วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“รมช.มนัญญา” หนุนโรงงานนมอ.ส.ค.เชียงใหม่ ขึ้นแท่นศูนย์กลางแหล่งการเรียนรู้

On December 15, 2019

วันนี้(15ธ.ค 62) ณ ต.ห้วยแก้ว  อ.เมือง จ.เชียงใหม่  นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมด้วย ดร.อาทิตย์  เพ็ชรรัตน์  กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อ.ส.ค ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) สำนักงานภาคเหนือตอนบน โรงงานผลิตภัณฑ์นมห้วยแก้ว จ.เชียงใหม่  โดยมี ดร.ณรงค์ฤทธิ์  วงศ์สุวรรณ  ผอ.อ.ส.ค. พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน อ.ส.ค. ให้การต้อนรับ

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวภายหลังเดินทางเยี่ยมชมโรงงานผลิตภัณฑ์นมห้วยแก้ว (เชียงใหม่) ของสำนักงานภาคเหนือตอนบน อ.ส.ค.ว่าเพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอดโคนมอาชีพพระราชทานให้มีความมั่นคง  ยั่งยืน ได้มีการมอบนโยบายให้ อ.ส.ค. เร่งส่งเสริม พัฒนาเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและพัฒนาวิจัยผลิตภัณฑ์ให้เกิดความหลากหลายควบคู่กับการเร่งขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คทั้งในและต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งนอกจากสร้างรายได้เพิ่มให้กับ อ.ส.ค. แล้วยังเป็นการช่วยยกระดับรายได้ของเกษตรกรโคนมให้เกิดความมั่นคงยิ่งขึ้น  โดยภายในปี 64 อ.ส.ค.ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่12,000 ล้านบาท ส่วนในปี 62 นี้ทำรายได้อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท เพิ่มจากปี 61 ที่ทำรายได้อยู่ที่ 9,560 ล้านบาท

6718

สำหรับโรงงานนม อ.ส.ค. จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 40  ล้านบาท ในการขยายกำลังผลิตนมพาสเจอร์ไรส์  โดยการปรับโรงงานนม  ระบบการผลิตและและเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ ที่สามารถทำการผลิตผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์ ได้ถึง 6ตัน/ชม. ทำให้อ.ส.ค. สามารถรับซื้อน้ำนมดิบจากสหกรณ์โคนมและเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจากทางภาคเหนือได้มากขึ้น  และทำให้มีกำลังผลิตผลิตนมพาสเจอร์ไรส์เพิ่มจากเดิม สามารถส่งผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้เพิ่มขึ้น  ตลอดจนสามารถกระจายผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงตลาดทั่วพื้นที่ในภาคเหนือรวมถึงภูมิภาคอื่นๆ ทั่วประเทศ  โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์ไทย-เดนมาร์คได้มีการวางแผนที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มโรงแรม  ร้านอาหาร ร้านกาแฟตลอดจนร้านนมต่างๆในพื้นที่ภาคเหนืออีกด้วย

6757

ปัจจุบัน อ.ส.ค. รับซื้อน้ำนมดิบจากสหกรณ์ฯ รวมกว่า 44 สหกรณ์ เฉลี่ย 800 ตันต่อวัน เพื่อรองรับการผลิตในโรงงาน อ.ส.ค. ทั้ง 5 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือตอนบน (จังหวัดเชียงใหม่) ภาคเหนือตอนล่าง (จังหวัดสุโขทัย) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดขอนแก่น)  ภาคใต้ (อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์) และภาคกลาง (อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี)   และมีแผนผลักดันให้โรงงานนม อ.ส.ค. จังหวัดเชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางของแหล่งการเรียนรู้ในกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์โคนม ตลอดจนนักเรียน/นักศึกษา องค์กรต่างๆที่สามารถเข้ามาขอเยี่ยมชมศึกษาดูงานและกระบวนการผลิตของ อ.ส.ค. เพื่อได้เห็นการพัฒนาและขั้นตอนการผลิต ผลิตภัณฑ์นมที่มีคุณภาพ ตลอดจนได้ศึกษาเรื่องราวของโคนมอาชีพพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มอบให้แก่เกษตรกรไทยได้มีอาชีพทำกิน และ อ.ส.ค. ได้ทำหน้าที่ขององค์กรเพื่อสืบสานและสานต่อในอาชีพการเลี้ยงโคนมให้อยู่คู่กับสังคมไทยสืบไป

6756

“ การที่ อ.ส.ค. ได้มีการปรับปรุงและขยายการผลิตโรงงานนมพาสเจอร์ไรส์ จังหวัดเชียงใหม่โดยมีการทำ MOU ร่วมกับสหกรณ์ 3 สหกรณ์ ได้แก่ 1. สหกรณ์โคนมการเกษตรไชยปราการ จำกัด 2. สหกรณ์โคนมแม่โจ้ จำกัด 3. สหกรณ์โคนมแม่วาง จำกัด โดยปริมาณน้ำนมดิบที่สามารถรองรับจากเกษตรกรในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ได้ถึง 22 ตัน/วัน โดยจำนวนปริมาณน้ำนมดิบดังกล่าวสามารถนำมาผลิตผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์และผลิตภัณฑ์กลุ่มนมเย็นของ อ.ส.ค. โดยมีการผลิตและกระจายสินค้าได้มากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนี้ อ.ส.ค. ยังมีแผนที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์และกลุ่มนมเย็นไปยังกลุ่มธุรกิจ Catering ต่างๆ เช่น โรงแรม ฟู้ดส์คอร์ท ร้านอาหาร อีกด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างฐานการผลิตผลิลภัณฑ์นมของ อ.ส.ค. ให้มีประสิทธิภาพเพื่อแตกไลน์สินค้าและขยายกลุ่มผู้บริโภคให้มากขึ้นแล้ว ยังช่วยเป็นการสนับสนุน ส่งเสริมให้คนไทยได้ดื่มนมกันมากขึ้น และช่วยสืบสาน รักษา ต่อยอดโคนมอาชีพพระราชทาน จากในหลวงรัชกาลที่ 9  ให้อยู่คู่กับสังคมไทยให้ยาวนานสืบไป” นางสาวมนัญญา  กล่าว

6766

ด้าน ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวเพิ่มเติมว่า  ปัจจุบันการผลิตผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์และกลุ่มผลิตภัณฑ์นมเย็นมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นตามความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง  ดังนั้น การลงทุนในการปรับปรุงและการขยายไลน์ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์และกลุ่มผลิตภัณฑ์นมเย็นที่โรงงานนม อ.ส.ค. จังหวัดเชียงใหม่ จึงเป็นสิ่งสำคัญ  เพื่อจะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าไปทั่วทุกพื้นที่ในเขตภาคเหนือ และส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน  ได้แก่   ประเทศเมียนมาร์ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว   นอกจากนี้ได้เตรียมเปิดตลาดเพิ่มไปยังประเทศเวียดนามอีกด้วย ซึ่งคาดว่ารายได้ในการส่งออกนมยูเอชที และนมพาสเจอไรส์ของสำนักงาน อ.ส.ค. ภาคเหนือตอนบน จังหวัดเชียงใหม่ ในปี 63 จะสามารถทำยอดขายได้กว่า 1,000 ล้านบาท

6761

ปัจจุบัน  อ.ส.ค. ได้มีการทำแผนประชาสัมพันธ์ เพื่อรณรงค์และสนับสนุนให้คนไทยและเยาวชนไทยหันมาบริโภคนมที่มีคุณภาพจากนมโคสดแท้ 100%  ไม่ผสมนมผงอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์


You must be logged in to post a comment Login