วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ดาหน้าถล่ม ณัฐวุฒิ ใจใส 14-2

On November 2, 2019

ทะลุสู่รอบ 16 ทีมได้สำเร็จ ด้าน กรมทางหลวง ถล่มสโมสรรถไฟ 10-1 บางกอก ซิตี้ หืดจับยิงแซง กัสดาฟี่ 5-2 นครปฐม พลิกอัด วอริกซ์ ศรีราชา 8-5 ในศึกฟุตซอล เอฟเอ คัพ 2019 รอบ 32 ทีมสุดท้ายเมื่อ 2 พ.ย.ที่แฟร์ชั่นไอส์แลนด์ 1572701321333

กรมทางหลวง 10– สโมสรรถไฟ 1

เปิดสนามขึ้นแล้วสำหรับศึกฟุตซอลเอฟเอ คัพ 2019 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 2 ล้านบาท ที่ไอส์แลนด์ฮอลล์ ศูนย์การค้าแฟร์ชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเกมในรอบ 32 ทีมสุดท้าย โดยเวลา 09.00 น. เปิดหัวด้วยการเจอกันระหว่าง “สิงห์ไฮเวย์” กรมทางหลวง อันดับ 7 จากฟุตซอลไทยลีก ที่พบกับ สโมสรรถไฟ ทีมที่ผ่านมาจากรอบคัดเลือก

เปิดเกมขึ้นมากรมทางหลวงบุกทันที นาทีแรก โรมวลโด้ ดา ซิลวา ทักทายด้วยการส่องไกลบอลชนคานอย่างจัง นาทีต่อมา โรมวลโด้ ได้ซัดอีกครั้งคราวนี้ชนเสา

น.3 เกมรับของสโมสรรถไฟก็ต้านไม่ไหว คราวนี้โดน จิรสิน กิ้มเส้ง ได้ยิงระยะเผาขนเข้าไปเป็น 1-0 นาทีเดียวกัน สุรสิทธิ์ อรุณลีก จ่ายจากขวาให้กับ เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ ยิงตรงหัวกระโหลกเสียบโคนเสาเป็น 2-0

น.5 โรมวลโด้ ดาซิลวา กระชากบอลจากลางสนามก่อนทำชิ่งกับ สุรสิทธิ์ อรุณลีก แล้วจัดการแปเข้าไปง่ายๆเป็น 3-0

จากนั้น น.8 ทางสโมสรรถไฟ สามารถที่จะมาตีไข่แตกได้สำเร็จจากเกมโต้กลับ วัชธวุฒิ สูติ ยิงจากฝั่งขวา หัสดี มักเชียว นายด่านที่ย้ายมาจากสิงห์ สมุทรสาคร และลงมาใหม่ปัดออกมาแต่เข้าทาง ธนวุฒิ ทองด่านเหนือ จัดการซ้ำให้ทีมไล่มา 1-3

เกมจากนั้นกรมทางหลวงผ่อนลงไป ประกอบกับใช้แข้งดาวรุ่งชุดสองลงสนามมาเป็นส่วนใหญ่แม้จะบุกแต่ก็ทำสกอร์เพิ่มไม่ได้ ผ่านครึ่งแรก สิงห์ไฮเวย์นำอยู่ 3-1

ลงมาครึ่งหลัง น.25 โรมวลโด้ ดา ซิลวา ก็จัดการซัดให้กรมทางหลวงหนีไป 4-1 จากนั้น นาทีต่อมา สุรสิทธิ์ อรุณลีก ก็มาบวกสกอร์เป็น 5-1

เกมรับสโมสรรถไฟเริ่มต้านไม่ไหว น.27 สุรสิทธิ์ อรุณลีก ก็หลุดเข้าไปยิงเป็น 6-1 จากนั้น น.30 สุทธิพร กลัดเจริญ ก็ได้โอกาสยิงเป็น 7-1

เข้าสู่ น.34 ณัฐดนัย สังข์สุวรรณ หลุดเข้าตรงกลางแล้วจัดการซัดง่ายๆเป็น 8-1 ท้ายเกม น.38 เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ ส่องไกลเข้าประตูไปอีกเป็น 9-1

และนาทีสุดท้าย สุทธิพร กลัดเจริญ แข้งดีกรีทีมชาติไทยอัดเต็มข้อเป็นประตูปิดท้ายให้ กรมทางหลวง ถล่มชนะ สโมสรรถไฟไป 10-1 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ

