วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“จาย” ผงาดรั้งอันดับ 10 ของโลก

On December 4, 2019

ส่วนประเทศไทยรั้งที่ 17 คัด อลป.
“เสธ.หมึก” ลุ้นได้โควตาอีก 1 ที่นั่ง
ปั่นซีเกมส์ “เจ้าภาพ” ยังป่วนไม่เลิก
1575455138204
“จาย อังค์สุทธาสาวิทย์” คะแนนสะสมสองล้อประเภทคีริน ผงาดขึ้นไปรั้งอันดับที่ 10 ของโลก ส่วนประเทศไทยมีคะแนนสะสมคัดไปโอลิมปิกเกมส์ 2002 ที่กรุงโตเกียว ขยับจากที่ 18 มาอยู่ที่ 17 “พลเอกเดชา” หวังขึ้นไปอยู่อันดับที่ 15 เพื่อจะได้สิทธิ์ไปแข่งขันใน “โตเกียวเกมส์” อีก 1 ที่นั่ง ลุ้น “จาย” ทำผลงานในศึก “ยูซีไอ แทร็ก เวิลด์ คัพ 2019-2020” อีก 3 สนามที่เหลือให้ดีที่สุด หากผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทุกสนาม ได้ลุยโตเกียวแน่นอน

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยไปแข่งขันจักรยานประเภทลู่รายการ “ยูซีไอ แทร็ก เวิลด์ คัพ 2019-2020” นำโดย “ทีเจ” จาย อังค์สุทธาสาวิทย์ ซึ่งลงแข่งในประเภทคีริน ประชาชนชาย รวมทั้งประเภททีมสปริ้นต์ ประชาชนชาย ที่มี จาย ลงแข่งร่วมกับ จ.ท.วรยุทธ คะปัญญา, ส.อ.จตุรงค์ นิวันติ โดยนักกีฬาทีมชาติไทยทั้ง 3 คน เพิ่งลงแข่งขัน “ยูซีไอ แทร็ก เวิลด์ คัพ 2019-2020” สนามที่ 3 ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง เมื่อวันที่ 29 พ.ย.-1 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยจายคว้าอันดับ 9 ประเภทคีริน ประชาชนชาย ได้คะแนนสะสม 250 คะแนน
1575455124445
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า จากเดิมจายมีคะแนนสะสมโลกอยู่อันดับที่ 13 มี 1,750 คะแนน ส่วนคะแนนสะสม “โอลิมปิกแรงกิ้ง” ของประเทศไทย อยู่อันดับที่ 18 มี 1,755 คะแนน ล่าสุด สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ได้ประกาศคะแนนสะสมครั้งล่าสุด เมื่อ 3 ธ.ค. ปรากฏว่า จาย ซึ่งทำคะแนนได้ 250 คะแนนจากการแข่งขันที่ฮ่องกง ทำให้มีคะแนนเพิ่มเป็น 2,000 คะแนน ส่วนอันดับโลกขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 10 ขณะที่คะแนนสะสม “โอลิมปิกแรงกิ้ง” ของประเทศไทย ก็เพิ่มขึ้นเป็น 2,005 คะแนน ขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 17

นายกสมาคมกีฬาขจักรยานฯ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้เราต้องการให้อันดับ “โอลิมปิกแรงกิ้ง” ของประเทศไทยขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 15 ให้ได้ ซึ่งการแข่งขัน ลู่รายการ “ยูซีไอ แทร็ก เวิลด์ คัพ 2019-2020” อีก 3 สนามที่เหลือ ได้แก่ สนามที่ 4 ที่เมืองเคมบริดจ์ ประเทศนิวซีแลนด์ วันที่ 6-8 ธ.ค., สนามที่ 5 ที่บริสเบน ประเทศออสเตรเลีย วันที่ 13-15 ธ.ค. และ สนามที่ 6 ที่เมืองมิลตัน ประเทศแคนาดา วันที่ 24-26 ม.ค. 63 นั้น จาย จะต้องทำผลงานให้ดีที่สุด โดยจะต้องตั้งเป้าว่าได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ หรือ 6 คนสุดท้ายทั้ง 3 สนาม แล้วไปลุ้นว่าจะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศในการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลก หรือ “ยูซีไอ แทร็ค เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์” ระหว่างวันที่ 26 ก.พ.-1 มี.ค. 63 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นรายการสุดท้ายก่อนจะประกาศรายชื่อชาติที่ได้โควาต้าไปโอลิมปิก 2020 “โตเกียวเกมส์” ในวันที่ 2 มี.ค.63

