วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“FTREIT” ประเดิมผลงานปีงบ 2563 ซื้อทรัพย์จากสหไทย พรอพเพอร์ตี้ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท

On November 21, 2019

นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ FIRM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ FTREIT เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมา FTREIT ได้เข้าซื้อทรัพย์สินที่มีศัพยภาพสูงจำนวนมากจากกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย (FPT) และทรัพย์สินนอกกลุ่มจากบริษัท ซีที ศูนย์กระจายสินค้า จำกัด (ซีทีดี) รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นกว่า 3,200 ล้านบาท เมื่อนับรวมการเข้าลงทุนในทรัพย์สินของสหไทย พรอพเพอร์ตี้ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ในช่วงต้นปีงบประมาณ 2563 นี้ จะส่งผลให้ FTREIT สามารถครองสถานะกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่องด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นกว่า 39,000 ล้านบาท โดยมีทรัพย์สินที่เป็นโรงงานและคลังสินค้าภายใต้การบริหารงาน (AUM) รวมทั้งสิ้น 578 ยูนิต และมีพื้นที่ให้เช่ารวมกว่า 1.8 ล้านตารางเมตร ซึ่งล้วนตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่สำคัญด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของประเทศไทย อาทิ อยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ และอีอีซี

ภายหลังการเข้าลงทุนแล้วเสร็จ FTREIT จะแต่งตั้งให้บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ FPIT ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ FPT เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของการดูแลทางด้านการตลาด การขาย และการบริหารดูแลทรัพย์สินโดยภาพรวมของโครงการต่อไป เนื่องจาก FPT มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการทรัพย์สินมาอย่างยาวนาน จึงมั่นใจว่าจะสามารถบริหารโครงการแห่งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ลูกค้าที่อยู่ภายในโครงการนี้สามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น

“ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เราจะมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตให้กับกองทรัสต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ” นายพีระพัฒน์กล่าวเสริม

นางเสาวคุณ ครุจิตร กรรมการ บริษัท สหไทย พรอพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า การขายทรัพย์ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การสร้างรายได้และการเติบโตให้กับบริษัท โดยบริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญของกลไกการทำงานของกองทรัสต์ ซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งเงินทุนทางเลือกหนึ่ง (Funding Vehicle) ที่มีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้จึงได้ตัดสินใจขายทรัพย์สินของบริษัทให้กับกองทรัสต์ FTREIT ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ตลอดจนความน่าเชื่อถือในฐานะกองทรัสต์อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นกองทรัสต์ FTREIT ยังได้รับการสนับสนุนจาก FPT ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่มบริษัทสหไทยอยู่ก่อนแล้ว จึงไว้วางใจที่จะเสนอขายคลังสินค้าคุณภาพบนทำเลยุทธศาสตร์ท่าเรือแหลมฉบังที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท สหไทย พรอพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจผู้ประกอบการให้เช่าคลังสินค้าคุณภาพสูง พร้อมนำเสนอบริการที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของลูกค้าด้วยระบบโซลูชั่นที่ทันสมัย ได้มาตรฐานระดับสากล และมีนโยบายในการต่อยอดธุรกิจเพื่อมอบบริการที่ครอบคลุมและครบวงจรอยู่เสมอ

นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะสปอนเซอร์และเมเนเจอร์ของกองทรัสต์ FTREIT กล่าวว่า การเข้าซื้อทรัพย์ศักยภาพสูงของบริษัท สหไทย พรอพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวในการสร้างการเติบโตให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ FTREIT เพราะจุดเด่นของที่ตั้งโครงการอยู่บนทำเล EEC ซึ่งเป็นยุทธ์ศาสตร์ของภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของประเทศไทยที่ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้กลุ่มสหไทยยังถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ FPT โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้มีการร่วมลงทุนเพื่อจัดตั้งบริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด เพื่อต่อยอดธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าใกล้กรุงเทพฯรองรับการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ บริษัทรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการเข้าลงทุนของ FTREIT ในครั้งนี้ และมั่นใจว่าทรัพย์สินใหม่ของกลุ่มสหไทยจะสามารถสร้างรายได้และการเติบโตให้กับกองทรัสต์ได้อย่างมั่นคง

โดยโครงการดังกล่าวจะใช้ชื่อใหม่ว่า  Frasers Property Logistics Center (Laem Chabang 3) เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับโครงการเดิมของกลุ่ม FPT ทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ Frasers Property Logistics Center (Laem Chabang 1) และ Frasers Property Logistics Park (Laem Chabang 2) พื้นที่เช่าทั้ง 3 โครงการ รวมทั้งสิ้นกว่า 269,000 ตารางเมตร ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่ในโครงการทั้ง 2 แห่งนี้อยู่ในระดับสูง โดยกลุ่มลูกค้าหลักมาจากประเทศเยอรมนี อิตาลี สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ โลจิสติกส์ และอุปกรณ์การก่อสร้าง นอกจากนี้ยังมีลูกค้าให้ความสนใจที่จะเช่าพื้นที่คลังสินค้าในบริเวณดังกล่าวอีกเป็นจำนวนมาก โดยการลงทุนเพิ่มของ FTREIT ในครั้งนี้ จะส่งผลให้ FPT มีทรัพย์สินภายใต้การจัดการรวมกว่า 2.8 ล้านตารางเมตร


You must be logged in to post a comment Login