ผู้เล่น 5 คนแรกทั้งสองทีม
กรมทางหลวง – มาห์ดี้ โมสฟาตาอี (GK),สุรสิทธิ์ อรุณลีก,โรมวลโด้ ดา ซิลวา,เกียรติยศ แฉล้มเขตร์,จิรสิน กิ้มเส้ง
สโมสรรถไฟ – นฤเบศร์ วอทอง (GK),สราวุฒิ ช้างสุวรรณ,วัชธวุฒิ สูติ,สุดเขต กลิ่นสอน,ประวิทย์ ใจวานิช
…………………………………..
บางกอก ซิตี้ 5- กัสดาฟี่ 2

คู่ต่อมา เวลา 11.00น. “มังกรเทพ” บางกอก ซิตี้ จากลีกใหญ่ พบกับ “คิงคองพิฆาต” กัสดาฟี่ ที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้ามา เปิดฉากขึ้นมาเป็นทาง บางกอก ซิตี้ ที่พยายามครองบอลเปิดเกมบุกเข้าใส่ ก่อนจะมาออกนำใน น.14 จาก ธนาธิป แสงสังข์ ลากบอลสุดเส้นจ่ายย้อนให้ ทรงชัย เลิศฤทธิ์ ซัดโล่งๆเข้าไป 1-0

ถัดมาเพียงนาทีเดียว กัสดาฟี่ มาได้ฟรีคิกและเป็น ทักษิณ แจ่มแค ยิงเข้าไปเป็นประตูตามตีเสมอ 1-1

ครึ่งหลัง น.21 เสียงเฮดังขึ้นลั่นสนามอีกครั้ง ชัยณรงค์ โซ๊ะมีเลาะ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวลากบอลลุยเดี่ยวเข้าไปยิงอย่างเหนือชั้น กัสดาฟี่ นำ 2-1

น.33 หลังจากไล่บดอยู่นาน บางกอก ซิตี้ มาได้ประตูตามตีเสมอสำเร็จ 2-2 จากจังหวะตั้งป้อมส่องของ เนโต้ บอลเสียบสามเหลี่ยมบนเข้าไป ก่อนหมดเวลา 1 นาที ทัพมังกรเทพ มาได้ประตูพลิกขึ้นนำ 3-2 จังหวะเข้าชาร์จที่เสาสองของ วิวัฒน์ ศรียานงค์

นาทีสุดท้าย กัสดาฟี่ เล่นเพาเวอร์เพลย์ ก่อนจะโดนตัดบอลและเป็น จักรพล ศรีนารา ที่ซัดเข้าไป เป็น 4-2 และนาทีเดียวกัน บางกอก ซิตี้ มาได้จุดโทษที่สอง พู่กัน โด่งดัง สังหารเข้าไปเป็น 5-2

จบเกม บางกอก ซิตี้ รัวแซง กัสดาฟี่ ไป 5-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายชนิดหืดขึ้นคอ

ผู้เล่น 5 คนแรก ทั้งสองทีม
บางกอก ซิตี้ : กวิน ดิลกธนาเลิศ (GK) ,เฮลิโอ เนโต้ ,ทรงชัย เลิศฤทธิ์ ,บรูโน่ ฟาคันญ่า ,ธนาธิป แสงสังข์
กัสดาฟี่ : วิศรุต มิตรยิ้ม (GK) ,ชัยณรงค์ โซ๊ะมีเลาะ ,พิเชฐ พุ่มไสว ,เวโรจน์ ลังประเสริฐ ,วีรภัทร เฉลิมภัทรกุล
………………………………………..
นครปฐม 8 – วายเอฟเอ วอริกซ์ ศรีราชา 5
เวลา 13.00 น. เป็นการเจอกันระหว่าง นครปฐม ที่พบกับ วายเอฟเอ วอริกซ์ ศรีราชา ที่ต่างก็มาจากฟุตซอลไทยลีก 2 เกมนี้นครปฐมที่แม้ว่าจะดูเป็นรองเริ่มต้นได้ดี น.5 โภควินทร์ อนันตศักดิ์โสธร ซัดให้ทีมนำ 1-0 จากนั้น น.11 ธวัชชัย รุ่งพราน ได้โอกาสซ้ำเข้าไปเป็น 2-0

น.15 นครปฐม มาทำฟาวล์ครบครั้งที่ 6 ทำให้ วอริกซ์ ได้จุดโทษจุดที่สอง และเป็น นิธิพัฒน์ ผู้ประดิษฐ์พงศ์ กดเข้าไล่มา 1-2

