วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

MONO ประกาศผนึกกำลัง “GMM Grammy-GMM Studios” เพื่อขึ้นแท่นคอนเทนต์มีเดียยักษ์ใหญ่

On November 4, 2019

บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO ผู้นำในการสร้างสรรค์สื่อและข้อมูลความบันเทิง “Media and Content Conglomerate” ชั้นนำของเมืองไทย ประกาศผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาของสื่อบันเทิงไทยกับบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านสื่อและผู้นำคอนเทนต์ที่แข็งแรงที่สุดของเมืองไทย รวมทั้ง GMM Studios ในการเป็นพันธมิตรร่วมกันสร้างคอนเทนต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อจับมือเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์และสื่อบันเทิงอันดับ 1 ของเมืองไทย โดยงานนี้มีการวางแผนทั้งด้านการผลิตคอนเทนต์ ด้านกลยุทธ์ทางการตลาด และการขยายช่องทางการเข้าถึงคอนเทนต์ โดยได้จัดงานแถลงข่าวความร่วมมือทางธุรกิจว่า “Super Giant Alliance”

นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “ถือเป็นความร่วมมือที่พิเศษมากๆสำหรับโมโน กรุ๊ป ทั้งเราและจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ต่างมีจุดแข็งที่ชัดเจน เมื่อเรามาผนึกกำลังกัน ผมเชื่อว่าคอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นจะเป็นคอนเทนต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ดีที่สุด โมโนเองเป็นผู้นำด้านธุรกิจสื่อและการให้บริการข้อมูลและธุรกิจบริการด้านความบันเทิงแบบครบวงจรที่ครอบคลุมการนำเสนอเนื้อหาทุกประเภท ซึ่งมีการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำเร็จของธุรกิจทีวีดิจิตอลในช่วงระยะเวลากว่า 5 ปี จากการนำเสนอคอนเทนต์ที่มีคุณภาพระดับโลก สด ใหม่ และเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม ผลักดันให้ช่อง MONO29 เติบโตและสามารถครองอันดับต้นๆจากการจัดอันดับความนิยมหรือเรทติ้งของผู้ชมด้วยดีมาตลอด 5 ปี อีกทั้งฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย

ด้านจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เป็นผู้นำด้านสื่อและคอนเทนต์ที่แข็งแรงและแข็งแกร่งที่สุดของเมืองไทย ทั้งเพลง ศิลปิน ซีรี่ส์ ที่ครองใจวัยรุ่นและทุกเพศทุกวัยมาตลอดระยะเวลายาวนานหลายสิบปี รวมทั้งเครือข่ายบนโซเชียลที่ครอบคลุมทุกกลุ่มอย่างชัดเจน วันนี้เรามีเป้าหมายเดียวกันในการผลิตเนื้อหาและคอนเทนต์ต่างๆที่สนุกสนาน มีคุณภาพ แถมยังรับชมได้หลากหลายช่องทางในเครือโมโน

ในส่วนของเนื้อหาและคอนเทนต์ที่เราจะร่วมมือกันนั้นจะมีทั้งในส่วนของนักแสดง, ศิลปิน, เพลง, Original Content และคาราโอเกะ โดย

[1] ร่วมมือสร้างศิลปินกลุ่มใหม่ภายใต้รหัสลับ “Girl Universe” ตั้งเป้าปีแรกจะผลิต 2 กลุ่ม จำนวน 4 อัลบั้ม (20 ซิงเกิล)

[2] Original Content จะเป็นการผลิตซีรี่ส์ร่วมกัน 6-8 เรื่องต่อปี เป็นซีรี่ส์แนว Action, Drama, Horror และ Romantic Comedy โดยใช้นักแสดงหลักจากจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ร่วมกับนักแสดงจากโมโน คาดหวังการเติบโตและความหลากหลายให้กับ MONO29 และ MONOMAX

[3] ซีรี่ส์บางส่วนและ คาราโอเกะนั้น โมโนจะนำเข้ามาเสริมทัพคอนเทนต์ให้กับแพลตฟอร์ม 3BB TV (โดยเทคโนโลยีจาก KT Corporation ประเทศเกาหลีใต้) โมโนทำหน้าที่ Master Content Provider ให้กับ 3BB เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ตั้งเป้าผู้ใช้งานบริการนี้ 1.5 ล้านรายใน 1 ปี (3BB TV จะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 2 ปี 2020)

[4] ร่วมมือในการตลาดร่วมกันด้วยสื่อ ฐานลูกค้า และแฟนคลับทางโซเชียลเน็ตเวิร์คของทั้งสองฝ่าย

