วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“พิชัย” ชี้ “บิ๊กตู่” ออก “ชิมช้อปใช้เฟส 3” เบี่ยงเศรษฐกิจทรุด

On November 14, 2019

วันนี้ (14 พ.ย.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 จะยังคงขยายตัวได้ในระดับต่ำมาก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปีขยายตัวกว่า 3% และไม่มีทางเป็นไปตามที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคยยืนยันไว้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและชิมช้อปใช้จะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้ 3.5% ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะชิมช้อปใช้ประสบความล้มเหลว ไม่เกิดประโยชน์ เหมือนเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ทั้งๆที่ไอเอ็มเอฟได้เตือนแล้วว่ารัฐบาลไม่ควรแจกเงินสะเปะสะปะ เพราะไม่ได้พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน แต่รัฐบาลก็ยังคงทำต่อไม่หยุด โดยคาดว่าอาจจะต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของคนให้มาวิจารณ์ชิมช้อปใช้ที่น่าจะมีคนชอบอยู่บ้างเพราะได้เงินฟรี แต่จะไม่เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศเลย ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ทุกคนหันไปรุมด่าฝีมือการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ล้มเหลวมากว่า 5 ปีแล้ว จนเศรษฐกิจปัจจุบันย่ำแย่สุดๆ และยังมีแนวโน้มที่จะแย่ลงไปอีก

ทั้งนี้ ทั้งสภาพัฒน์และรวมถึงนักวิชาการจำนวนมากต่างพากันกังวลว่าเศรษฐกิจไทยจะล้าหลังเร็วมาก และไทยจะโตต่ำกว่าศักยภาพไปอีกนาน ซึ่งจะทำให้ปรับตัวแข่งขันในเศรษฐกิจยุคใหม่ได้ลำบาก ซึ่งหากจำกันได้ตนได้เตือนมาตลอดว่าประเทศไทยมีปัญหาทางการเมืองภายในประเทศในช่วงเวลาที่แย่ที่สุดที่โลกกำลังจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้ไทยตกยุคเร็วมาก แล้วก็เริ่มเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ และถ้าหากไทยยังไม่เร่งแก้ไขปรับปรุงจะยิ่งล้าหลังเร็วขึ้นไปอีก ประชาชนจะยิ่งลำบาก คนรุ่นใหม่จะไม่มีงานทำ และจะไม่สามารถหารายได้เพียงพอเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ถ้าเปรียบเทียบตามทฤษฏีกบต้มก็น่าจะเป็นช่วงที่น้ำเพิ่งจะเริ่มร้อน แต่ได้มีโรงงานปิดตัวและเลิกจ้างงานกันเป็นจำนวนมากแล้ว หากสถานการณ์แย่ลงอีก ซึ่งเปรียบเสมือนน้ำในหม้อเริ่มเดือด ประชาชนจะยิ่งลำบากกันเพิ่มขึ้นอีกมาก

ดังนั้น จึงอยากขอให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และยังเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้พิจารณาตัวเองว่ามีความรู้ความสามารถเพียงพอจะบริหารเศรษฐกิจในภาวะเช่นนี้หรือไม่ ถ้าหากคิดเพียงจะใช้กูเกิลบริหาร คิดจะเป็นแค่มด จากเดิมที่เคยจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย หรือคิดได้แค่ให้นำวัวไปรีดนมในโรงเรียนให้นักเรียนดื่มเพื่อป้องกันนมบูด พลเอกประยุทธ์น่าจะต้องสำนึกตัวได้หรือยังว่าถูกหลอกให้มาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจในขณะที่เศรษฐกิจไทยกำลังจะหักหัวลง เศรษฐกิจไม่ได้กำลังฟื้นตัวเหมือนที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พยายามจะขายฝัน ซึ่งได้ขายฝันมา 5 ปีแล้ว แต่เศรษฐกิจไทยก็ยังไม่เคยดีขึ้น แถมยังแย่ลงไปอีก

นอกจากนี้นายสมคิดยังได้ปัดความรับผิดชอบเรื่องจีดีพีที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีว่า นายสมคิดไม่ได้เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจแล้ว เท่ากับโยนความผิดให้พลเอกประยุทธ์รับไปเต็มๆ อีกทั้งยังโยนเรื่องค่าเงินบาทแข็ง ส่งออกลด ไปที่แบงก์ชาติ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่เก่ง แค่เป็นผู้ติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจก็ต้องรู้แล้วว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ย่ำแย่แน่ การโดดเข้าไปรับเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจโดยไม่ได้ศึกษาหรืออาจจะไม่มีความรู้ ได้กลายเป็นความล้มเหลวที่นายสมคิดโยนมาให้พลเอกประยุทธ์รับไปทั้งหมด แถมยังพูดปัดความรับผิดชอบ ยิ่งเป็นการตอกย้ำ และน่าจะทำให้พลเอกประยุทธ์สำนึกได้หรือยังว่าน่าจะถูกหลอกให้มาเป็น และควรจะต้องรีบลาออกจากหัวหน้าทีมเศรษฐกิจได้แล้ว โดยควรต้องหาคนที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงและก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลงได้ทันให้เข้ามาช่วยบริหารเศรษฐกิจแทน พวกที่บริหารมา 5 ปีแล้วยังล้มเหลวควรต้องปรับออกไปทั้งหมด เพื่อทำให้ไทยสามารถกลับมาแข่งขันได้

ความล้าหลังของเศรษฐกิจไทยเกิดขึ้นเร็วมาก และจะทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก หากรัฐบาลไม่รีบแก้ไขปรับตัว อีกไม่นานไทยจะตกยุคแบบกู่ไม่กลับ ตอนนี้ยังไม่สายไปนักหากไทยจะรีบปรับตัว แต่หากปล่อยไปเรื่อยๆ อีกไม่นานไทยจะยิ่งเสียหายจนยากจะฟื้น หรืออาจจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะกลับมาก้าวทันโลกได้

 


You must be logged in to post a comment Login