วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

กสศ. จับมือศิลปินดารา เปิดตัวโครงการ ล้านพลังคนไทย มอบโอกาสทางการศึกษาเป็นของขวัญ

On December 13, 2019

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2562 ที่ลานหน้า LIDO CONNECT สยามสแควร์   กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) แถลงข่าวเปิดโครงการ  “ล้านพลังคนไทย มอบโอกาสทางการศึกษาเป็นของขวัญ”  เพื่อชวนคนไทยร่วมบริจาคเงินสมทบเพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาเพราะความยากจน พร้อมเปิดตัวศิลปินดาราร่วมรณรงค์ อาทิ ป๊อก-ภัสสรกรณ์ และ มาร์กี้-ราศรี จิราธิวัฒน์   หนึ่ง จักรวาล และน้องมินมินลูกสาว  ในงานยังมีคอนเสิร์ตเปิดหมวกมอบโอกาสเป็นของขวัญ นำโดย ลุลา ซีซั่นไฟว์   มาเรียมบีไฟว์ และ รุจเดอะ สตาร์

ดร.ประสาร  ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา  กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมากองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ได้เดินหน้าช่วยเหลือบรรเทาอุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษาให้กับเด็กยากจนด้อยโอกาส มากกว่า 7 แสนคน ผ่านโครงการเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข หรือทุนเสมอภาค  แต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะจากการประเมินของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) พบว่ากลุ่มเป้าหมายตามภารกิจของ กสศ. มีมากกว่า 4 ล้านคน และจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรด้านงบประมาณมากกว่าปีละ 25,000 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่ในปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมา กสศ. ได้รับการจัดสรรทรัพยากรเพียง 2,537 ล้านบาทหรือเพียง 10% ของงบประมาณที่ควรจะได้รับตามภารกิจเท่านั้น

1576241975509

ดร.ประสาร กล่าวว่า จากการติดตามเด็กกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดผ่านระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา Information System for Equitable Education (iSEE) ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของกสศ. ที่สามารถรายงานผลและติดตามเด็กๆกลุ่มนี้ได้รายบุคคล   พบว่า ครอบครัวของนักเรียนที่ยากจนที่สุด มีรายได้เฉลี่ยต่ำสุดเพียง 462 บาทต่อคนต่อเดือน นั่นหมายความครอบครัวของเด็กกลุ่มนี้จะมีรายได้เพียง 5,544 บาทต่อปีหรือราว 15 บาทต่อคนต่อวันเท่านั้น เด็กกลุ่มนี้กว่า 2 แสนคนที่กำพร้าไม่ได้อยู่กับพ่อแม่  และกว่า 19,000 คนมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์การเจริญเติบโต  หรืออยู่ในภาวะที่จำเป็นต้องติดตามสภาวะทุพโภชนาการอย่างใกล้ชิด  จากการสำรวจยังพบว่า ในจำนวนนี้เกือบครึ่งที่ไม่ได้ทานอาหารเช้า สาเหตุมาจากฐานะยากจน และต้องช่วยพ่อแม่ทำงานก่อนมาเรียน   เด็กกลุ่มนี้ต้องการความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน และข้อเท็จจริงชี้ชัดว่าหากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ทันท่วงทีและพอเพียง  มีความเสี่ยงที่จะหลุดจากการศึกษาก่อนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน และตกอยู่วงจรความยากจนข้ามชั่วคน

1576241977805

ดร.ประสาร กล่าวว่า  เด็กเยาวชนที่อยู่นอกระบบการศึกษากำลังเพิ่มสูงขึ้นโดยมีมากถึง 430,000 คน (อายุระหว่าง 6-14 ปี/ป.1-ม.3) และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นทุกปีในอนาคต มีข้อมูลระบุชัดว่าแนวโน้มการออกจากระบบการศึกษาของเด็กไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะตัวเด็กเองและครอบครัว แต่ยังเป็นปัญหาที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภาพรวมของประเทศ ดังนั้น โอกาสที่สูญเสียไปทางการศึกษาของเด็กๆกลุ่มนี้ ก็คือโอกาสที่สูญเสียไปของประเทศเช่นกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมปัญหานี้จึง จำเป็น เร่งด่วนและรอไม่ได้ และลำพังเพียงกสศ.และงบประมาณแผ่นดินที่จำกัดอาจไม่สามารถช่วยเด็กทุกคนได้ทันเวลา      การสนับสนุนเพิ่มเติมจากประชาชนคนไทยจะเป็นพลังสำคัญในการทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเหล่านี้ให้มีแนวโน้มลดลงอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต

