- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
CHO โชว์แบ็กล็อกแน่น1.8 พันล้าน 9 เดือนแรกกำไรพุ่ง 53 ล้าน
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่งผลให้ผลการดำเนินงานมีกำไรต่อเนื่องจากปี 2561 จากงานในมือรอรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้น (Backlog) และยังมีงานใหม่ที่อยู่ระหว่างรอประมูลมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรถลำเลียงอาหารสำหรับเครื่องบินสายการบินของดูไบมูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท และการประมูลงานเช่ารถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 257 คัน มูลค่าโครงการรวม 1,826 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดประมูลในช่วงเดือนมกราคม 2563 นี้ ซึ่ง CHO จะเข้าร่วมประมูลกับกิจการร่วมค้า (JV)
ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 53.62 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้จำนวน 1,896 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 168 ล้านบาท และส่วนที่เหลือรับรู้ในปี 2563 ผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของรายได้จากการขายและบริการงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 242.02 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 48.85% สาเหตุที่รายได้จากการขายและบริการที่เติบโตขึ้นมาจากการขยายธุรกิจศูนย์ซ่อมรถบรรทุกและงานซ่อมบำรุงที่ได้รับจากภาคเอกชน กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค งานซ่อมตามสัญญาระยะยาวที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ
กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHO กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนขยายศูนย์ซ่อมบำรุง “สิบล้อ 24 ชม.” เพิ่มอีก 2 แห่ง ที่สุราษฎร์ธานีและสุวรรณภูมิ จากเดิมมีเพียง 1 แห่งที่ชลบุรี และในปี 2563-2565 คาดว่าจะเพิ่มอีกประมาณ 5 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการให้บริการ ผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ในส่วนของฐานะทางการเงินของบริษัท ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Interest-Bearing Debt to Equity Ratio) เหลือเพียง 2.11 เท่า เทียบกับสิ้นปี 2561 อยู่ที่ 2.55 เท่า
You must be logged in to post a comment Login