- ว่าด้วย “นิสมฺม กรณํ เสยฺโย”Posted 20 hours ago
- สร้างบารมีพาอยู่เย็นเป็นสุขPosted 2 days ago
- ต้องทำชีวิตให้ดีกว่าเก่าPosted 3 days ago
- สิ่งที่อยากเห็นในปี 68Posted 6 days ago
- เล่นอะไรที่สร้างสรรค์ดีกว่าPosted 7 days ago
- ปีใหม่ขอให้มีสติปัญญาใหม่ๆPosted 1 week ago
- ความรู้วิเศษช่วยลดทุกข์Posted 1 week ago
- แก้สันดานหัวดื้อให้หายดื้อPosted 1 week ago
- ลองเป่าเศรษฐกิจให้โป่งทีPosted 2 weeks ago
- วัดสวนแก้วจัดงานต้อนรับปีใหม่Posted 2 weeks ago
แท่นวัชรอาสน์
คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 1 ต.ค. 62)
คำว่า “อีโก้” หรือ “อัตตา ตัวตน” มักจะเกิดกับคนที่ได้ยศ ได้ลาภ ได้ตำแหน่ง มักจะเอาอัตตาตัวตนไปเบ่งกับคนนั้นคนนี้ เป็นข่าวคราวเรื่องราวกันเมื่อไม่นานมานี้เมื่อมี ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล ลงพื้นที่ไปภาคใต้ แล้วไปวางตัวยังไงไม่รู้เกิดทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตำรวจคนนั้นค่อนข้างใจเย็น ไม่มีคำโต้ตอบแบบรุนแรง หรือว่าซัดปืนซัลโวก็ไม่มี เป็นตำรวจที่ใช้ได้ ตำรวจต้องอดกลั้น อดทนต่อการถูกตำหนิได้ ถ้าตำรวจไม่อดทนอดกลั้นคงจะลำบาก
นี่ก็ต้องรองรับอารมณ์ของคนที่อ้างว่าเป็นนักการเมืองซึ่งไปทำประโยชน์ ถ้าแจ้งไปล่วงหน้าตำรวจก็จะเตรียมตัวมาอารักขาหรือมาดูแล มันมีปัญหาตรงที่ว่าแจ้งไปหรือเปล่า ถ้าแจ้งแล้วไม่ไปก็ว่าได้ แต่ถ้าไม่แจ้งแล้วบอกว่าเขาไม่มา อันนี้เป็นความผิดของใครก็คิดเอาเองก็แล้วกัน แต่ที่ไม่เหมาะสมที่สุดคือ ท่าทางที่ดุดันใส่ตำรวจเป็นไฟอย่างนั้น เรียกว่าเป็นนักการเมืองหัวร้อน กลับมาพรรคคงอบรมหูร้อนต่อไปแน่
ได้ยินหลายคนออกวิทยุเป็นข่าวคราว โดยเฉพาะลีน่าจังซัดหนักว่าใหญ่โตมาจากไหนถึงได้ลืมตัว กินเงินเดือนจากภาษีประชาชนมาทำอย่างนี้ได้อย่างไร เรียกว่าลีน่าจังซัดคนเดียวก็หูร้อนแล้ว เรื่องนี้คงจะต้องมีการตักเตือน อบรมว่าอย่ากร่าง ใส่อีโก้ อัตตา ติดตัวตนไป
สมัยก่อนเขาทำแท่นเรียกว่าแท่นวัชรอาสน์ ตอนนี้ทำมาไว้วัดสวนแก้วแล้ว เราสร้างแท่นวัชรอาสน์ไว้นี่น่าจะสอนคนได้ดี ถ้าไม่มีตัวตน ไม่มีอีโก้ ไม่มีอัตตา พระพุทธเจ้าตอนท่านบำเพ็ญทุกขกิริยามีเด็กเอาฝุ่นไปซัดใส่บ้าง ฉี่รดบ้าง ท่านก็ไม่ได้ออกอาการว่าทำกับลูกกษัตริย์อย่างนี้ได้อย่างไร คือความเป็นตัวตนแห่งลูกกษัตริย์ไม่มี หรือมีท่านก็พยายามสลายละลายมันจนไม่สามารถบีบคั้นใจให้ต้องอวดใหญ่อวดโต ข่มเหง ข่มขู่ใครอย่างนี้
กรณีนี้คงเป็นบทเรียนให้นักการเมืองที่คนเขาเบื่อกันเต็มทีแล้วยังสร้างความน่าเบื่อขึ้นไปอีก คราวหน้าคงเลือกตั้งยากแล้วล่ะ ส.ส.กทม. ไปเบ่งในภาคใต้ เชื่อว่าทำให้ท้องที่ก็ลำบากใจ แต่ว่าคงเป็นบทเรียนที่ต้องแก้ไข ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นต้องรู้จักคำว่าว่างจากความมีตัวตน ไม่ถือตัวถือตน ไม่ยกตนข่มใคร เรียกว่าเป็นผู้มีคุณธรรมแห่งความไม่มีตัวตนนั้น เขาจึงนับถือพระพุทธเจ้าว่า ละลายอัตตา ตัวตน ละลายอีโก้ คนเราพอใหญ่พอโตก็มาอวดใหญ่ อวดโต วางก้าม ก้าวร้าวอะไรต่างๆเยอะแยะ
เชื่อว่าบทเรียนนี้จะสร้างสำนึก อัตตา ตัวตนที่ใหญ่โตเกินฐานะ จะระรานไปทั่วนั้นคงไม่ได้ เพราะสังคมนี้ไม่ยอมให้ใครเอาตัวตนไปข่มเหงอวดอำนาจ คนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้จะต้องเจอแต่ความทุกข์แน่นอน หัวร้อนเจอกับหัวร้อน เสียงก่นด่าทั่วไปก็หนัก ถ้าเจอในพรรคว่ากันอีกก็คงจะต้องปรับตัวปรับใจกันต่อไป คนเราผิดพลาดกันได้ สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง สองมือ ส.ส. ก็คงโซเซไปบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login