- ปีดับคนดังPosted 3 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 6 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 7 days ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
ม.มหิดลมอบรางวัลเชิดชูโครงการ “ธรรมะทูเดย์” อบรมเยาวชนสอดแทรกธรรมะผ่านกิจกรรม
โลกในยุคดิสรัปชั่นเกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็วในทุกด้าน จนส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การพัฒนาที่ยั่งยืน จึงเป็นการพัฒนาที่คุณภาพของ “ความเป็นมนุษย์” เด็กและเยาวชนเปรียบได้กับ “ต้นกล้าแห่งอนาคต” ที่รอการบ่มเพาะความรู้ อบรมความดี ให้พร้อมตั้งแต่เยาว์วัย เพื่อเติบโตเป็น “มนุษย์” ที่มีคุณภาพ
โครงการพระบัณฑิตอาสา วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล จัดขึ้นตามความประสงค์ของคุณน้ำทอง คุณวิศาล หรือ “ย่าน้ำทอง” ผู้สร้าง “น้ำทองสิกขาลัย” ที่พำนักของพระนักศึกษาวิทยาลัยศาสนศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ให้จบออกไปช่วยเหลือสังคม
ปัจจุบันมีพระบัณฑิตอาสาของโครงการฯ ไปทำหน้าที่พระนักพัฒนา ทำงานจิตอาสา จัดอบรมและเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งในส่วนกลาง กรุงเทพฯ – นครปฐม และส่วนภูมิภาค กระจายตามจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือ อาทิ พิษณุโลก เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ และน่าน
“ธรรมะทูเดย์” เป็นหนึ่งในโครงการพระบัณฑิตอาสา วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้เป็นคนดีมีคุณธรรมเป็นพื้นฐานของชีวิตโดยใช้ศาสนาเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาทางจริยธรรม ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพของความเป็นมนุษย์ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
พระสุมินทร์ คัมภีรปัญโญ (อินตะจักร) หรือ “หลวงพี่มิน” หัวหน้าพระวิทยากรธรรมะทูเดย์ บัณฑิตรุ่นที่ 16 ของวิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล เล่าถึงที่มาของชื่อกลุ่ม “ธรรมะทูเดย์” ว่า เป็นธรรมะที่อยู่กับปัจจุบัน ไม่ยึดติดกับอดีตที่ผ่านมา และอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น จัดค่ายอบรมที่สอดแทรกธรรมะผ่านกิจกรรม โดยเริ่มต้นที่กลุ่มเด็กและเยาวชนซึ่งอยู่ในจุดเปลี่ยนของชีวิต
หลวงพี่มินมองว่า เด็กและเยาวชนเป็นวัยเปลี่ยนผ่านสู่วัยผู้ใหญ่ หากได้รับการปลูกฝังที่ดี จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งการที่จะสามารถเข้าไปถึงจิตใจของเด็กได้นั้น ต้องเริ่มจากการเป็นเพื่อนที่จริงใจ และให้โอกาส ให้เขารู้สึกไว้ใจและปลอดภัย จนยอมเปิดใจในที่สุด
“ค่ายธรรมะทูเดย์ไม่ใช่ค่ายทหารที่เน้นกฎระเบียบ แต่ทำอย่างไรให้เด็กที่มาเข้าค่ายแล้วรู้สึกมีความสุข ยิ่งเขาเข้าถึงสุข ก็ยิ่งใกล้ถึงธรรม โดยเด็กๆ จะได้มีความสุขจากการเรียนและเล่นควบคู่กันไป เสริมท้ายด้วยธรรมะที่จะทำให้เขามีจิตใจที่สงบ”
“ใน 100 คน ถ้ามีสัก 1 คน ในขณะที่คิดจะฆ่าตัวตาย แล้วได้นึกถึงคำสอนในวันที่เขาเคยไปเข้าค่ายธรรมะทูเดย์ แล้วได้กลับใจเปลี่ยนตัวเองไม่ฆ่าตัวตาย แค่นี้ก็ถือเป็นความสำเร็จของโครงการแล้ว” หลวงพี่มินกล่าว
จากผลงานของธรรมะทูเดย์ที่ผ่านมา 4 ปีนับจากวันที่มีพระบัณฑิต 3 รูปรวมกลุ่มกันจัดตั้งโครงการฯ จนปัจจุบันมีพระร่วมเครือข่ายกว่า 20 รูป ได้ขยายผลจัดอบรมคุณธรรม จริยธรรมให้กับกลุ่มอื่นๆ ที่นอกเหนือจากเด็กและเยาวชน จนมหาวิทยาลัยมหิดลมอบรางวัล “โครงการ 50 ความดี 50 ปี วันพระราชทานนาม 131 ปี มหาวิทยาลัยมหิดล” จากความตั้งใจให้ความดีเกิดขึ้นกับสังคม โดยเชื่อว่าในวันหนึ่งสิ่งที่ทำจะส่งผลงอกงาม
“เราปลูกต้นไม้ เราไม่ได้หวังว่าต้นไม้จะโตวันนี้หรือพรุ่งนี้ เรายังหมั่นใส่ปุ๋ย พรวนดิน รดน้ำไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งต้นไม้จะหยั่งรากลึกลงไปในดิน แล้วเติบโตเป็นต้นไม้ที่สมบูรณ์ออกดอกออกผลให้คนได้ชื่นชม” หลวงพี่มินกล่าวทิ้งท้าย
***สัมภาษณ์และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม
นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ)
งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป
สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
โทร.0-2849-6210
You must be logged in to post a comment Login