“ตอนนี้คะแนนของ จาย มีสูงพอที่จะผ่านเข้าไปแข่งขัน ยูซีไอ แทร็ค เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ ที่ประเทศเยอรมนี เรียบร้อยแล้ว หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก็มีโอกาสสูงที่ประเทศไทยจะขยับขึ้นไปถึงอันดับ 15 และส่งผลให้เราได้สิทธิ์ไปแข่งขันจักรยานในโอลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศญี่ปุ่น อีก 1 ทั่งนั่ง ในประเภทคีริน ซึ่งก็จะได้สิทธิ์ลงแข่งขันในรายการสปรินต์ไปด้วยในตัวอีกหนึ่งรายการ แต่ทั้งนี้ จาย ต้องเก็บคะแนนในอีก 3 สนามที่เหลือให้ได้มากที่สุด หากผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทั้ง 3 สนาม จาย มีโอกาสสูงมากที่จะได้สิทธิ์ไปโอลิมปิกเกมส์ ในปีหน้าค่อนข้างแน่นอน” พลเอกเดชา กล่าว

ด้าน ความเคลื่อนไหวของการแข่งขันจักรยาน ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปินส์ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. เวลา 14.00 น. (เวลาท้องถิ่น) มีการประชุมผู้จัดการทีมจักรยานถนน ที่โรงแรมโรแยล ปาร์ค ในเมืองตาเกไตย์ ซึ่งเป็นเมืองที่จัดการแข่งขันกีฬาจักรยานทุกประเภท โดยมี มร.อาบูซามา วาฮับ ประธานสมาคมจักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอ) และดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายเทคนิค หรือ Technical Delegate (TD) ของการแข่งขันซีเกมส์ ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม ในการนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่ง พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ กสิยะพัท กับ พันตำรวจตรี อดิศักดิ์ วรรณศรี ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยเข้าร่วมประชุม

หลังการประชุม พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ เปิดเผยว่า เจ้าภาพยังได้สร้างความปั่นปั่นให้นักกีฬาชาติต่าง ๆ ไม่เลิก โดยช่วงเช้าของวันที่ 4 ธ.ค. คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้มาแจ้งว่า การแข่งขันไทม์ไทรอัลบุคคล ส่งนักกีฬฬาได้ 1 คน ส่วนทีมไทม์ไทรอัล ส่งนักกีฬาได้ 3 คน สร้างความงุนงงให้แก่ทุกชาติ เพราะตามระเบียบเดิมระบุว่า ไทม์ไทรอัลบุคคล ส่งนักกีฬาได้ 2 คน ส่วนทีมไทม์ไทรอัล ส่งนักกีฬาได้ 4 คน แต่คิดเวลาดีที่สุด 3 คน

“โค้ชวิสุทธิ์” กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เจ้าภาพยังได้ระบุอายุนักกีฬาว่าต้องเกิด ค.ศ.1997 ขึ้นไป เท่ากับว่าต้องอายุ 22 ขึ้นไป แต่ตามกฏระเบียบของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ระบุว่าในรุ่นประชาชน อนุญาตให้นักกีฬาอายุ 19 ปีขึ้นไปแข่งขันได้ จนทางทีมชาติเวียดนามถึงกับวิ่งหน้าตาตื่นมาสอบถามกับทีมไทย ว่าจริงหรือไม่ เนื่องจากเวียดนามมีแต่นักกีฬาที่อายุต่ำกว่า 22 ปี

