- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
บ้านผีสิงจะมีราคาไหม
คอลัมน์ :โลกอสังหาฯ
ผู้เขียน : ดร.โสภณ พรโชคชัย
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 4-11 ตุลาคม 2562)
วันนี้ผมไม่ได้เขียนเรื่องไสยศาสตร์นะครับ แต่ขอเขียนเรื่องอสังหาริมทรัพย์ที่มีคนตายมากมายว่าจะมีมูลค่าหรือไม่ เพียงใด จากกรณีนครอาเจะห์ เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ที่ผมเพิ่งเดินทางไปสำรวจวิจัยมาสดๆร้อนๆ
ผมเดินทางไปสำรวจราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่นครอาเจะห์ เป็นเพราะว่าเมื่อ 15 ปีก่อน (26 ธันวาคม 2547) ได้เกิดมหาพิบัติภัยสึนามิจนมีผู้เสียชีวิตที่เมืองนี้เมืองเดียว 160,000 คน รวมทั่วอินโดนีเซียคง 200,000 คน และรวมทั่วมหาสมุทรอินเดียก็คงมี 300,000 คน เหตุการณ์นี้นับว่าเป็นมหาพิบัติภัยที่มีคนตายมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก
ก่อนหน้าเกิดมหาพิบัติภัยนี้ ในอาเจะห์ทั้งจังหวัดที่นครบันดาอาเจะห์ตั้งอยู่มีความพยายามของชาวเมืองที่จะแยกตัวออกจากอินโดนีเซีย จริงๆแล้วในตอนแรกของการรวมประเทศเป็นอินโดนีเซีย จังหวัดนี้ซึ่งเคยเป็นราชอาณาจักรอิสระก็ไม่สู้เต็มใจที่จะรวมตัวนัก และเมื่อรวมเป็นอินโดนีเซียแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจเรื่อยมา จนมีการเจรจาและนำไปสู่การลุกขึ้นสู้ แต่พอเกิดพิบัติภัยครั้งนี้แล้วปรากฏว่าความพยายามนี้ได้ล้มเลิกไป ส่วนหนึ่งเพราะพวก “กบฏ” ถูกปราบปรามไปเป็นจำนวนมาก อีกส่วนหนึ่งเพราะทางส่วนกลางของอินโดนีเซียให้เสรีภาพในการปกครองตัวเองในระดับหนึ่ง อดีตหัวหน้ากบฏก็ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอาเจะห์ในปัจจุบัน
ในเช้าวันที่เกิดสึนามิซึ่งเป็นวันหยุดนั้น ตามชายฝั่งมีน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นมาถึง 25 เมตร พัดพาบ้านเรือนพังพินาศเสียหายไปมากมาย บางหมู่บ้านที่มีคนอยู่ราว 5,000 คน ก็เสียชีวิตเหลือ 400 คน ผมเองเฝ้าดูอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งจะเดินทางไปสำรวจการเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินนี้ จนเมื่อครบรอบ 10 ปีสึนามิในปี 2557 ผมก็วางแผนจะเดินทางไปอีก แต่ปรากฏว่าติดขัดงานบางประการ จนถึงครั้งนี้เพิ่งได้เดินทางไปในระหว่างวันที่ 7-10 สิงหาคม 2559 โดยร่วมมือกับสมาคมอสังหาริมทรัพย์อินโดนีเซียสำรวจการเปลี่ยนแปลงนี้
ดูจากภาพในเว็บเช่าโรงแรมปรากฏว่าเป็นโรงแรมใหม่เอี่ยม แต่พอเข้าไปพักจึงรู้ว่าเป็นโรงพยาบาลเดิม ซึ่งแน่นอนว่าในโรงพยาบาลย่อมมีผู้เสียชีวิตอยู่เป็นจำนวนมากในแต่ละห้อง ยิ่งเมื่อเกิดเหตุสึนามิปรากฏว่ามีประชาชนมาหลบภัยและเสียชีวิตอยู่ในอาคารนี้ 400 คน เรียกว่าแทบทุกห้องคงมีศพผู้เสียชีวิตกันเกลื่อน ผมได้ห้องอยู่ชั้น 2 ยิ่งมีผู้เสียชีวิตมาก
