- วัดสวนแก้วจัดงานวันเด็กปี 68Posted 8 hours ago
- ว่าด้วย “นิสมฺม กรณํ เสยฺโย”Posted 1 day ago
- สร้างบารมีพาอยู่เย็นเป็นสุขPosted 3 days ago
- ต้องทำชีวิตให้ดีกว่าเก่าPosted 3 days ago
- สิ่งที่อยากเห็นในปี 68Posted 7 days ago
- เล่นอะไรที่สร้างสรรค์ดีกว่าPosted 1 week ago
- ปีใหม่ขอให้มีสติปัญญาใหม่ๆPosted 1 week ago
- ความรู้วิเศษช่วยลดทุกข์Posted 1 week ago
- แก้สันดานหัวดื้อให้หายดื้อPosted 1 week ago
- ลองเป่าเศรษฐกิจให้โป่งทีPosted 2 weeks ago
คนกทม.ต้องการ‘มนุษย์เหล็ก’?
ยืนยันว่า ไม่เคยคิดทรยศพรรคเพื่อไทย เพราะเกิดมาจากพรรคนี้ แต่สำหรับการทำงานเพื่อคนกรุงเทพฯจะต้องทำงานร่วมกันกับทุกฝ่าย และในนามอิสระจะหาแนวร่วมมาร่วมกันทำงานได้มากขึ้น อีกอย่างคนกรุงเทพฯเบื่อการเมืองที่เป็นแบบพรรคใดพรรคหนึ่งแล้ว
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนนายชัชชาติอย่างเต็มที่ เพราะนายชัชชาติเคยเป็นเพื่อนร่วมงาน เคยทำงานบริหารกระทรวงคมนาคมจนมีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายว่าเป็นนักการเมืองน้ำดีท่านหนึ่ง นายชัชชาติเป็นคนที่หลีกเลี่ยงความขัดแย้งต่างๆที่จะเกิดขึ้นเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะถ้าไม่ใช่เป็นปัญหาหลักการสำคัญที่ประนีประนอมกันไม่ได้
นายภูมิธรรมระบุว่า การตัดสินใจของนายชัชชาติ “ถูกจังหวะ ถูกที่ ถูกเวลา” ไม่มีสิ่งใดน่าเสียใจต่อการตัดสินใจครั้งนี้ ถึงเวลาแล้วที่กรุงเทพฯต้องเปลี่ยนแปลง ได้เวลาแล้วที่กรุงเทพฯต้องดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะรู้สึกเสียดายเพียงใด แต่ก็จะสนับสนุนนายชัชชาติให้ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ 1 เสียงของตนขอมอบให้นายชัชชาติ
ส่วนนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า ดีใจที่นายชัชชาติสนใจและตั้งใจลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. เพราะนายชัชชาติเป็นคนดี และเป็นคนที่มีความรู้ ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีวันมองนายชัชชาติเป็นศัตรู เพราะนายชัชชาติคือคนที่เกิดจากพรรคเพื่อไทย และโตจากพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคเพื่อไทยจะส่งคนลงสมัครเพื่อไปแข่งขันกับนายชัชชาติหรือไม่ ทางพรรคเองมีนโยบายท้องถิ่นอยู่แล้ว ซึ่งต้องคิดกันว่าจะมีบุคคลที่มีความสามารถเท่ากับนายชัชชาติหรือไม่ หากหาคนที่สู้ไม่ได้ก็อาจจะเอาใจช่วยอยู่ในใจ
นายปลอดประสพยังบอกอีกว่า หากนายชัชชาติชนะการเลือกตั้งและได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี และเชื่อว่านายชัชชาติพร้อมจะร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยในการบริหาร กทม. ต้องขอยกย่องว่านายชัชชาติเป็นคนที่กล้าหาญ ฉลาด มองการณ์ไกล ท่านจะทำงานอะไร ถ้าอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็มักจะเสียไปฝ่ายหนึ่งและได้ฝ่ายหนึ่ง เช่น จะทำงานกับรัฐบาลที่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยก็ยาก เพราะจะเกิดความรู้สึกว่าเป็นฝ่ายพรรคโน้นพรรคนี้ ทำให้นายชัชชาติตัดสินใจลงสมัครในนามอิสระเพื่อดึงทุกฝ่ายเข้ามาร่วมพัฒนา กทม.
นี่ต้องถือว่าถ้าคนไม่ฉลาดอาจจะต้องพูดว่าพรรคอย่างโน้น พรรคอย่างนั้น แต่คนในพรรคเพื่อไทยอย่างนายภูมิธรรมก็เข้าใจ เพราะคำว่าไม่คิดทรยศพรรคเพื่อไทยเป็นคำพูดที่บ่งชัดอยู่แล้ว ส่วนที่คนจะคิดไปบ้างต่างๆนานาถือเป็นธรรมชาติของคนที่จะคิดกันไป ต่างคนต่างจิตต่างใจ พูดวิพากษ์วิจารณ์กัน ถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา
หวังว่างานนี้คู่แข่งต้องคิดกันหนัก ใครจะลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. คงต้องลุ้นติดตามกันต่อไป แต่คิดว่าคู่แข่งก็ต้องหาผู้สมัครที่มาแรง ต้องหาคนที่หน่วยก้านดีที่ส่งมาแล้วไม่แพ้หลุดลุ่ยอะไรทำนองนั้น เพราะแค่นายชัชชาติเปิดตัวว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระก็ได้ลงพื้นที่ชิมลางด้วยการแจกหน้ากากอนามัยจำนวน 10,000 ชิ้น ให้กับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาย่านสยามสแควร์ หลังจากกรุงเทพมหานครประสบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก
เพราะฉะนั้นศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่จะถึงนี้จะเป็นการพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า คน กทม. ต้องการคนทำงานที่มีสมอง มีความแข็งแกร่ง อย่างที่เขาเรียกกันว่าเป็นมนุษย์เหล็ก จะได้ลุยพัฒนา กทม. ให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login