 

ดร.ประสาร กล่าวว่า อดีตรองผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก Dr.Nicholas Burnett เคยประเมินว่าปัญหาเด็กเยาวชนนอกระบบการศึกษา สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยมากกว่าปีละ 1-3 % ของ GDP หากมองในมิตินี้ การลดความเสี่ยงและรักษาเด็กไว้ในระบบการศึกษา จึงไม่เพียงช่วยสร้างโอกาสในอนาคตของเด็กๆ  แต่ยังสร้างผลกระทบทางบวกในการพัฒนาประเทศในภาพรวม   นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลในปีนี้อย่าง Professor Abhijit Banerjee และ Professor Esther Duflo  สรุปบทเรียนจากการศึกษาพัฒนาการทางเศรษฐกิจของหลายประเทศ ทั้งที่ประสบความสำเร็จ และไม่ประสบความสำเร็จ จากทุกมุมโลกมาตลอดหลายทศวรรษ ไว้อย่างน่าสนใจใน Foreign Affairs ฉบับล่าสุดว่า แนวทางหนึ่งที่ดีที่สุด (The Best Bet) ในการพัฒนาประเทศ อาจมิใช่การมุ่งอัดฉีดเงินผ่านการกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่คือการยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ผ่านการลงทุนในการศึกษาและการสาธารณสุข ซึ่งจะนำไปสู่การเจริญเติมโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงและยั่งยืนในอนาคต ”

ด้านป๊อก-ภัสสรกรณ์ และ มาร์กี้-ราศรี  จิราธิวัฒน์ กล่าวว่า การร่วมบริจาคกับกสศ. สิ่งที่แตกต่างคือ มั่นใจได้ว่า มีระบบisee เป็นเครื่องมือช่วยชี้เป้าความช่วยเหลือ มุ่งไปยังเด็กๆที่เดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ลงลึกตั้งแต่ระดับ จังหวัด อำเภอ ตำบล โรงเรียน และข้อมูลปัญหาความต้องการรายบุคคล  ไม่ว่าเราจะเดินทางไปที่ไหนก็ตามในประเทศไทย บางครั้งในทริปท่องเที่ยว  ระหว่างเส้นทางในช่วงปีใหม่เรายังสามารถแบ่งปันโอกาสให้กับเด็กๆกลุ่มนี้ได้ด้วย   เราทั้งคู่สามารถยื่นมือไปเติมเต็มความช่วยเหลือได้ทันที และมั่นใจได้ว่าความช่วยเหลือจะมุ่งไปถึงเด็กๆอย่างแน่นอน  เพราะสามารถติดตามผลลัพธ์การช่วยเหลือได้จนกว่าเด็กๆรายคนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานได้อีกด้วย ทั้งนี้ทุกเงินบริจาคยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า โดยทุกท่านสามารถเข้าไปที่   www.eef.or.th/donate  หรือ  โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาซอยอารีย์  เลขที่ บช. 172-0-30021-6  ชื่อบัญชี กสศ.มาตรา 6(6) – เงินบริจาค”
“เหนือความยากลำบาก สิ่งสำคัญที่เราทั้งคู่ประทับใจ คือ ศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในของเด็กๆกลุ่มนี้  ความมุมานะ และพยายามจนสุดตัวที่จะมาเรียนหนังสือให้ได้    ในช่วงเทศกาลแห่งการให้และก้าวสู่ปีใหม่นี้ จึงขอเชิญชวนคนไทย ร่วมทำบุญครั้งสำคัญกับพวกเราและ กสศ.ในโครงการ  “ล้านพลังคนไทยมอบโอกาสทางการศึกษาเป็นของขวัญ”   เพื่อน้องๆที่มีความฝัน และมีศักยภาพ ได้มีอนาคตดีขึ้น และไม่ต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา”


You must be logged in to post a comment Login