วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

IVL ชูเรทติ้งหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของบริษัทระดับ A สูงในตราสารประเภทนี้ที่ให้ดอกเบี้ย 5% ในช่วง 5 ปีแรก

On October 17, 2019

นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ Feedstock และ PET บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL กล่าวว่า IVL เป็นผู้ผลิตโพลีเมอร์ PET รายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยโรงงานผลิตที่ตั้งอยู่ใน 5 ทวีป ได้แก่ เอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป และแอฟริกา ทำให้อยู่ใกล้ชิดและตอบสนองความต้องการของลูกค้าซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งระดับโลกและระดับภูมิภาคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ IVL ได้เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจด้วยการผลิต PTA (Purified Terephthalic Acid) สารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิต PET ใน 3 ภูมิภาค ได้แก่ เอเชีย ยุโรป และอเมริกา ทำให้ IVL มีข้อได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจทั่วโลก

นายยาโชวาดัน โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านรีไซเคิล กล่าวถึงโอกาสในการทำธุรกิจ PET รีไซเคิลว่า ความต้องการใช้ PET ทั่วโลกในระยะยาวเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 5-6 ต่อปี ด้วยการเปลี่ยนแปลงระดับมหภาค ทั้งจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น รายได้เพิ่มสูงขึ้น การขยายตัวของเมือง และการเติบโตของห้างร้านต่างๆ พลาสติก PET นับว่าเป็นสินค้าเพื่อความยั่งยืน เพราะสามารถนำมารีไซเคิลได้ทั้งหมด เมื่อเทียบกับการใช้บรรจุภัณฑ์อื่นๆ PETก่อให้เกิดคาร์บอนฟุตปรินท์น้อยที่สุด และน้ำหนักเบาที่สุด จึงถือว่ามีประสิทธิภาพ และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก

11112

นายอุเดย์ พอล ซิงห์ กิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ Fibers กล่าวเสริมว่า ธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายของ IVL มีลูกค้ากลุ่มใหญ่เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งมีการเติบโตประมาณร้อยละ 5 ต่อปี หรือมากกว่านั้น ผลิตภัณฑ์เส้นใยและเส้นด้ายของเราถูกนำไปผลิตสินค้าที่ผู้บริโภคมีความต้องการสูง เช่น ชุดทำงาน ชุดลำลอง ชุดกีฬา เครื่องนอน ของตกแต่งบ้าน และสินค้าอีกมากมายที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วๆไป นอกจากนี้ IVL ยังผลิตเส้นใยเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์สุขอนามัย อย่างเช่นผ้าอ้อมเด็ก ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ผ้าอนามัย แผ่นทำความสะอาด และอื่นๆอีกมาก อีกหนึ่งกลุ่มพิเศษคือ เส้นใยสำหรับยานยนต์ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญ เช่น ยางรถ ถุงลมนิรภัย เบาะที่นั่ง เป็นต้น และยังผลิตเส้นใยและเส้นด้ายที่ใช้งานในอุตสาหกรรมอีกด้วย

IVL เป็นผู้ผลิตเส้นใยและเส้นด้ายรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีหลายชนิดสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน ทั้งเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ไนลอน เรยอน และเส้นใยขนสัตว์ ธุรกิจนี้มีโรงงานตั้งอยู่ในเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ นอกเหนือจากธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายแล้ว ธุรกิจอื่นๆของ IVL ได้แก่ ออกไซด์แบบบูรณาการและอนุพันธ์ เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ และบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมใกล้ตัวผู้บริโภคทั้งสิ้น อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ส่วนตัว ของใช้ภายในบ้าน เคมีสำหรับการเกษตร และเคมีสำหรับอุตสาหกรรม

111113

ในปี 2561 IVL ได้รับการจัดอันดับเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ที่มีรายได้เป็นอันดับที่ 35 ของโลก โดย Chemical Week สื่อนานาชาติที่รายงานความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ สำหรับผลประกอบการในรอบ 12 เดือนล่าสุด สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 IVL มีรายได้ 376,000 ล้านบาท กำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (Core EBITDA) 45,000 ล้านบาท กำไรหลักสุทธิ 21,000 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน 38,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ IVL ได้ดำเนินธุรกิจตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างแท้จริง และตระหนักถึงการลดของเสีย อนุรักษ์ทรัพยากร และส่งเสริมการนำทรัพยากรที่ใช้งานแล้วกลับมาใช้งานซ้ำหรือรีไซเคิลให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยโรงงานของ IVL มุ่งรักษาและหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรเพื่อลดคาร์บอนฟุตปรินท์ เพื่อก่อให้เกิดความยั่งยืนสำหรับธุรกิจมากยิ่งขึ้น ในปี 2562 IVL ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ระดับโลก (Dow Jones Sustainability World Index : DJSI World) เป็นครั้งแรก และยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Dow Jones Sustainability Emerging Markets Index) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 IVL เป็นผู้นำการรีไซเคิลพลาสติก PET ด้วยโรงงานรีไซเคิลทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ทั้งยังร่วมกับองค์กรต่างๆระดับนานาชาติในการสร้างความตระหนักและส่งเสริมการรีไซเคิล บริษัทให้ความสนใจที่จะลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจรีไซเคิล PET และได้ร่วมมือกับผู้บริโภค ภาคเอกชน และภาครัฐ ผลักดันให้มีการนำ PET รีไซเคิลมาใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก

1111

ล่าสุด IVL เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ มูลค่าไม่เกิน 15,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 ทริส เรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” และอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของบริษัท ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable”

หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯดังกล่าวกำหนดอัตราดอกเบี้ยในช่วง 5 ปีแรกที่ระดับ 5.00% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน โดยเป็นอัตราที่จูงใจสำหรับการลงทุนในภาวะปัจจุบัน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.50% ทั้งนี้ บริษัทได้แต่งตั้งธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯในครั้งนี้ โดยคาดว่าจะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2562 จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th และสำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับ IVL สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.indoramaventures.com


You must be logged in to post a comment Login