- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 2 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 6 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 7 days ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
- บทเรียนพระสายมูPosted 2 weeks ago
เขาหาว่าเธอเป็นแม่มด
คอลัมน์ : ร้ายสาระ
ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 13-20 ธันวาคม 2562)
หญิงสาวยอมจากบ้านเกิดเมืองนอนไปใช้ชีวิตในต่างแดนเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนรัก แต่แทนที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เหมือนในนิยายโรแมนติก กลับกลายเป็นว่ามีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นรอบๆตัวเธอหลายครั้งจนผู้คนต่างกล่าวหาว่าเธอเป็นแม่มด
ปี 1982 แคโรล คอมป์ตัน สาวน้อยวัย 20 ปี อาศัยอยู่กับคุณยายที่เมืองแอร์เชอร์ ประเทศสกอตแลนด์ แคโรลพบรักกับมาร์โก วิตูลาโน หนุ่มชาวอิตาเลียน ซึ่งในเวลานั้นทำงานเป็นบริกรที่โรงแรมเทิร์นเบอร์รีในเมืองแอร์เชอร์
หลังจากคบหากันได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ มาร์โกก็ถูกเรียกตัวกลับประเทศเพื่อไปเป็นทหารรับใช้ชาติ เขาจึงชักชวนแคโรลให้เดินทางไปอิตาลีกับเขา ทางด้านแคโรลเป็นคนมองโลกสวยตามแบบของเด็กสาวทั่วไป เธอตัดสินใจละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศอิตาลีเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนรัก
ลางร้ายมาเยือน
เดือนพฤษภาคม 1982 แคโรลเดินทางถึงกรุงโรม ประเทศอิตาลี เพียงไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ได้งานเป็นพี่เลี้ยงลูกชายวัย 2 ขวบ ให้กับครอบครัวเศรษฐีตระกูล “ริชชี่” แคโรลไม่ต้องกังวลเรื่องที่อยู่ที่กินอีกต่อไป เพราะเธอกินอยู่ในคฤหาสน์หรูทรงโรมันของนายจ้าง
ดูเหมือนทุกอย่างจะเริ่มต้นได้อย่างสวยงามเหมือนกับที่วาดฝันเอาไว้ แคโรลยังได้รับมอบหมายให้ดูแลบ้านในยามที่นายจ้างต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน เหตุการณ์ราบรื่นเกินกว่าที่คาดคิดเอาไว้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้เพียงไม่กี่วันเค้าลางของความไม่ชอบมาพากลก็คืบคลานเข้ามา
ขณะที่แคโรลเดินผ่านภาพวาดเกี่ยวกับศาสนาภาพหนึ่ง จู่ๆภาพวาดก็ร่วงจากฝาผนังตกลงมาที่พื้น ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดอะไรหากแม่บ้านที่เห็นเหตุการณ์ไม่เป็นคนเคร่งศาสนา แต่สำหรับคุณแม่บ้านแล้วสิ่งที่เห็นเป็นเหมือนกับลางร้าย เธอจึงนำเรื่องนี้ไปฟ้องนายจ้าง เตือนให้คอยระวังพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่
ตอนแรกนายจ้างก็ฟังหูไว้หู ไม่ได้ใส่ใจ อีกทั้งยังพาแคโรลเดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัวที่คฤหาสน์พักร้อนบนเทือกเขาแอลป์ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกเมื่อเกิดเพลิงลุกไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุที่ชั้นสองของบ้านพักร้อนและลุกลามไปทั้งหลังอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย แต่แผนการหยุดพักผ่อนต้องล้มเลิกไปโดยปริยาย นายจ้างเดินทางกลับคฤหาสน์ทรงโรมันในกรุงโรม แต่เหตุร้ายไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น มันติดตามตระกูลริชชี่มาด้วย จู่ๆก็เกิดประกายไฟขึ้นในห้องนอนของลูกชายจนเกือบคร่าชีวิตทารกน้อยวัย 2 ขวบ
ตำรวจดับเพลิงชันสูตรสถานที่เกิดเหตุแล้วลงความเห็นว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่เหตุร้ายเกิดขึ้นบ่อยครั้งนับตั้งแต่รับแคโรลเข้ามาทำงาน นายจ้างไม่กล้าเสี่ยงให้เธออยู่ร่วมชายคาอีกต่อไปจึงบอกเลิกสัญญาจ้างเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
