- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 17 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 6 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 7 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
“ซาบีน่า” ปลื้มยอดขายกลุ่มประเทศ CLMV ไตรมาส 3 โต 102% ชี้เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัว 7% ปัจจัยหลักหนุนส่งออกพุ่ง
นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า ปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของบริษัท ส่วนหนึ่งมาจากยอดขายสินค้าแบรนด์ซาบีน่าผ่านช่องทางการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม) ที่เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 102% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดสำคัญได้แก่เวียดนามที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3 สูงถึง 7.1%
“ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจเวียดนามคึกคักมาก และผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง ขณะที่สินค้าแบรนด์ซาบีน่าทั้งดีไซน์และคุณภาพ รวมถึงราคา เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคเวียดนามอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้การที่เราเปิดตัวคอลเลคชั่นบราเกาะอก “บอดี้ บรา” โดยมีใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ยิ่งกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคเวียดนามได้เป็นอย่างดี เพราะใบเฟิร์นมีแฟนคลับทั้งในเวียดนาม จีน และฟิลิปปินส์ ที่ติดตามโซเชียลของใบเฟิร์นเป็นจำนวนมาก เมื่อผนวกกับสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคก็ยิ่งทำให้เกิดการซื้อซ้ำเพิ่มขึ้น” นายบุญชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทอาจจะไม่ได้รับปัจจัยบวกอย่างเต็มที่จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท แต่ซาบีน่าก็ได้รับผลดีจากปริมาณสินค้าที่ขายได้เพิ่มขึ้น และการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มประเทศ CLMV ที่ยังมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่น่าพอใจ ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้นเอื้อกับต้นทุนการผลิตโดยรวมที่ต่ำลงจากการจ้างผลิต และส่งผลดีกับการขายในช่องทางออนไลน์และช่องทางรีเทล ทำให้บริษัทยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ของปีนี้ (กรกฎาคมถึงกันยายน) บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 847.5 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 116.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3 ล้านบาท คิดเป็น 5.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยช่องทางขายออนไลน์ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น 7.3% ขณะที่ช่องทางรีเทลผ่านทั้งเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าและซาบีน่า ช้อป ลดลง 2.6% การส่งออกภายใต้แบรนด์ซาบีน่าไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ขยายตัว 102% และการรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับแบรนด์ในยุโรปลดลง 11.9% ตามภาพรวมเศรษฐกิจโลกจากการไม่แน่นอนของสงครามการค้า ส่วนรายได้ 9 เดือนแรก (มกราคมถึงกันยายน) อยู่ที่ 2,490.6 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 316.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.6%
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าวด้วยว่า ซาบีน่ายังคงเดินหน้าทำตลาดในทุกช่องทางการขายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์และช่องทางรีเทล ล่าสุดได้ผนึกความร่วมมือกับ “โพเมโล” ผู้บริหารเว็บไซต์ www.pomelofashion.com ซึ่งเป็นธุรกิจอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ที่เน้นจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่น รวมถึงของใช้ของผู้หญิง มีผู้เข้าชมมากกว่า 2.7 ล้านคนต่อเดือน เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ของโพเมโลสามารถนัดรับสินค้าและลองสินค้าได้ที่ซาบีน่า ช้อป 23 สาขาทั่วกรุงเทพฯ เป็นบริการ “Pomelo Pick Up ลองก่อน จ่ายทีหลัง” ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกชำระเงินเฉพาะชิ้นที่พึงพอใจได้เลย หากยังไม่ถูกใจก็สามารถคืนสินค้าผ่านซาบีน่าโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ขณะที่ซาบีน่าได้มอบให้โพเมโลเป็นช่องทางขายออนไลน์แบบเอ็กซ์คลูซีฟเพียงช่องทางเดียวสำหรับสินค้าคอลเลคชั่น “แมด มัวแซล อินทิเมทส์” (Mad Moiselle Intimates) ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มไฮแฟชั่น (High Fashion) ของซาบีน่า ทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆทั่วโลก โดยความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปีนี้ให้คึกคักขึ้นได้อย่างแน่นอน
You must be logged in to post a comment Login