วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เลี่ยงข้ออักเสบ&เกาต์ด้วยเมนูอร่อยทำง่าย

On November 15, 2019

คอลัมน์ : โลกสุขภาพ

ผู้เขียน : นักกำหนดอาหาร และคลินิกโรคข้อและรูมาติสซั่ม โรงพยาบาลกรุงเทพ

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่  15-22 พฤศจิกายน 2562)

โรคข้ออักเสบและเกาต์ย่อมส่งผลให้ร่างกายเกิดความเจ็บปวดและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ฉะนั้นการป้องกันโรคข้ออักเสบและเกาต์เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ ยิ่งคนที่ป่วยด้วยโรคเกาต์และข้ออักเสบอยู่ก่อนแล้วยิ่งต้องดูแลอาหารการกินต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถเลือกและควบคุมได้ด้วยตนเองเพื่อให้ห่างไกลหรือบรรเทาอาการจากโรคให้เบาลงได้

โรคเกาต์ เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสะสมของผลึกกรดยูริกภายในข้อ และข้อที่มักพบการอักเสบจากโรคเกาต์ได้บ่อย เช่น ข้อโคนหัวแม่เท้า ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ เป็นต้น โรคเกาต์จะมีอาการของข้ออักเสบเฉียบพลัน ข้อจะบวมแดงและร้อน บางรายอาจมีไข้ ในระยะแรกอาการของโรคจะเป็นๆหายๆ ถ้าไม่เข้ารับการรักษาต่อเนื่อง ข้อที่อักเสบก็จะกำเริบบ่อยๆ เป็นนานขึ้น และเป็นหลายข้อพร้อมกันได้ ผู้ที่เป็นโรคเกาต์มานาน ไม่เข้ารับการรักษาให้ถูกต้อง จะมีการตกผลึกกรดยูริกเพิ่มมากขึ้นตามข้อและเนื้อเยื่อต่างๆ จะเป็นปุ่มก้อนใต้ผิวหนังได้ บริเวณที่พบได้บ่อย เช่น หลังเท้าและนิ้วเท้า ตาตุ่ม ข้อศอก นิ้วมือ ใบหู เป็นต้น อาการของโรคไตจากการเป็นโรคเกาต์มานาน อาจเกิดการสะสมของผลึกกรดยูริกจนเป็นนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ หรือเกิดผลึกกรดยูริกในเนื้อเยื่อของไต ก่อให้เกิดภาวะไตอักเสบเรื้อรังและภาวะไตวายได้

ภาพประกอบ2

ขณะที่โรคข้ออักเสบ (Arhritis) ที่พบบ่อยมีอยู่ 2 ชนิดคือ โรคข้อเสื่อมหรือข้ออักเสบเรื้อรัง (Osteoarthritis) และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์หรือปวดข้อรูมาตอยด์ (The Rumatoid arthritis) โรคข้อเสื่อมนั้นเกิดจากความทรุดโทรมของกระดูกอ่อนที่หุ้มข้อกระดูกค่อยๆหายไป ทำให้ข้อกระดูกเสียดสีกันเวลาเคลื่อนไหวจนเกิดอาการข้อยึด ส่งผลให้ปวดบริเวณข้อ โดยเฉพาะเวลาอากาศเย็น ส่วนโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่สาเหตุที่พบบ่อยคือเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติของร่างกาย เกิดการทำลายข้อต่อกระดูกของตนเอง โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย และเพศหญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้ได้มากกว่าเพศชาย ทั้งยังเป็นโรคเรื้อรังที่มีอาการเป็นๆหายๆไปตลอด

การดูแลสุขภาพเพื่อบรรเทาอาการโรคข้ออักเสบและโรคเกาต์ด้วยการรับประทานอาหารก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพ โดยมีข้อแนะนำดังนี้ 1.ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง เพราะช่วยบำรุงข้อต่อกระดูกและลดอาการอักเสบตามข้อได้ มีข้อมูลจากงานวิจัยปริมาณไขมันทั้งหมด กรดโอเมก้า 6 และกรดโอเมก้า 3 ในปลาทะเลและปลาน้ำจืดของไทย พบว่าปลาดุกมีกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่ที่ 0.46 กรัม มากกว่าปลากะพงขาวซึ่งพบ 0.40 กรัม และต้องเลือกวิธีปรุงให้ถูกต้อง เพราะโอเมก้า 3 จะสูญสลายไปได้ง่ายหากผ่านความร้อนสูง จึงควรหลีกเลี่ยงการทอด 2.รับประทานอาหารที่มีพลังงานต่ำ เพื่อควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือใกล้เคียงปกติให้มากที่สุด โดยควรรับประทานผักต่างๆอย่างน้อย 400 กรัมต่อวัน และควรบริโภคโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป โดยเน้นโปรตีนไขมันต่ำ โปรตีนจากพืช 3.หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เป็นต้น 4.รับประทานผลไม้สด เลี่ยงน้ำผลไม้เพราะมีน้ำตาลสูง 5.ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ 8-10 แก้วต่อวัน 6.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ภาพประกอบ3

ยกตัวอย่างเมนูอาหารทำง่ายเพื่อเลี่ยงโรคข้ออักเสบและเกาต์ เริ่มที่เมนูแรก 1.น้ำพริกปลาดุกย่าง เริ่มต้นจากผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย พริกขี้หนูซอย หอมแดงซอย ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่ง ข้าวคั่ว และใบสะระแหน่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน คั่วพริกแห้ง หอมแดง กระเทียมพอเกรียม ตำพริกหยาบๆ ใส่หอมแดง กระเทียมตำให้ละเอียด ใส่เนื้อปลาดุกย่างลงไปตำรวมกันให้ละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขาม น้ำตาล ชิมรสตามชอบ รับประทานแกล้มกับผักสดหรือผักลวก 2.ลาบเต้าหู้ โดยใช้ส้อมยีเต้าหู้ให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วคั่วในกระทะจนแห้ง ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย พริกขี้หนูซอย หอมแดงซอย ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่ง ข้าวคั่ว และใบสะระแหน่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน รับประทานแกล้มกับผักสด เป็นเมนูสุขภาพที่ได้คุณประโยชน์ เพื่อหลีกเลี่ยงโรคข้ออักเสบ&เกาต์

เพราะอาการปวดข้อส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นข้ออักเสบหรือเกาต์ ดังนั้น การใส่ใจดูแลเรื่องการรับประทานอาหารคือหัวใจสำคัญ นอกจากนี้ควรหมั่นสังเกตตนเอง หากมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์ผู้ชำนาญการโดยเร็วเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียด


You must be logged in to post a comment Login