น.16 นครปฐม ได้คิกอินฝั่งซ้าย โภควินทร์ อนันตศักดิ์โสธร ซัดแฉลบ พชร กิตติยาธนากิจ แล้วเปลี่ยนทางเข้าประตูให้ นครปฐม นำ 3-1 แต่ว่า นาทีเดียวกัน วอริกซ์ ก็มาได้จุดโทษจุดที่สองอีกครั้งและ นิธิพัฒน์ ผู้ประดิษฐ์พงศ์ ก็จัดการสังหารไม่พลาด สกอร์ไล่มา 2-3

และ น.20 นครปฐม เตะมุมทางด้านซ้าย เมธาสิทธิ์ มีเพียร เปิดให้ เกรียงศักดิ์ สองสมุทร วอลเล่ย์ด้วยซ้ายตุงตาข่าย ทำให้ครึ่งแรกนครปฐมนำ 4-2

ครึ่งหลัง วายเอฟเอ วอริกซ์ โหมหนัก น.25 พชร กิตติยาธนากิจ ก็จัดการกดให้ทีมไล่มา 3-4 โดยแข้งวอริกซ์กดดันหนักขึ้น น.28 นิธิพัฒน์ ผู้ประดิษฐ์พงศ์ ก็มาทำแฮตทริกให้ตัวเองด้วยการซัดนอกเขตบอลเสียบเสาตีเสมอเป็น 4-4

จากนั้น น.32 นครปฐม มานำอีกครั้ง 5-4 เมธาสิทธิ์ มีเพียร จัดการส่องเข้าไป นาทีเดียวกัน วอริกซ์ พลาดอีก นครปฐม โต้กลับที่ โภควินทร์ อนันตศักดิ์โสธร จัดการเปิดให้ เมธาสิทธิ์ มีเพียร ยิงเผาขนเป็น 6-4

น.38 วอริกซ์ ยังมีหวังเมื่อ นิธิพัฒน์ ผู้ประดิษฐ์พงศ์ สอดขึ้นมากดเป็น 5-6 แต่นาทีสุดท้าย ธนาตุล ธาดาวิโรจน์ ก็มายิงให้นครปฐมหนี 7-5 และจะหมดเวลา โภควินทร์ อนันตศักดิ์โสธร ก็มาทำแฮตทริกได้บ้างด้วยการยิงปิดท้ายให้ นครปฐม ชนะไป 8-5

ผู้เล่น 5 คนแรกทั้งสองทีม
นครปฐม- ทวีชัย ธนิกกุล (GK),ธนาตุล ธาดาวิโรจน์,โภควินทร์ อนันตศักดิ์โสธร,เมธาสิทธิ์ มีเพียร,ธวัชชัย รุ่งพราน
วายเอฟเอ วอริกซ์ – เรวัช ขำกล่ำ (GK),ปิยะพงษ์ สองผิว,พชร กิตติยาธนากิจ,นนทวัช รักพิทักษ์วงศ์,ชลาธิป ชื่นชอบไพรพนา
…………………………………….
พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี 14 – ณัฐวุฒิ ใจใส 2
(ไฮไลท์ บลูเวฟ – ณัฐวุฒิhttps://www.youtube.com/watch?v=0xXUXFiVsWw&feature=youtu.be

ในเวลา 15.00 น. เป็นทางด้านรองแชมป์ลีก และรองแชมป์เก่ารายการนี้ “ฉลามพลังเพลิง” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ลงเจอกับทีมที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาอย่าง ณัฐวุฒิ ใจใส ซึ่งแข้งบลูเวฟขนผู้เล่นทีมชาติชุดหลักลงกันครบครัน

เปิดฉากขึ้นมา แข้ง ฉลามพลังเพลิง ก็คุมจังหวะและครองบอลบุกทันที น.3 เท่านั้น ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน ก็ได้หลุดเข้าไปซัดจ่อๆให้ทีมนำ 1-0 อย่างเร็ว

จากนั้น น.5 ศุภกร สังอ้ม ที่เพิ่งย้ายจากราชนาวีมาร่วมทีม ได้บอลทางซ้ายแล้วพลิกยิงเสียบเสาแรกบวกสกอร์เป็น 2-0

พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ยังครองเกมบุกต่อเนื่อง น.7 มาได้เตะมุมฝั่งซ้าย รณชัย จูงวงษ์สุข ยกบอลโด่งข้ามฟากให้ จิรวัฒน์ สอนวิเชียร อัดตูมเดียวเข้าไปเป็น 3-0 และ น.9 นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์ โฉบไปเอาบอลทางซ้ายก่อนกดเปรี้ยงเดียวหายเข้าตาข่ายสกอร์เป็น 4-0

