- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ศึกลูกหนังเยาวชนโค้กคัพ รอบ 8 ทีม ประเดิม 21 ม.ค.2563
ฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย “โค้กคัพ” ครั้งที่ 21 ประกบคู่รอบ 8 ทีม เตะแบบเหย้า เยือนเรียบร้อยแล้ว นัดแรกประเดิมวันที่ 21 มกราคม 2563 ทีมแชมป์รับ 1 ล้านบาท พร้อมทริปพิเศษ เยือนถิ่นแอนฟิลด์ เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย เผย “โค้กคัพ” ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของวงการลูกหนังไทยตามเจตนารมณ์ของ โคคา-โคลา ที่พร้อมที่จะส่งเสริมการสร้างทัศนคติ ความรู้ และศักยภาพของนักฟุตบอลในโครงการ “โค้กคัพ” ให้สามารถก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว
เมื่อวันพุธที่ 18 ธันวาคม 2562 เวลา 14.00 น. ที่ Lifestyle Hall A/B ชั้น G ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางกะปิ กรุงเทพฯ คุณธงชัย ศิริธร ผู้อำนวยการกิจกรรมสังคมและสื่อสารองค์กร ตัวแทน บริษัท ไทยน้ำทิพย์จำกัด ร่วมกับ คุณณัฐวุฒิ เรืองเวศ รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ตัวแทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ คุณลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯตัวแทนจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมเป็นประธานแถลงข่าว การจับสลากประกบคู่ การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย “โค้กคัพ” ครั้งที่ 21 รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยมีผู้สนับสนุน ตัวแทนสโมสร และสื่อมวลชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก ก่อนที่การแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่จะเตะแบบเหย้า-เยือนจะเริ่มแข่งขันนัดแรกในวันที่ 21 มกราคม 2563
คุณธงชัย ศิริธร ผู้อำนวยการกิจกรรมสังคมและสื่อสารองค์กร ตัวแทน บริษัท ไทยน้ำทิพย์จำกัดเปิดเผยว่า “ในนามของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ‘โค้กคัพ’ ในครั้งที่ 21 นี้ เป็นปีที่เราได้จัดกิจกรรมฟุตบอลระดับเยาวชนในประเทศไทยมาครบรอบ 40 ปีอีกด้วย จึงเป็นโอกาสดีที่จะเริ่มต้นมิติใหม่ของ “โค้กคัพ” สู่การยกระดับให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยยังคงสานต่อความมุ่งมั่นของ “โค้ก” ในการสร้างโครงการที่สามารถส่งเสริมให้เยาวชนเล่นกีฬาและออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป”
“การแข่งขันครั้งที่ 21 นี้ ได้แข่งขันผ่านมาจนถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งการแข่งขันก็ได้เพิ่มความเข้มข้น ด้วยการประกบคู่แข่งแบบเหย้า-เยือน ซึ่งเรามั่นใจว่าจะเป็นเกมการแข่งขันที่เร้าใจ ตื่นเต้นได้รับความสนใจแฟนบอลแต่ละสโมสรแน่นอน เพราะนักเตะส่วนใหญ่ก็มีดีกรีดาวรุ่งของสโมสรทั้งนั้น ซึ่งก็ตรงกับวัตถุประสงค์ของการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน “โค้กคัพ” ที่เราต้องการจัดอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนทั่วประเทศเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพื่อแสดงฝีเท้าออกมา เป็นการปูพื้นฐานไปสู่นักเตะอาชีพ ก้าวไปสู่นักเตะตัวแทนทีมชาติ ตัวแทนสโมสรต่างๆนั่นเอง”
content/uploads/2019/12/1576667436388-300×231.jpg” alt=”1576667436388″ width=”300″ height=”231″ class=”alignnone size-medium wp-image-386435″ />
“สำหรับ ‘โค้กคัพ’ ครั้งที่ 21 ‘โค้ก’ ได้จะมอบรางวัลพิเศษกับทีมแชมป์ โดยจะพาทีมชนะเลิศไปสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ รวมถึงสนับสนุนเงินรางวัลให้กับทีมชนะเลิศ และรองชนะเลิศเป็นเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้าน 5 แสนบาท โดยมอบให้ทีมชนะเลิศ 1 ล้านบาท และทีมรองชนะเลิศ 5 แสนบาท”
ส่วน คุณณัฐวุฒิ เรืองเวศ ตัวแทน การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท.) กล่าวว่า “การกีฬาแห่งประเทศไทย มีความยินดีและพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ‘โค้กคัพ’ อย่างเต็มที่ ด้วยเจตนารมณ์ที่ตรงกันกับกลุ่มธุรกิจ โคคา-โคลาฯ ในการส่งเสริมการเล่นกีฬาในกลุ่มเยาวชน และได้เล็งเห็นประโยชน์ของการแข่งขันนี้ที่จะเป็นโอกาสสำคัญในการที่เยาวชนจะพัฒนาทักษะฟุตบอล เพื่อต่อยอดไปถึงการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ โดยการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนด้านสนามแข่งขันทั่วประเทศ
ขณะที่ คุณลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์ ตัวแทน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ กล่าวปิดท้ายว่า “ในนามของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็ต้องขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ คือ การกีฬาแห่งประเทศไทย, กรมพลศึกษา โดยเฉพาะภาคเอกชนตัวหลัก คือ กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย รวมทั้งผู้สนับสนุนทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนฟุตบอล ‘โค้กคัพ’ ด้วยดีเสมอมา ด้วยเจตนารมณ์ที่ตรงกัน คือต้องการยกระดับมาตรฐานการเล่นกีฬาฟุตบอลของเยาวชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และส่งเสริมให้ ‘โค้กคัพ’ เป็นสนามแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ของเยาวชน เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เล่นกีฬาที่ชื่นชอบ และแสดงความสามารถ พร้อมกับการพัฒนาทักษะไปสู่นักฟุตบอลอาชีพ ที่เป็นเป้าหมายสูงสุดของเยาวชนที่ชื่นชอบฟุตบอลทุกคน”
สำหรับ 8 ทีมสุดท้าย ที่ผ่านรอบคัดเลือกกลุ่ม ได้เป็นตัวแทนกลุ่มแต่ละภาค ดังนี้
1. กรุงเทพมหานคร (สโมสร อาร์มี่ ยูไนเต็ด)
2. ภาคใต้ (สโมสร คาเด็นซ่า สตูล ยูไนเต็ด)
3. ภาคตะวันตก (สโมสร อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด)
4. ภาคตะวันออก (สโมสร ชลบุรี เอฟซี)
5. ภาคเหนือตอนล่าง (สโมสร ชัยนาท ฮอร์นบิล)
6. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
7. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (สโมสรหนองบัวพิชญ)
8. ภาคเหนือตอนบน (สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี)
You must be logged in to post a comment Login