วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ต้องเมตตาแบบมีปัญญา

On December 23, 2019

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 23 ธ.ค. 62)

ช่วงนี้เรื่องที่น่าวิตกกังวลหรืออยู่แบบไม่ค่อยจะร่มเย็นเป็นสุขเห็นจะไม่มีอะไรเกินกว่าเรื่องขโมยกับโจร ซึ่งขโมยยุคนี้เป็นขโมยเด็กที่มีอายุน้อย ตอนนี้ที่วัดก็มีเด็กเป็นแก๊งมาลักขโมย พ่อแม่รู้หรือเปล่าก็ไม่รู้ว่าลูกตัวเองไปเข้าแก๊งกับใครหรือไม่ เด็กพวกนี้มากัน 5-6 คน มาดูต้นทางไว้ เป็นคนที่รู้ดีว่าเราอยู่กันอย่างไร ใครอยู่ ใครไม่อยู่ ไม่รู้จะเป็นอย่างที่เขาว่ากันมั้ยว่าจับเด็กมารวมตัวกันและตั้งแก๊งขโมย แล้วก็มีผู้ใหญ่เป็นแบ็กอยู่ข้างหลัง เพราะรู้ว่าถ้ามีคดีเด็กจะได้รับโทษไม่มาก

อยากจะฝากผู้ใหญ่ในปัจจุบันว่า เด็กบางคน บางกลุ่ม บางพวก อาจจะทำคดีรุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่ โหดเหี้ยม โหดร้ายมากกว่าผู้ใหญ่ก็เป็นได้ อาจจะเป็นคนที่ค่อนข้างทำอะไรรุนแรงเกินวัย มีคดีใหญ่ๆเกินวัย ทำได้โหดร้ายมากกว่าผู้ใหญ่ คำว่า “เมตตา” ถ้าเป็นเมตตาอวิชชาก็ไม่ไหว เหมือนเมตตานักโทษ ให้อภัยโทษ ถามว่าถ้าเมตตาอย่างนี้แล้วปล่อยนักโทษที่ฆ่าคนเป็นว่าเล่น ฆ่ามาตั้ง 6 ศพ พอปล่อยออกมาก็มาฆ่าต่ออีกอย่างนายสมคิด พุ่มพวง ที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้

พระพุทธเจ้าบอกว่า เมตตาได้แต่อย่าให้มีเมตตาอวิชชา ถ้าเมตตาอวิชชามันเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี เหมือนชาวนาเมตตางูเห่า แล้วงูเห่าก็กัดชาวนาตาย กฎหมายไทยดีกับคนชั่วเกินไป ทำให้คนชั่วย่ามใจ ติดคุกไม่เท่าไรเดี๋ยวก็ออกมาทำผิดต่อได้อีก ดังนั้น กฎหมายต้องมีธรรมสัจจะเฉพาะกรณี เฉพาะคน เพราะบางคน บางกลุ่มทำอะไรเกินกว่าที่คนทั่วไปจะทำได้

พวกขโมยก็ขโมยของวัดวาไม่หยุด พวกนักล่าฆ่าผู้หญิงก็จะฆ่าอยู่นั่นแหละ ไม่ยอมหยุด ไม่ยอมเข็ด ไม่ยอมจำ ติดคุกออกมาก็มาทำต่ออีก ต้องอย่าให้เกิดเมตตาอวิชชา ถ้าจะเมตตาก็ขอให้อยู่ในกรอบที่พอจะอนุมาน อนุโลมได้บ้างเป็นบางครั้ง บางกรณี ไม่ใช่เมตตากันทุกครั้ง ทุกกรณี หลวงพ่อพุทธทาสใช้คำว่า เป็นธรรมสัจจะได้เฉพาะคน เฉพาะกลุ่ม แต่บางคนให้อภัยมาก เมตตามาก ก็เอาความเมตตาให้อภัยไปสร้างความโหดร้ายอำมหิตให้กับผู้อื่นอย่างสาหัสสากรรจ์

คนเราต้องเมตตาแบบมีปัญญา อย่าให้เป็นเมตตาอวิชชามากนัก จะทำให้อยู่กันไม่เป็นสุข ต้องอยู่ร้อนนอกทุกข์กันไปอีกเท่าไรถ้าพวกเขาเอาประโยชน์จากเมตตาไปใช้ในทางตรงกันข้าม ไปใช้โหดร้ายเลวทรามกับคนทั่วไป แล้วจะไม่เป็นผลดี กลายเป็นผลร้ายต่อชาติบ้านเมือง ต่อสังคม เพราะฉะนั้นเราจะเมตตาใคร จะดีกับใคร ก็ต้องดูว่าเขาดีด้วยหรือเปล่า เป็นคนรักดีหรือเปล่า ถ้าเราดีกับคนรักดีก็จะมีแต่ดีบวกดี แต่ถ้าดีกับคนอัปรีย์ คนไม่ดี ก็จะเลวร้าย เสียหายมากมาย

เพราะฉะนั้นต้องรู้จักดีเฉพาะกรณี เฉพาะคน อย่าไปดีทั่วมั่วไปหมด เดี๋ยวดีแตก ดีซ่าน จะวุ่นวาย จะลำบาก เดือดร้อน เสียหายอย่างใหญ่หลวงได้ ก็หวังว่าต่อแต่นี้ไปถ้าจะเมตตาเด็ก ให้อภัยเด็ก ต้องดูด้วยว่าเด็กทำชั่วร้ายเกินวัยเขาหรือเปล่า ไม่ใช่อายุ 10 กว่าขวบ แต่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ได้ ถ้ามันเกิดกำเริบเสิบสาน เกิดลำพองย่ามใจ ผู้ใหญ่นั่นแหละจะลำบากกันต่อไป

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login