มาล้างใจกันดีกว่า

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 26 ธ.ค. 62)

เรื่องสนุกๆที่เคยมีทุกปี แต่งดเว้นไป 6 ปี คือเรื่องการตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรี คราวนี้ค่อนข้างกระทุ้งอารมณ์ เพราะใช้คำว่า “รัฐเชียงกง” เอาของเก่ามารีไซเคิล เอามาเป็นรัฐบาลใหม่ เหมือนมือสอง เพราะเอาคนเก่าๆจากรัฐบาลยุคคุณทักษิณ ชินวัตร ยุคคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นรัฐมนตรี เรียกว่านักข่าวที่ตั้งฉายาช่างคิดเหลือเกิน คิดอะไรได้แปลกๆลึกๆเจ็บๆคันๆได้เหมือนกัน เล่นเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อารมณ์ไม่จอย เพราะรัฐบาลชุดนี้ถูกมองว่าเป็นรัฐบาลมือสอง เป็นสินค้ามือสอง ไม่ใช่มือใหม่

ปีใหม่คนก็บอกว่าอยากจะได้ของใหม่ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ได้อันดับ 2 ไม่รู้ว่าไปทำโพลอย่างไรถึงได้ออกมาว่าคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้อันดับ 1 ที่คนอยากไปเที่ยวปีใหม่ด้วยมากที่สุด

โลกเราเปลี่ยนไปมากแล้ว ถ้าคนรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ไม่ขัดแย้งกัน ประเทศชาติก็น่าจะไปด้วยดี แต่คนเก่าอยากจะอยู่แบบเก่า มีอำนาจแบบเก่า รับผลประโยชน์แบบเก่า เรียกว่าอำนาจ ตำแหน่ง ผลประโยชน์ของคนรุ่นเก่าก็จะผูกขาดกันไว้ สืบทอดกันไว้ แต่คนรุ่นใหม่ก็อยากจะช่วงชิง แทนที่จะจับไม้จับมือปรองดองกัน มาร่วมกันทั้งใหม่ทั้งเก่าเพื่อสร้างชาติให้เดินหน้า เจริญอย่างถาวรต่อไป กลับมาช่วงชิง ผูกติด ซึ่งมันไปด้วยกันยาก

ถ้าคนเก่าแบ่งปันตำแหน่ง ผลประโยชน์ อำนาจมาให้คนรุ่นใหม่บ้าง คนใหม่ก็อย่าไปช่วงชิงชนิดที่เปลืองตัว เจ็บตัว เพราะจะถูกเขาดิสเครดิต สกัดเอาบ้าง ทั้งๆที่ตัวเองก็อาจจะแล่นแรงไปนิดหนึ่ง

ส่วนฉายาของนายกรัฐมนตรีที่ว่า “อิเหนาเมาหมัด” นั้น เพราะเคยว่าเขาไว้อย่างนั้นอย่างนี้ ประชาธิปไตยแบบประชานิยมไม่ดี แต่พอตัวเองก็มีประชารัฐ ประชาอะไรต่างๆ นี่เป็นคำอธิบายของคนที่ให้ฉายา

ฉายาที่น่าตกใจสำหรับอาจารย์วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี คือ “ศรีธนญชัยรอดช่อง” คำว่าศรีธนญชัยรอดช่องคือพยายามเล็ดลอด เอาตัวรอด หรือช่วยใครให้รอดแบบแปลกๆ ผิดปกติอะไรทำนองนี้ ส่วนฉายาของรองนายกรัฐมนตรีสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เขาบอกว่า “ชายน้อยประชารัฐ” ดีไม่บอกว่าพลายน้อย พลายชุมพลชมตลาด ก็วางแผนการตลาด เป็นชายน้อยดีกว่าชายสี่บะหมี่เกี๊ยวอะไรทำนองนั้นหรือเปล่า

เรื่องที่เกี่ยวกับการเมือง พรรคการเมือง เห็นจะไม่มีอะไรเกินกว่าการกินเลี้ยงของรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่ง เขาบอกว่าไม่เคยมีการกินเลี้ยงครั้งไหนใหญ่กว่าครั้งนี้ คนก็วิพากษ์วิจารณ์กัน ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาใช้งบประมาณอะไร งบของกระทรวงหรืองบส่วนตัวของ ส.ส. ข้าราชการ แต่ถ้าเอางบแผ่นดินไปกินเลี้ยงกันในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ก็ไม่ค่อยจะน่าอนุโมทนาสาธุเท่าไร

ขณะนี้จะจ่าย จะใช้อะไร ต้องเกรงใจประชาชนเจ้าของประเทศที่ต้องจ่ายภาษีกันบ้าง อย่าไปอิ่มปาก อิ่มท้อง โดยอีกฝ่ายหนึ่งชักเริ่มจะหิวแล้ว เดี๋ยวจะมีพวกโมโหหิวเพราะไม่ได้ไปนั่งโต๊ะกินกับเขาด้วย แต่อย่าไปคิดอะไรมากเลย ปีหนึ่งเขาคงจัดครั้งเดียว คนไทยอะลุ้มอล่วยกันดีกว่า อย่าไปตั้งแง่ตั้งงอนว่าเขากินกันแต่ฉันกำลังอด กำลังปากแห้ง ท้องหิว เศรษฐกิจกำลังขาลงหรือขาขึ้นอะไรก็แล้วแต่

อย่าถึงขั้นที่เรียกว่าเกิดอารมณ์เบี้ยว อารมณ์บูด อย่าให้อารมณ์บูดตอนเช้า อารมณ์เน่าตอนเพล อารมณ์เหม็นตอนค่ำ ทั้งๆที่เขากินกันเดี๋ยวก็เก็บหมดแล้ว เก็บโต๊ะเรียบร้อย จานล้างหมดแล้ว เรามาล้างใจ อย่าไปคิดขุ่นเคืองเขาดีกว่า

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login