เกมถึง น.13 วรุฒ หวังสะมาแอล กระชากออกซ้ายแล้วจ่ายให้กับ กฤษณ์ อรัญสัญญาลักษณ์ อีกแข้ง ยู -20 ทีมชาติยิงเป็น 5-0 ก่อนที่นาทีถัดมา กฤษดา วงษ์แก้ว จะจ่ายให้ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ได้โอกาสซัดบ้างและบวกสกอร์เป็น 6-0

น.19 จิรวัฒน์ สอนวิเชียร พาบอลออกฝั่งขวา เปิดกลับเข้ากลาง รณชัย จูงวงษ์สุข ยืนแปเน้นๆเป็น 7-0 และนาทีสุดท้าย ศุภกร สังอ้ม ขึ้นมาซัดได้อีกลูกให้ ฉลามพลังเพลิง นำในครึ่งแรกไปก่อน 8-0

ครึ่งหลังลงมานาทีแรก รณชัย จูงวงษ์สุข ได้แปเผาขนเข้าไปเป็น 9-0 โดยฉลามพลังเพลิงโหมต่อ และ น.25 กฤษดา วงษ์แก้ว กัปตันทีมก็ได้โอกาสยิงบ้างเป็น 10-0 ซึ่ง นาทีเดียวกัน กฤษดา วงษ์แก้ว ก็ซัดต่อเนื่องเพิ่มสกอร์เป็น 11-0

น.29 ทางด้าน ณัฐวุฒิ ใจใส สามารถจะมายิงตีไข่แตกได้ เมื่อได้เตะมุมทางซ้าย เนติวัฒน์ นวลพลับ เปิดทะลุช่องให้กับ มงคล จินดาวราภา กดด้วยซ้ายตุตาข่ายเป็น 1-11

แข้งณัฐวุฒิ ใจใส ได้กำลังใจมากขึ้น น.32 เนติวัฒน์ นวลพลับ ส่องตรงเส้นวงกลมเข้าไปอีกเป็น 2-11

นาทีถัดมาเกมรับของ ณัฐวุฒิ ใจใส พลาด บอลเข้าเท้า จิรวัฒน์ สอนวิเชียร เลยยิงง่ายๆเข้าไปเป็น 12-2

น.34 ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน เปิดจากขวาให้ รณชัย จูงวงษ์สุข วิ่งเข้ามาซัดเป็น 13-2 และเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย

น.35 รณชัย จูงวงษ์สุข อัดบอลจากด้านขวา บอลไปโดน อรรถพล ใจใส แล้วเข้าประตูตัวเองไป พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี นำห่าง 14-2

โดยเวลาที่เหลือแข้งบลูเวฟ ยังบุกหนัก แต่ทำสกอร์เพิ่มไม่ได้ หมดเวลา พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี จัดการสอนเชิง ณัฐวุฒิ ใจใส ไปแบบสบายๆ 14-2 เข้ารอบต่อไป

ผู้เล่น 5 คนแรกทั้งสองทีม
พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี – คฑาวุธ หาญคำภา (GK),รูดิมาร์ เวนันซิโอ้,กฤษดา วงษ์แก้ว,ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน,ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง

ณัฐวุฒิ ใจใส – จิณณวัตร ศรีท้าว (GK),ณพวุฒิ แก้วแกมทอง,ก้องกิตต์ ขำหรุ่น,พยนต์ ทรัพย์พัตร,นฤพล ปี่ทอง
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันในวันที่ 3 พ.ย.ยังจะเป็นรอบ 32 ทีมสุดท้าย ฟาดแข้งที่ไอส์แลนด์ฮอลล์ ศูนย์การค้าแฟร์ชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา

เวลา 11.30 น. ม.ราชภัฎเพชรบุรี พบ รอมเม่ สปอร์ต
เวลา 13.30 น. ราชนาวี พบ มายเวย์ ดีอาร์เจ
เวลา 15.30 น. ห้องเย็นท่าข้าม พบ ตลิ่งชัน วิคตอรี่ ฟุตซอลคลับ
เวลา 17.30 น. ธรรมศาสตร์ ยังบลัด พบ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์
เวลา 19.30 น. ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบ สิงห์ สมุทรสาคร เอฟซี


You must be logged in to post a comment Login