- สามัคคีปรองดองกันให้ดีPosted 19 hours ago
- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 2 days ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 3 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 6 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 7 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 1 week ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
ทัพไทยประเดิมคว้า 4 ทองศึกเพาะกายและฟิตเนสเอเชีย
การแข่งขันเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 53 ที่ ห้องแปซิฟิกแกรนด์บอลรูม โรงแรม แปซิฟิกพาเลช เมืองบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 30 ก.ย. เป็นการแข่งขันวันแรก มี มาร์ ซิอาโน่ นอร์มัน ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศอินโดนีเซีย เป็นประธานเปิดการแข่งขันร่วมด้วย ดาโต๊ะ พอล ชัวร์ ประธานสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย และ นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เลขาธิการสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย ร่วมเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วย 30 ประเทศ สมาชิก ที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้
สำหรับการแข่งขันวันแรกมีชิงชัยทั้งหมด 18 รายการ ซึ่งนักกีฬาไทยเข้ารอบชิงชนะเลิศทั้งหมด 10 รายการ
ผลปรากฎว่า มิกซ์แพร วันชัย กาญจนพิมาย – ศิริพร ศรช่วย คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 โดยมี ที่ 2 ทราน ทิ คัม ตู – ทราน ฮอง ดุย ฟุค (เวียดนาม) ที่ 3 ตัน ตัน อวง -ทันเดอร์ อู (พม่า)
ฟิตเนสหญิง รุ่นความสูงเกิน 165 ซม.จ.อ.หญิง อาจารี แท่นทรัพย์ ประเดิมคว้าทองแรกให้กับทัพนักกีฬาไทย เป็นแชมป์เอเชียสมัยที่ 4 โดยมี ณัฏฐ์ณัชชา ทองสรวง ได้ทองแดง โดยเงิน เหงียน ทิ คิม ควง (เวียดนาม)
เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 70 กก. ขุนตาล พวงเพชร แชมป์เอเชีย 2 สมัย พลาดได้เหรียญเงิน ส่วนแชมป์ตกเป็นของ ครอสนามัวร์ที ฮาริ บาบัว (อินเดีย) ที่ 3 บูดา อานัค อันชาห์ (มาเลเซีย)
แต่ในประเภทเพาะกายชาย รุ่นมาสเตอร์ อายุ 40-49 ปี ขุนตาล พวงเพชร สามารถคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ ที่ 2 บูดา อานัค อันชาห์ (มาเลเซีย) ที่ 3 มัสวอร์ (อินโดนีเซีย)
เพาะกายชาย รุ่นมาสเตอร์ อายุ 50-60 ปี น้ำหนักเกิน 80 กก. สุวิจักขณ์ พินทุสรชัย ได้เหรียญทอง ที่ 2 บัลเดฟ คูมาร์ (อินเดีย) ที่ 3 คาตาริ สัตยานารายัน ราจู (อินเดีย)
เพาะกายชาย รุ่น สเปเชียล ฐิติวัฒน์ เลี่ยมสืบเชื้อ ได้ที่ 2 แชมป์เป็นของ แวนเดอร์ ชาม ซิงห์ (อินเดีย) ที่ 3 คูมาร์ โลเคช (อินเดีย)
ฟิตเนสหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม. ศิริพร ศรช่วย ได้ทองแดง ที่ 1 ฟาม ทิ ฟอง เตา (เวียดนาม) ที่ 2 ทรานทิคัมตู (เวียดนาม)
เพาะกายหญิง รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 55 กก. สุรีรัตน์ ศาสตร์มะเริง ได้ทองแดง ที่ 1 เหงียน บิช ทาม (เวียดนาม) ที่ 2 บิลโลชาน มาดาวิ (อินเดีย)
เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 55 กก. จ.อ.นำพล ตะวังทัน ได้ที่ 4 โดย ที่ 1 โกเป ขุนตาล คูมาร์ (อินเดีย) ที่ 2 ฟาม ตรอง โท (เวียดนาม) ที่ 3 โมฮาเหม็ด มูซา (มัลดืฟท์)
เพาะกายชาย รุ่นมาสเตอร์ อายุ 50-60 ปี น้ำหนักไม่เกิน 80 กก. ชาญยุทธ์ ทิมทอง ได้ที่ 4 ที่ 1 จาง เซียง (จีน) ที่ 2 แอนตัน จาร์มาติ (อินโดนีเซีย) ที่ 3 ซิการ์ดูแลมรักชา (มองโกเลีย)
สรุป วันแรก ไทย ได้ 4 ทอง 2 เงิน 3 ทองแดง
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เลขาธิการสหพันธ์เพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ ทางเจ้าภาพอินโดนีเซีย ได้จัดการแข่งขันแทนอืนเนอร์มองโกเลีย และจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชียรายการนี้ ทำให้ อินโดนีเซียได้เตรียมขอเสนอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจัดเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ในปี 2021 ต่อจากปี 2020 ที่ ประเทศอุซเบกิสถาน เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
You must be logged in to post a comment Login