- เลิกเสียเงินกับเรื่องโง่ๆPosted 2 hours ago
- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 1 day ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 2 days ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 3 days ago
- อย่าไปอินPosted 6 days ago
- ปีดับคนดังPosted 1 week ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
“ไทยยูเนี่ยน” ปลื้มปิดการขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนตามเป้า
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทต้องขอขอบคุณนักลงทุนทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไปที่ให้การสนับสนุนหุ้นกู้ของบริษัท รวมถึงขอบคุณสถาบันการเงินที่ทำหน้าที่จัดจำหน่าย โดยการระดมทุนในครั้งนี้จะสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทมากยิ่งขึ้น และบริษัทจะเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป”
การนำเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของบริษัทในระหว่างวันที่ 26-28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ โดยปัจจัยที่สนับสนุนการขายนอกจากจะมาจากความเชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัทซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรที่ระดับ A+ และความเชื่อถือหุ้นกู้ที่ระดับ A- จากทริสเรทติ้งแล้ว ยังมาจากช่วงเวลาที่เสนอขายเป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง ทำให้นักลงทุนจำนวนมากมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี โดยมีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนของบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้อย่างเหมาะสม
พร้อมกันนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จจากการออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีประกันมูลค่า 6,000 ล้านบาท ที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยกำหนดผลตอบแทนหุ้นกู้อายุ 7 ปี จำนวน 2,000 ล้านบาท ผลตอบแทน 2.78% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 10 ปี จำนวน 4,000 ล้านบาท ไว้ที่ 3.00% ต่อปี คิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ย 2.93% ต่อปี โดยเป็นหุ้นกู้อายุเฉลี่ยรวม 9 ปี ซึ่งปรากฏว่ามีนักลงทุนสถาบันกว่า 20 แห่งเข้าร่วมทำ Book Building และมีการจองล้นกว่าจำนวนที่เสนอขายถึง 3.5 เท่า
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา เป็นบทพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของไทยยูเนี่ยนฯที่สามารถผลักดันให้บริษัทขึ้นสู่การเป็นบริษัทชั้นนำธุรกิจอาหารทะเลในระดับโลกด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และมีแบรนด์ที่เข้มแข็งกว่า 14 แบรนด์ที่ขยายไปทั่วโลก นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนฯยังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยนเมื่อปี 2558 เพื่อเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเครือทั่วโลกอีกด้วย
ไทยยูเนี่ยนฯเป็นหนึ่งในบริษัทอาหารทะเลชั้นนำของโลกที่คว้าอันดับ 1 ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ในผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารของโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และปัจจุบันบริษัทยังได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน สืบเนื่องจากกลยุทธ์ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยนฯหรือ SeaChange® ที่เป็นตัวขับเคลื่อนความยั่งยืนของบริษัททั่วโลก และล่าสุดไทยยูเนี่ยนฯประเดิมอันดับ 1 ดัชนี Seafood Stewardship Index จาก 30 บริษัทด้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก โดยประเมินจากการทำงานที่ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยองค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งไทยยูเนี่ยนฯขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน 3 ด้าน ได้แก่ การกำกับดูแลกิจการ ระบบนิเวศ และด้านชุมชน
“การลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนนั้น นอกจากนักลงทุนจะพิจารณาผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว นักลงทุนยังต้องเชื่อมั่นในความยั่งยืนของกิจการอีกด้วย ซึ่งการตอบรับที่ดีของนักลงทุนต่อการเสนอขายหุ้นกู้ได้สะท้อนให้เห็นว่า ความทุ่มเทอย่างจริงจังของไทยยูเนี่ยนฯที่จะสร้างความยั่งยืนในทุกรูปแบบทั้งในปัจจุบันและในอนาคตนั้นเป็นที่รับรู้ได้สำหรับนักลงทุน” นายธีรพงศ์กล่าว
You must be logged in to post a comment Login