[5] วิเคราะห์การขายโฆษณาทางดิจิตอลทีวีร่วมกัน เพื่อให้เกิดการกำหนดมาตรฐานราคาที่เหมาะสมกับเรทติ้ง และส่งเสริมอุตสาหกรรมสื่อทีวีของไทย”

นายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลยุทธ์ สายงานธุรกิจจีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ต้องยอมรับว่า “Content is King” ยังใช้ได้อยู่ แต่นอกจากคอนเทนต์ที่ดีแล้วเรายังต้องมีพันธมิตรที่ดีมาช่วยขับเคลื่อน รวมทั้งแผนการตลาดที่ครบทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ควบคู่กันไปด้วย เพราะหากมีคอนเทนต์ดีแต่ไม่ทำการตลาดก็ประสบความสำเร็จได้ยาก การที่เรามาจับมือกับกลุ่มบริษัทโมโนในครั้งนี้จะเป็นการจับมือเพื่อผลิตคอนเทนต์ที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด จากความถนัดของเราทั้ง 2 บริษัท เมื่อมาผสมผสานกันแล้วคิดว่าจะออกมาเพอร์เฟคและตอบโจทย์ตลาดอย่างแน่นอน อย่างในมุมของธุรกิจเพลง ทางจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีทีมนักสร้างสรรค์เพลงที่มีฝีมือ และสร้างผลงานเพลงดังเพลงฮิตมากมาย ความร่วมมือครั้งนี้เราจึงมาร่วมสร้าง Original Album ให้กับเกิร์ลกรุ๊ปศิลปินแม่เหล็กของทางโมโน ซึ่งมั่นใจว่าจะได้ผลงานเพลงที่ทำให้ธุรกิจเพลงมีปรากฏการณ์ใหม่ๆที่น่าติดตามอย่างแน่นอน

อีกทั้งจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ยังมีความถนัดด้านคอนเทนต์เกี่ยวกับวัยรุ่นและกลุ่มคนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเพลง ศิลปิน ซีรี่ส์ เราจึงมองความถนัดและเชี่ยวชาญของเราทั้งคู่ว่าจะสามารถช่วยเสริมให้กันได้ในทุกๆทาง สำหรับแผนกลยุทธ์คอนเทนต์ที่เราวางไว้ 3 ปีต่อจากนี้ เราจะมุ่งสร้าง 10 Artists, 10 Digital Albums, 12 Concerts, 30 Road tour Events, 20,000 Karaoke Songs และ 20 Original Content โดยคอนเทนต์ทั้งหมดจะต้องเป็นที่ถูกใจและตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคอย่างแน่นอนให้สมกับเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงอย่างแท้จริง”

นายอมฤต ศุขะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “นับเป็นโอกาสดีที่บริษัทที่มีความแข็งแรงทางด้านคอนเทนต์อย่างจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จะได้ร่วมงานกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างโมโน ซึ่งจะทำให้ทั้ง 2 บริษัทสามารถโฟกัสในสิ่งที่ตนเองถนัด ในส่วนของ GMM Studios จะทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตซีรี่ส์ให้ในทิศทางที่โมโนต้องการ ในขณะเดียวกันโมโนสามารถโฟกัสด้านการสร้างและบริหารแพลตฟอร์มและทำการตลาดควบคู่กันไป ในส่วนของคอนเทนต์นั้น ผมวางจุดเด่นของซีรี่ส์คือ การเล่าเรื่องที่ซับซ้อน สนุก และน่าติดตาม เรามองว่าซีรี่ส์ที่ผลิตให้โมโนต้องสามารถเรียกผู้ชมทางโทรทัศน์ได้ และต้องสามารถเข้าไปอยู่ในบริการของ MONOMAX ที่สามารถดูในรูปแบบ OTT ได้ คือมีอายุหรือ Shelf Life ที่นาน บางเรื่องอาจจะมีการพัฒนาเป็นซีซั่นที่ 2-3 ต่อไป  ครั้งนี้ถือเป็นการจับมือทำงานกันเป็นระยะเวลา 3 ปี มีจำนวนซีรี่ส์ที่วางแผนกันเบื้องต้นมากถึง 20-22 เรื่องครับ”

“การร่วมมือครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษที่บริษัทบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในทุกๆด้าน ทั้งด้านคอนเทนต์ ศิลปิน การตลาด การขาย และเทคโนโลยี ในระยะยาว” นายปฐมพงศ์กล่าวทิ้งท้าย


You must be logged in to post a comment Login