แคโรลออกหางานใหม่ทันที เธอได้งานเป็นพี่เลี้ยงแอ๊กนีซี ลูกสาววัย 3 ขวบของตระกูลเซชชินี แคโรลได้โอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง จนกระทั่งนายจ้างพาครอบครัวเดินทางไปหาปู่ย่าที่คฤหาสน์บนเกาะเอลบา และฝันร้ายของแคโรลก็เริ่มต้นอีกครั้ง
ภาพเขียนเกี่ยวกับศาสนาร่วงจากฝาผนังตกลงมาอยู่ที่พื้นขณะที่แคโรลอยู่บริเวณนั้น วัตถุมงคลตกลงมาจากหิ้ง บางครั้งกระเด็นไปไกลข้ามห้อง สิ่งของในบ้านเคลื่อนย้ายได้เอง หลอดไฟในบ้านติดๆดับๆ ตกกลางคืนมีเสียงกระแทกฝาผนัง บางครั้งก็เป็นเสียงครูดฝาผนัง
นานวันเข้าเหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก ไม้กางเขนถูกบิดจนงอ ที่หนักที่สุดก็คือ เกิดประกายไฟบนฟูกนอนของแอ๊กนีซี แต่โชคดีที่ขณะนั้นทารกน้อยไม่ได้นอนอยู่ในเปล ครอบครัวเซชชินีเป็นพวกเคร่งศาสนา เริ่มสงสัยว่าแคโรลเป็นพวกต่อต้านศาสนาหรือเป็นแม่มด จึงทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นภายในบ้าน
ครอบครัวเซชชินีไม่เพียงแค่บอกเลิกสัญญาจ้างแคโรลเท่านั้น แต่ยังแจ้งตำรวจให้มาจับกุมตัวแคโรลข้อหามีพฤติกรรมเป็นแม่มด ตำรวจทำการสืบสวนพบว่าแคโรลมีความเชื่อมโยงกับเหตุร้ายคล้ายๆกับที่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวริชชี่เมื่อไม่นานมานี้
ล่าแม่มด
แคโรลถูกตำรวจจับกุมตัวและยัดใส่ห้องขังนาน 16 เดือนกว่าที่ศาลจะทำการไต่สวนข้อกล่าวหา ทางด้านมาร์โก คนรักที่แคโรลตั้งใจจะฝากฝังชีวิตไว้ด้วยนอกจากไม่ช่วยอะไรแล้วยังบอกเลิกซ้ำเติมเธอยิ่งขึ้นไปอีก
หนังสือพิมพ์ประโคมข่าวพาดหัวตัวไม้ “จับกุมตัวแม่มดพี่เลี้ยงเด็ก” ทำให้คดีเป็นที่สนใจของสาธารณชน กำลังทหารอาวุธครบมือควบคุมตัวแคโรลเดินทางมายังศาล ขณะอยู่ต่อหน้าบัลลังก์ศาลเธอถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก ทนายจำเลยต้องร้องขอต่อศาลให้นำตัวแคโรลออกจากกรง โดยให้เหตุผลว่าแคโรลไม่ใช่บุคคลอันตรายและไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ศาลอนุญาตตามคำร้องขอ แคโรลจึงได้ออกจากกรงและไปนั่งในคอกจำเลย
ในห้องพิจารณาคดีมีนักบวชคอยระวังความปลอดภัยหากแคโรลจะแสดงอิทธิฤทธิ์ ประชาชนที่เข้ามาฟังการพิจารณาคดีบางคนสวดมนต์ บางคนล้วงเครื่องรางของขลังขึ้นมาป้องกันตัว มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ในสมัยศตวรรษที่ 21
ไชอร่า โลบิน่า แม่หมอคนหนึ่งตรงเข้าไปหาแคโรลพร้อมกับสวดมนต์ไล่ผี ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องนำตัวแม่หมอออกไปนอกห้องพิจารณาคดีเพื่อให้พิธีกรรมทางศาลสามารถดำเนินต่อไปได้
มันคงเป็นเรื่องตลกร้ายในสายตาชาวโลกหากแคโรลถูกตั้งข้อหาว่าเป็นแม่มด เธอจึงถูกกล่าวหาว่าพยายามฆ่าและวางเพลิง ศาลตัดสินยกฟ้องข้อหาพยายามฆ่าเนื่องจากขาดหลักฐาน แม้ว่าข้อหาวางเพลิงจะขาดหลักฐานเช่นเดียวกัน แต่แคโรลก็ยังถูกตัดสินว่ามีความผิด ต้องรับโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม จากการที่แคโรลถูกจำคุก 16 เดือนระหว่างรอการพิจารณาคดี ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเพียงพอต่อความผิดจึงตัดสินให้ไม่ต้องรับโทษจำคุกอีกและให้ปล่อยตัวจำเลยเป็นอิสระโดยทันที คดีล่าแม่มดแคโรลถูกนำมาใช้เป็นกรณีศึกษาผลกระทบของการอุปาทานหมู่ และกลายเป็นคดีที่นักกฎหมายทั่วโลกกล่าวขานถึง
1.แคโรล คอมป์ตัน
2.แคโรล คอมป์ตัน
3.มาร์โก วิตูลาโน และแคโรล คอมป์ตัน
4.เกาะเอลบา
5.คดีล่าแม่มดแคโรลเป็นข่าวใหญ่ในอิตาลี
6.แคโรลถูกขังในกรงขณะอยู่ในศาล
You must be logged in to post a comment Login