ผมนอนอยู่ที่นั่นคนเดียว แต่ผมไม่กลัวผีหรอกครับ คนที่มาพักส่วนมากนอนพักเป็นคู่ๆทั้งนั้น ปีกของอาคารที่ผมพักบางคืนก็มีคนนอนห้องใกล้ๆบ้าง บางคืนก็ไม่มีคนอื่นเลยนอกจากผม คนทำความสะอาดคงย้ายคนที่มาพักใหม่ไปอีกปีกหนึ่ง ปล่อยผมไว้คนเดียว แต่ผมก็ไม่เจอผีเลย เพราะจริงๆไม่มีผีหรอกครับ เป็นอุปาทาน แม้แต่ลมพัดผ่านหรือเงาพัดผ่านเราก็อาจมีอุปาทานไปได้
ข้อค้นพบแรกก็คือ บริเวณรอบโรงแรมนั้นราคาที่ดินแพงเป็นพิเศษ คือตารางวาละ 22,000 บาท ในขณะที่บริเวณที่ห่างออกไปราคาก็ลดหลั่นลงไป เพราะโรงแรมแห่งนี้นำความเจริญมาให้ อาจกล่าวได้ว่าในบริเวณอื่นมีราคาต่ำกว่านี้คือเพียงตารางวาละ 11,000 บาท การบริการของโรงแรม 2.5 ดาวนี้ที่มีค่าที่พักคืนละ 1,000 บาท ก็บริการด้วยดี ให้ความใส่ใจต่อแขกดีพอสมควร นับว่าคุ้มค่าเงินมาก
กรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นที่พัทยาที่ชายหาดนาจอมเทียน มีโรงแรมแห่งหนึ่งที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ มีควันพวยพุ่งไปตามห้องต่างๆ ปรากฏว่าในครั้งนั้นเมื่อปี 2540 มีผู้เสียชีวิตจากการนี้ถึง 96 ศพ หรือเกือบ 100 ศพ นับเป็นความน่าอนาถเป็นอย่างยิ่ง จำนวนมากถูกรมควันเสียชีวิต และในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้น 8 ปี โรงแรมแห่งนี้ก็เปิดขึ้นใหม่ และยังเปิดบริการด้วยดีมาจนถึงวันนี้ ไม่เคยมีข่าวคราวเรื่อง “ผี” แต่อย่างใด
การเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินริมหาดที่จู่ๆก็มีน้ำทะเลไหลและยกระดับขึ้นมาถึง 25 เมตร ถึง 3 ระลอกนั้น เป็นเรื่องที่สุดหยั่งคาดจริงๆ ปรากฏการณ์นี้ทำให้ประชาชนไม่กล้าไปอยู่ในพื้นที่ 1 ปีเต็ม ไม่ใช่เพราะกลัวผีสางนางไม้ที่ไหน แต่เพราะกลัวว่าจะมีกรณีสึนามิซ้ำอีก ปรากฏการณ์นี้ทำให้ไม่มีใครซื้อขายทรัพย์สิน ที่ดินแต่อย่างใด บางท่านอาจบอกว่าราคาที่ดินตก ในความเป็นจริงไม่มีการซื้อขายเลยก็ไม่น่าจะตก แต่ก็อาจมีเพียงไม่กี่รายที่ยอมขายถูกๆ ซึ่งเป็นข้อยกเว้น
ภายหลังรัฐบาลได้ก่อสร้างถนนใหม่สายต่างๆในนครบันดาอาเจะห์ โดยเฉพาะตามชายหาดได้รับการบูรณะใหม่ โดยก่อสร้างให้มีสภาพดี ขยายเขตทางกว้าง ปรับปรุงทัศนียภาพดีขึ้น ปรากฏว่าการนี้ทำให้ราคาที่ดินกลับพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม ประจวบกับการเข้ามาช่วยเหลือของนานาชาติในการฟื้นฟูสร้างบ้านใหม่ ทำให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นเจริญเติบโตเด่นชัด ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ก็ยิ่งขยายตัวไปใหญ่
ผมเขียนเรื่องนี้เป็นบทความวิชาการในชื่อว่า “Aceh Land Value, 12 Years after the Tsunami” ตีพิมพ์ในวารสาร Fair & Equitable, March 2017 หน้า 26-30 ของสมาคม International Association of Assessing Officers ซึ่งผมเป็นสมาชิกมา 21 ปีแล้ว และเป็นผู้บรรยายในงานประชุมนานาชาติหลายต่อหลายครั้งโดยเฉพาะในเรื่องนี้ ท่านที่สนใจสามารถอ่านได้ที่ https://bit.ly/2lO317Q หรือที่ https://bit.ly/2NkzCPo
อย่าลืมนะครับ ราคาอสังหาริมทรัพย์ขึ้นโดยไม่เกรงใจผีสางใดๆ
You must be logged in to post a comment Login