วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

มีจิตสำนึกบ้าง

On December 24, 2019

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 24 ธ.ค. 62)

สิ่งที่เราพอจะมีความหวังว่าสามารถคุ้มครองป่าไม้ให้รอดจากฝีมือคนบุกทำลาย คนโกงชาติบ้านเมืองต่างๆ ถ้าลำพังกฎหมายยังพึ่งไม่ได้ เจ้าหน้าที่รัฐยิ่งหมดหวัง ยังดีที่คุณวีระ สมความคิด ถามว่าใครเป็นคนอนุญาตให้เดินไฟเข้าไป ใครเป็นคนอนุญาตให้เดินน้ำ ให้ความสะดวกในเรื่องถนนหนทาง แต่ยังหาตัวไม่ได้ นี่ถ้าไม่มีคนอย่างคุณวีระ คุณดำรงค์ พิเดช คุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร

เพราะพวกนี้จับทางได้ว่าเดี๋ยวสื่อก็ลืม เดี๋ยวคนไทยก็ลืม เกิดเรื่องแบบนี้เดี๋ยวก็ลืม เลยกลายเป็นเรื่องรอวันคนลืม ไม่ได้รอวันที่จะรับโทษรับภัย ต้องขอบคุณแทนประเทศไทยที่บรรพบุรุษไทยช่วยกันรักษาชาติบ้านเมืองอย่างซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ แต่มายุคนี้เราเริ่มเห็นท่าทีว่าถ้าไม่มีคนคอยกระตุ้นให้คดีดำเนินไป อีกฝ่ายหนึ่งก็จะหาเจ้าหน้าที่ หาใครต่อใครเข้าไปสอบสวนยื่นเรื่อง แล้วก็โยกโย้ โอ้เอ้ ซื้อเวลา ทำให้เสียเวลาในการไปเอาแผ่นดินคืน เอาป่าคืน

เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้องทำบุญกันอีกแบบหนึ่งดีมั้ย ทำบุญสร้างชาติด้วยการป้องกัน ด้วยการให้กำลังใจแก่คนที่ป้องกันไม่ให้ป่าถูกยึดถูกทำลาย อาตมาเคยให้เงินคุณวีระเมื่อหลายปีแล้ว 10,000, 20,000 หรือ 30,000 บาท จำไม่ได้ แต่คิดว่าไม่ต่ำกว่าหมื่น ให้นำไปใช้ในการที่ต้องไปติดตามดูว่าโกงตรงนั้น โกงตรงนี้

คนไทยเคยคิดเรื่องทำบุญกันแบบนี้มั้ย บุญช่วย บุญรอด บุญพาวาสนาส่งให้ประเทศเรามีป่าไม้ มีอะไรต่ออะไรอุดมสมบูรณ์ ถ้าเราไม่ช่วยคนเหล่านี้จะเอาทุนรอนที่ไหนมาใช้ แล้วจะไม่มีคนสังเกตตาไวเหมือนหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่นั่งรถไฟแล้วเจอนายสมคิด พุ่มพวง รู้เลยว่าเขาต้องเสี่ยง เขาต้องไปบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีการถกเถียงกันว่าสถานีรถไฟน่าจะมีไหวพริบเรื่องนี้บ้าง แต่จะไปโทษเขาทีเดียวก็ไม่ได้ เวลามันกระชับนิดเดียว แล้วเขาก็ปิดหน้าปิดตา คงต้องบอกว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา อย่าเป็นตาที่ไม่มีสับปะรด ตาไม่มีสับปะรดนี่มันไม่ได้อะไร

ขอให้เป็นหูเป็นตา เป็นตาสับปะรดกันบ้าง แล้วมันจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่ถ้ายังขืนปล่อยกันอย่างนี้ มันจะสูญเสียไปเรื่อย น้ำ-ไฟเปิดทิ้งเปิดขว้าง อาตมาไปบิณฑบาตสว่างแล้วไฟถนนหนทางก็ยังไม่ปิด เรียกว่าทั้งน้ำ ทั้งไฟ เปิดทิ้งกันไม่ได้เสียดายเลย

อาตมาพูดเมื่อวันพระที่แล้วพวกญาติโยมก็ขำ เขาบอกให้ประหยัดน้ำเพื่อจะลดวิกฤต อาตมาเองเข้าส้วมปัสสาวะ 2 ครั้ง 3 ครั้ง ถึงจะกดน้ำสักครั้งหนึ่ง บางทีเราอยู่รูปเดียว ในวินัยก็มีว่าเมื่อเข้าส้วมแล้วต้องราด แต่ถามว่าในกรณีที่เกิดวิกฤต น้ำไม่พอใช้ พระทะเลาะกันเรื่องเข้าส้วมแล้วไม่ราดน้ำ เพราะต้องใช้ส้วมเดียวหลายรูป ก็คิดอะไรให้ถูกธรรมสัจจะเฉพาะกรณีเฉพาะเรื่องกันบ้าง อย่าให้กลายเป็นเรื่องที่คิดกันว่าไม่ใช่น้ำของเรา ไม่ใช่ไฟของเรา เลยปล่อยปละละเลย มันก็มีความเสียหาย น้ำไม่พอใช้ แล้วมาบ่นกันลำบากกัน ก็ขอให้มีจิตสำนึกที่ดีกันต่อไป

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login