วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส” เสด็จทำเนียบประทานพรแก่คณะทูตานุทูต-ครม.

On November 21, 2019

วันนี้ (21 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสในพิธีรับเสด็จ นายกรัฐมนตรีได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จตามพรมแดงไปยังแท่นรับความเคารพ ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยผู้มีเกียรติที่มารับเสด็จประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีกราบทูลเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จไปยังห้องสีงาช้างด้านนอก สมเด็จพระสันตะปาปาทรงลงนามในสมุดเยี่ยม และทอดพระเนตรของที่ระลึกที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้แก่กัน และนายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ภายหลังเสร็จสิ้นการเข้าเฝ้า นายกรัฐมนตรีกราบทูลเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาไปยังตึกสันติไมตรีหลังนอก เพื่ออนุญาตให้คณะทูตานุทูต คณะรัฐมนตรี แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าเฝ้ารับเสด็จ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถวายการต้อนรับ สาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสถวายการต้อนรับสมเด็จพระสันตะปาปาในโอกาสเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในปีนี้ตรงกับวาระครบรอบ 350 ปี การจัดตั้งคณะมิสซังคาทอลิกแห่งสยาม และเป็นวาระครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับนครรัฐวาติกัน ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมพระกรณียกิจของสมเด็จพระสันตะปาปาที่ทรงให้ความสำคัญกับการสร้างความสามัคคี การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การขจัดความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงการส่งเสริมสันติภาพในโลก ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนทุกศาสนา

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการดำเนินนโยบายของไทยที่ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งในปี 2562 นี้ ไทยในฐานะประธานอาเซียนได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วนและประเทศหุ้นส่วนทุกภูมิภาคส่งเสริมประชาคมอาเซียนให้เป็นสังคมแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ จากผลการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 สมาชิกอาเซียนต่างเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความร่วมมือตามประเด็นที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระสันตะปาปา ได้แก่ การแก้ไขปัญหาความยากจน การลดช่องว่างด้านการพัฒนา การพัฒนาทุนมนุษย์ การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม การลดขยะทะเล การพัฒนาพลังงานทดแทน การอพยพย้ายถิ่นฐานที่เน้นการอำนวยความสะดวก การส่งกลับโดยสมัครใจ ปลอดภัย และมีศักดิ์ศรี จึงเชื่อมั่นว่าไทยและนครรัฐวาติกันจะร่วมมือกันได้อย่างใกล้ชิดทั้งในกรอบทวิภาคีและระหว่างประเทศ

ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการเสด็จเยือนไทยครั้งนี้ของสมเด็จพระสันตะปาปายังความปลื้มปีติแก่คริสต์ศาสนิกชนชาวคาทอลิกในประเทศไทยที่มีจำนวนมากกว่า 380,000 คน และเป็นโอกาสให้ได้เข้าร่วมกิจกรรมและพิธีทางศาสนาที่สมเด็จพระสันตะปาปาจะทรงเป็นประธาน ทั้งนี้ รัฐบาลและชาวไทยพร้อมถวายการต้อนรับสมเด็จพระสันตะปาปาและคณะผู้ตามเสด็จอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้การเสด็จเยือนประเทศไทยเป็นไปโดยราบรื่นตามที่มุ่งหมายไว้

ในโอกาสเดียวกันนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาได้ประทานพระดำรัสใจความสำคัญดังนี้

สมเด็จพระสันตะปาปายินดีที่ได้มาเยือนประเทศไทย ซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นประเทศที่ยังคงรักษามรดกทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรม สมเด็จพระสันตะปาปาได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับ ย้ำถึงความปรารถนาดีต่อราชอาณาจักรไทยและต่อการปกครองของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอแสดงความเคารพอย่างสูงต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เคารพและยินดีที่ได้พบทุกท่าน ตลอดจนได้อำนวยพรไปยังบรรดาปวงชนชาวไทยทุกคน และขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการดำเนินการต่างๆเพื่อให้สมเด็จพระสันตะปาปามาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้

อาเซียนเป็นสัญลักษณ์ของการร่วมแรงร่วมใจเพื่อแก้ไขปัญหาในภูมิภาคที่กำลังเผชิญ ซึ่งปัญหาของโลกในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของโลก ในฐานะที่ไทยมีวัฒนธรรมหลากหลาย เป็นประเทศพหุสังคม จึงเป็นประเทศที่ยอมรับถึงการสร้างความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งประสบการณ์จากการให้ความเคารพและยอมรับความแตกต่างเป็นแรงบันดาลใจสำหรับทุกคนที่ปรารถนาจะสร้างโลกที่แตกต่างเพื่อมอบให้กับชนรุ่นต่อไป

สมเด็จพระสันตะปาปาชื่นชมการจัดตั้งคณะกรรมการแห่งศูนย์จริยธรรมและสังคม ซึ่งได้เชิญผู้แทนจากศาสนาต่างๆในประเทศเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อรับฟังความคิดเห็น ในการที่จะรักษาความทรงจำทางจิตวิญญาณอันมีชีวิตของประชาชน สมเด็จพระสันตะปาปาจะได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อแสดงถึงความสำคัญและความเร่งด่วนในการสร้างมิตรภาพระหว่างศาสนา เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของสังคม สมเด็จพระสันตะปาปายืนยันว่า ชาวคาทอลิกจะพยายามอย่างเต็มความสามารถในการสนับสนุนอัตลักษณ์ของความเป็นไทย แผ่นดินไทยได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินแห่งอิสรภาพ อิสรภาพจะเกิดขึ้นต่อเมื่อทุกคนมีความรับผิดชอบต่อกันและกัน เพราะฉะนั้นต้องเอาชนะความไม่เท่าเทียม ให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษา อาชีพการงาน และความช่วยเหลือด้านสุขภาพ เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สมบูรณ์และยั่งยืน

ในโอกาสนี้สมเด็จพระสันตะปาปาได้กล่าวเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเคลื่อนไหวของผู้ย้ายถิ่น ซึ่งปัญหาที่ทำให้เกิดการอพยพย้ายถิ่นเป็นปัญหาด้านจริยธรรม ที่สำคัญ สมเด็จพระสันตะปาปาขอสนับสนุนให้ประชาคมระหว่างประเทศแก้ไขปัญหาที่ผลักดันให้ประชาชนต้องหลบหนีออกจากประเทศของตน และส่งเสริมให้มีการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย มีการจัดการ และมีการควบคุม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกประเทศจะจัดตั้งกลไกปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีของผู้ย้ายถิ่นและผู้อพยพ กอปรกับสมเด็จพระสันตะปาปาได้ชื่นชมรัฐบาลไทยที่ได้ดำเนินการแก้ปัญหาการใช้ความรุนแรงและการใช้แรงงานในเด็กและสตรี โดยปีนี้เป็นปีแห่งการครบรอบ 30 ปีของ “อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก” ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับเราในการที่จะไตร่ตรองการวางอนาคตของประชากรของเรา

ในตอนท้ายสมเด็จพระสันตะปาปากล่าวส่งเสริมให้สังคมมี “ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่” ซึ่งเป็นภารกิจที่ทุกคนสามารถทำได้ และสมเด็จพระสันตะปาปาได้ขอพระพรจากพระเจ้าให้ประเทศ ผู้นำ และประชาชนชาวไทย ขอให้พระเจ้าทรงนำทุกคนในหนทางแห่งปัญญา ความยุติธรรม และสันติสุข


You must be logged in to post a comment Login