- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 11 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 6 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 7 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
“PhillipLife”พลิกโฉมปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่-แนะนักลงทุนทำกำไรส่งท้ายปี
ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ บวกกับการงานการเงินที่มั่นคง คือหลักประกันว่าชีวิตเราในอนาคตจะมีความมั่นคง “PhillipLife” คืออีกหนึ่งทางเลือกที่จะเข้ามาดูแลชีวิตคุณและคนที่คุณรัก รวมถึงการลงทุนด้วยการออมที่มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนดี เอาใจนักลงทุนที่ไม่ชอบการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ล่าสุด “PhillipLife” สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ จัดกิจกรรม PhillipLife Family พาลูกค้ามาดูภาพยนตร์เรื่องคนเหล็ก Terminator 6 (Dark Fate) วิกฤตชะตาโลก ที่โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย สยามพารากอน
ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่จัดกิจกรรมเพื่อขอบคุณลูกค้าที่เลือกให้ “PhillipLife” ดูแลตนเองและคนที่รัก โดยมีลูกค้าตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 700 คน กับการชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่ฉายพร้อมกันทั่วโลก ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมมากมาย เช่น การตรวจสุขภาพเบื้องต้น การแจกของรางวัล จับ LuckyDraw
นายปรัชญา กุลวณิชพิสิฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิลลิปประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “PhillipLife” ได้พลิกโฉมใหม่ในหลายๆมิติ เช่น การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูทันสมัยขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มคนวัยทำงานและคนรุ่นใหม่ให้มาเป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งจะช่วยทั้งการวางแผนชีวิต แผนการลงทุน การเงิน การออม ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆทั้งออฟไลน์และออนไลน์ที่บริษัทได้ทำขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ายุคไทยแลนด์ 4.0 รวมทั้งเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าให้มีความหลากหลาย เข้าถึงง่ายทั้งข้อมูลข่าวสาร ผลิตภัณฑ์ และบริการ พร้อมกับนำเสนอสิ่งใหม่ๆให้วงการประกันชีวิตของไทย
สำหรับการจัดกิจกรรม PhillipLife Family นับว่าเป็นครั้งแรกที่จัดงานแบบเอ็กซ์คูลซีฟเพื่อใกล้ชิดกับลูกค้า และเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ไว้ใจเลือกให้ “PhillipLife” ดูแลทุกจังหวะของชีวิต และการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย ในส่วนของการจัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าลักษณะเช่นนี้ในอนาคตคาดว่าจะมีการจัดเป็นระยะๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้รู้จักกับ “PhillipLife” มากขึ้น
ส่วนเรื่องการลงทุนช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2562 นายปรัชญาเปิดมุมมองด้านการลงทุนพร้อมแนะเคล็ดลับการลงทุนทำกำไรช่วงโค้งสุดท้ายของปีว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ ภาพรวมตลอดทั้งปี ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย )จำกัด (มหาชน) มองว่าผลตอบแทนจากการลงทุนจะยังอยู่ในแดนบวก อยู่ที่ประมาณ 100 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,600-1,712 จุด โดยอัตราส่วนราคาต่อกำไร (PE) อยู่ที่ 18.7 เท่า
ด้านอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของดัชนีอยู่ที่ประมาณ 3% ปรับตัวลงมาเล็กน้อยจากปี 2561 อยู่ที่ 4% ส่วนปัจจัยลบที่ต้องจับตามองในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้คือ ภาวะเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเหลือ 0.8-0.9% ถือว่าหลุดจากกรอบที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินไว้ว่าจะอยู่ที่ 1-3% ส่วนเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุน หลังจากที่ ธปท. ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจาก 1.75 % เหลือ 1.5% ตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเช่นกันจาก 2-2.25% มาอยู่ที่ 1.75-2%
จากปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้สรุปได้ว่า เงินเฟ้อต่ำ ดอกเบี้ยต่ำ สงครามการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา จะเป็นตัวฉุดให้บรรยากาศการลงทุนไม่คึกคักเท่าที่ควร และมีการเติบโตต่ำ ดังนั้น ขอแนะนำว่านักลงทุนไม่ควรคาดหวังกำไรมากเกินไป หรือถ้าขาดทุนควรปรับจุดของการขาดทุน (top-loss) ใหม่ โดยเชื่อว่าหุ้นจะขึ้น-ลงไม่แรงมาก เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจและธุรกิจยังมีหนี้สินไม่มากมาย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ชอบถือหุ้นยาวแนะนำให้ซื้อหลักทรัพย์ที่เป็นกองทุนเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลและเอกชน ส่วนหุ้นรายตัวควรดูราคาต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นต่ำกว่า 1 เท่า อัตราส่วนราคาต่อกำไร (PE) ไม่ควรต่ำกว่า 10 เท่า เงินปันผลควรอยู่ที่ 3-4% นักลงทุนที่ถือระยะยาวควรเน้นปันผลจะปลอดภัยกว่า ส่วนนักลงทุนที่เป็นกลุ่มเทรดดิ้งแนะนำว่าถ้าดัชนีลงมาที่ 1,600 จุด ควรเป็นจุดเข้าซื้อ ทั้งนี้ หากดัชนีปรับตัวมาอยู่ 1,600 จุดปลายๆ ไม่แนะนำให้เข้าซื้อ แต่ถ้าดัชนีปรับไปถึง 1,700 จุด ควรขายทำกำไร
นอกจากนี้ยังแนะนำให้ซื้อกองทุนรวมอีทีเอฟที่เกาะกับ SET50 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะจะได้ผลตอบแทนดีตาม SET50 ที่ถือว่าเป็นหุ้นเด่นที่ถูกคัดกรองมาแล้ว 50 ตัวแรก ถ้าหากดัชนีต่ำกว่า 1,650 จุด ให้ทยอยซื้อเก็บไว้เรื่อยๆ ถือไว้ระยะยาว ส่วนนักลงทุนที่มีเงินทุนเป็นรายเดือนแนะนำให้หักแบบดอลลาร์คอสต์ไว้ ซึ่ง “PhillipLife” ก็มีบริการด้านการลงทุนให้ลูกค้าเช่นกัน
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ “PhillipLife” ที่กำลังพลิกโฉมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในแวดวงธุรกิจประกันชีวิตของไทย ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลชีวิตคุณและคนที่คุณรัก พร้อมกับดูแลการเงินให้มีความมั่นคง และแนะนำเคล็ดลับในการลงทุนดีๆเพื่อเผชิญกับความเสี่ยงที่น้อยที่สุด
You must be logged in to post a comment Login