“นอกจากนี้ในเรื่องการปล่อยตัวเจ้าภาพก็จะให้ปล่อยตามเนชั่น แรงกิ้ง ของยูซีไอ แต่ตามกฏแล้วต้องปล่อยตามสถิติเดิมของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งก่อน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการประชุมผู้จัดการทีม ผมได้สอบถามไปอีกครั้งว่าจะเปลี่ยนแปลงระเบียบการแข่งขันตามนี้จริงหรือไม่ สุดท้ายสรุปว่ายึดตามระเบียบเดิม ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องความผิดพลาดเล็กน้อย แต่ถือว่าเป็นการสร้างสงครามประสาท ทำให้ทีมต่าง ๆ แตกตื่นตกใจ และเสียสมาธิ เหมือนอย่างที่ทีมเสือภูเขาเคยเจอมาแล้ว” โค้ชวิสุทธิ์ กล่าว

สำหรับการแข่งขันกีฬาจักรยานประเภทถนน จะเปิดฉากวันแรก ในวันที่ 5 ธ.ค. มีชิง 2 เหรียญทอง จากประเภท ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง ซึ่งไทยส่งนักกีฬา 2 คน คือ สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์ สมราช กับ ร้อยเอกหญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน ซึ่งจะเริ่มแข่งขันเวลา 09.00 น. ระยะทาง 23 กม. และ ไทม์ไทรอัลบุคคลชาย ทีมไทยส่ง นายธนาคาร ไชยาสมบัติ กับ จ่าอากาศโท ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ ลงชิงชัย เริ่มเวลา 13.00 น. ระยะทาง 35 กม.

อนึ่ง ช่วงเย็นของวันที่ 4 ธ.ค. พลเอกเดชา ได้เดินทางไปเยี่ยมนักกีฬาทีมชาติไทย ที่โรงแรมที่พัก พร้อมกับให้โอวาทนักปั่นไทยว่า ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อย่าได้เกิดอุบัติเหตุ หรือมีปัญหาอุปสรรคใด ๆ เกิดขึ้น เป้าหมายของสมาคมกีฬาจักรยานฯ อยู่ที่ 2 เหรียญทอง ตอนนี้ได้มา 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง จากเสือภูเขา แต่ทุกคนไม่ต้องกดดัน ขอให้สู้อย่างเต็มที่ ตั้งใจทำเพื่อชาติ เพื่อวงศ์ตระกูล เพื่อตัวเอง ขออวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จ และนำชัยชนะกลับสู้ประเทศไทย

ด้าน สิบตรีหญิง เพชรดารินทร์ สมราช กับ ร้อยเอกหญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน สองนักปั่นไทยที่จะลงชิงชัย ประเภท ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง ร่วมกันกล่าวว่า ตอนนี้สภาพร่างกายสมบูรณ์ดี ไม่มีใครเจ็บป่วย ส่วนสภาพจิตใจก็ฮึกเหิม พร้อมเกิน 100% ขอให้พ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกคนส่งแรงใจมาเชียร์พวกเรากันมาก ๆ นักกีฬาจักรยานทุกคนจะตั้งใจสู้อย่างเต็มที่ เพื่อทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย และความภาคภฒิใจแก่พี่น้องชาวไทยทุกคน

ขณะที่ นายธนาคาร ไชยาสมบัติ กับ จ่าอากาศโท ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ ที่เตรียมลงแข่งขันไทม์ไทรอัลบุคคลชาย ได้กล่าวว่า พวกเราสองคนฝึกซ้อมมาอย่างดีตามแผนที่สตาฟฟ์โค้ชวางไว้ทุกประการ การแข่งขันครั้งนี้ไม่ว่าจะเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งเพียงใด พวกเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อประเทศชาติ และพ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกคน ถึงตอนนี้จะขอสู้ให้เต็มที่ ไม่มีการถอยอย่างแน่นอน.


You must be logged in to post a comment Login