รัฐบาลควรซื้อที่ดินช่วยคนจน

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 4 ธ.ค. 62)

ดูข่าวแล้วก็รู้สึกสับสน คุณปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ไปเชิญเจ้าหน้าที่มารังวัดที่ดินแล้วก็แจ้งความกลับว่าเขารุกที่ดิน ทำให้นึกถึงเรื่องลิขสิทธิ์ตุ๊กตา สั่งทำแล้ว เสร็จแล้ว พอมาซื้อกลับมาจับบอกว่าละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า ถ้าเป็นคนธรรมดาคงจะติดคุกติดตะรางกันไป หรือถอนตัวออกไป ยอมจำนนกันไป ทำให้คิดว่าเมืองไทยเราเรื่องที่ดินมีกฎหมายมาคอยกดหัว กดดันกัน

ไม่รู้ว่าเรื่องที่ดินแล้วก็เรื่องกฎหมายจะเอายังไง จะได้คนละเท่าไร ที่จริงแล้วมันไม่มีคำว่า “ธรรมสัจจะ” มันควรจะเป็นเฉพาะเรื่อง เฉพาะกรณี เฉพาะคน สมมุติว่าห้ามมีเกินคนละ 50 ไร่ อย่าว่าแต่ 50 ไร่เลย บางคน 10-20 ไร่ก็ทำไม่ไหว เพราะกำลัง อายุ เครื่องไม้เครื่องมือ ทุนรอน ทั้งหมดทั้งสิ้นต้องขึ้นอยู่กับคุณประโยชน์ คุณูปการ ว่าสามารถทำให้แผ่นดินมีผลตอบแทนสูง ทำให้เป็นรายได้มาพัฒนาประเทศ เช่น เจ้าสัวมีเงินเยอะ อาจจะซื้อที่ดินเป็นแสนไร่ แล้วก็สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้คนที่ไม่มีที่ดินได้ไปประกอบอาชีพร่วมอยู่ด้วย

เขาเรียกว่า อนาถบิณฑิกเศรษฐี มีที่ดิน มีไร่ มีนาเยอะ ก็แบ่งๆให้คนโน้นทำคนนี้ทำ ทีแรกก็ทำเป็นกงสี พอแบ่งแยกออกไปปรากฏว่าลูกนาบอกว่าไม่เอา เพราะถ้าแยกไปแล้วกลัวจะไม่ได้บุญ อยู่กับพ่อ ทำให้พ่อ พ่อขายข้าวได้ ทำบุญทำทานลูกก็พลอยได้บุญไปด้วย ลูกนาหรือลูกจ้างก็รู้สึกรัก เพราะนายจ้างดี อาตมามีวัด เขาก็บอกเหมือนกันว่าวัดก็มีที่ดินเกิน 50 ไร่ไม่ได้ แต่ถามว่าวัดที่มีเงินเยอะแยะ บางวัดซื้อที่ดินตั้ง 8,000 ไร่ ซึ่งไปซื้อ 8,000 ไร่ 100 ไร่ไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าเอาที่ดินไปทำอะไร ประกอบอาชีพอะไรให้ใครบ้าง

ตรงนี้ทำให้นึกว่า ถ้าเกิดมีคนให้ปัจจัย ให้เงินให้ทองมา พระก็เก็บไม่ได้ ใช้ไม่ได้ ก็ซื้อที่ดินเอาไว้แล้วลงชื่อใครก็ได้ ลงชื่อรัฐบาล ลงชื่อกระทรวงการคลัง หรือเอาไว้เป็นส่วนกลางให้คนยากจนได้มีที่ดินทำมาหากิน แต่ไม่ให้ขาย ไม่ลงชื่อให้ มีที่ดินเอาไว้ให้เพาะปลูกเพาะทำอะไรกินกันพอประทังชีวิตอยู่ได้ ไม่เฉาเหงามือ ถ้าไม่มีอะไรทำเดี๋ยวก็จะไปเป็นมิจฉาชีพ ถ้ากฎหมายไม่ล็อกหัว ไม่กดอารมณ์คน อาจจะมีเศรษฐีใจบุญ

