อง 8 สุดปัง เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์สกินแคร์ดูแลผิวพรรณแบรนด์ MAGIQUE “เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์” นักร้องขวัญใจมหาชน เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ดูแลเส้นผมแบรนด์ REVIVE และ “พีท ทองเจือ” พระเอกซุปตาร์ตลอดกาล เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร S.O.M. CMAX กาแฟสำเร็จรูปมีส่วนผสมถั่งเช่าสกัด และยังเสริมทัพด้วยการเล่าเรื่องราวคุณสมบัติของสินค้าให้น่าสนใจผ่านรายการ “ใส่ใจ ไกลโรค” และรายการ “บิวตี้ คลับ” ทางช่อง 8 ทำให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนได้รับรู้ประสบการณ์จริงที่มีประโยชน์จากผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ผ่านศิลปินดารา อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม.ไอ-แคร์ โดย “ต้น-ตระการ พันธุมเลิศรุจี”, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม. ดีทีเอ็กซ์ โดย “ยุ้ย​-ปัทม​วรรณ​ เค้ามูลคดี”,ผลิตภัณฑ์ Revive Black Shine Anti-aging Hair Serum บอกเล่าประสบการณ์ผ่าน “ผัดไท-ดีใจ ดีดีดี” รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่ได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์และได้ผลตอบรับที่ดีเป็นที่ประจักษ์ จึงเกิดการซื้อซ้ำและใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่เทรนด์โลกกำลังสนใจสินค้าเพื่อสุขภาพ และประเทศไทยก็กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aged Society) ทำให้ทุกคนหันมาใส่ใจต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจ MPC ของเราได้เตรียมลอนช์สินค้าใหม่ เป็นสุดยอดนวัตกรรมคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากลในกลุ่มเฮลท์แอนด์บิวตี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร S.O.M. CMAX และอื่นๆอีก 2-3 รายการ ด้วยกลยุทธ์การบริหารและแผนการตลาดที่ทำอย่างแม่นยำและต่อเนื่องตลอดทั้งปี คาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า มั่นใจว่าโปรดักส์ใหม่นี้จะยืนหนึ่งเป็นโปรดักส์แชมเปี้ยนในอนาคต

นายสุรชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นดำเนินการตามวิสัยทัศน์ในการสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดและความแข็งแรงให้กับองค์กรในระยะยาว พร้อมทั้งเปิดกว้างรับพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาช่วยขยายธุรกิจในแนวราบ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ นำไปสู่การขยายฐานรายได้ของบริษัทอาร์เอส ซึ่งความร่วมมือระหว่างอาร์เอสและกลุ่มบีทีเอส และการดีลกับพันธมิตรธุรกิจที่เกี่ยวพันกับการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อความงามต้นน้ำ จะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นภายในปลายปีนี้ และจะทำให้กลุ่มบริษัทอาร์เอสทะยานสู่เป้าหมื่นล้านในปี 2565 ได้อย่างแน่นอน


You must be logged in to post a comment Login