แทนที่จะไปสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างเจดีย์กัน ตอนนี้เจดีย์ โบสถ์ วิหาร มีมากจนเกินไป แล้วพระก็มีน้อยลง ฉะนั้นควรถึงเวลาเปลี่ยนแปลงสักที มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการทำบุญกันบ้าง ทำบุญเอาเงินไปฝังไว้ในดิน แล้วให้เขามาขุดเพื่อมาทำมาหากิน เขาก็จะได้มีชีวิตอยู่รอดปลอดภัย ไม่อยากจะเป็นโจรเป็นขโมย ไม่อยากจะเป็นมิจฉาชีพ ไปเที่ยวลักเที่ยวขโมย เห็นร่างรัฐธรรมนูญ แก้กฎหมายกันอยู่นั่นแหละ ลองทำกันมั้ย ปีนี้รัฐบาลประกาศเลย ออกทีวี ช่วยซื้อที่ดินให้คนจน แล้วไม่ได้ให้เลยนะ ซื้อไว้ประจำจังหวัด อำเภอ ตำบลอะไรก็ว่าไป จังหวัดละ 1,000-2,000 ไร่

คนไหนที่ยากจนข้นแค้น ฝืดเคือง ขัดสน ไม่มีที่ดินทำมาหากิน ไม่มีที่อยู่อาศัยก็มาอยู่ได้ในที่นั้น แล้วก็จัดสรรปันส่วนกัน อาจจะสร้างเป็นคอนโดมิเนียมริมนา ริมสวนก็ได้ เพราะถ้าไปสร้างบ้านเป็นหลังๆมันกินพื้นที่ 2 ชั้น 3 ชั้นอยู่กันไป แล้วก็ลงจากตึกมาเข้าสวน เข้าไร่ เข้านา มืดค่ำมาก็เข้าตึก เข้าคอนโดมิเนียมนอน อย่างนี้น่าจะเป็นสวรรค์ของคนจนได้ในระดับหนึ่ง

ถ้าหากรัฐบาลมีนโยบาย หรือพรรคการเมืองมีนโยบาย หรือนักกฎหมายแก้กฎหมาย ทำกฎหมายออกมาเลยว่า เฉพาะซื้อที่ให้คนจนซื้อเท่าไรก็ได้ ไม่ใช่ล็อกไว้เท่านั้นเท่านี้ 10 ไร่ 20 ไร่ 30 ไร่ 50 ไร่ เป็นเฉพาะเรื่อง เฉพาะกรณีไป ถ้าซื้อหมื่นไร่ แสนไร่ อาตมาว่าล้านไร่ก็ยังไม่พอกับคนจน จังหวัดหนึ่งควรจะมีสัก 1,000-2,000 ไร่ บางจังหวัดใหญ่ๆก็หมื่นไร่ ทำเป็นสวนแปลงใหญ่ นาแปลงใหญ่ ไว้สี่มุมของจังหวัด คนยากจนตามอำเภอ ตำบลต่างๆ ก็มารวมตัวกัน อยู่กัน ทำกันแบบชนิดที่มีโซนนิ่งได้สบาย โซนปศุสัตว์ โซนประมง โซนไม้ดอกไม้ประดับ โซนไม้มีค่า มีมูลค่าอะไรต่างๆที่มีราคาดี แล้วก็ร่มเย็นให้โลกด้วย เรียกว่าให้โลกลดความร้อนด้วย

ถามว่ามันจะพอแก้ไขปัญหา แก้กฎหมายกันได้หรือไม่ ไม่ใช่ว่าต้องล็อกกันเท่านั้นเท่านี้ ถ้าเอาไปเยอะแต่ไม่ทำ ล่ามโซ่แผ่นดินไว้ อันนี้ไม่ได้แน่นอน นายทหารบางคนมีหลายพันไร่ เป็นหมื่นไร่ก็มี เป็นนายทหาร เป็นหัวหน้าภาค เป็นแม่ทัพภาค แล้วก็หว่านซื้อไว้ ชาวบ้านเกรงว่านายพลมาซื้อถ้าไม่ขายเดี๋ยวจะลำบากก็เลยขายๆไป นายพล นายพันก็มีที่ดินเป็นร้อยไร่ พันไร่ เขาทำไม่ไหวก็ล่ามโซ่แผ่นดินไว้ บางทีจมน้ำจมท่าอยู่ไม่ได้พัฒนาเลย ไม่ได้ยกระดับแผ่นดินให้มีผลตอบแทนเป็นภาษีเข้ารัฐ เป็นรายได้เข้ามาให้ประเทศชาติได้เจริญก้าวหน้า

อาตมาฝากขอให้รู้จักคำว่า “ใช้แผ่นดินให้มีมูลค่า” อย่าปล่อยให้แผ่นดินรกร้างว่างเปล่ากัน จะทำให้ประเทศชาติเจริญแน่นอน

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login