วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ ม.มหิดล จัดกิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2563 ภายใต้แนวคิด “Eco Park Eco Kids”

On January 6, 2020

“ไม่มีพืชใดไม่เป็นยา” จากคำกล่าวของหมอชีวกโกมารภัจจ์ แพทย์ประจำพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ว่า “พืชทุกชนิดมีสรรพคุณเป็นยา ไม่เว้นแม้แต่หญ้าสักต้นเดียว” เป็นที่มาของการศึกษาวิชาแพทย์แผนไทยตราบจนถึงปัจจุบัน

เพื่อให้ประชาชนทั่วไปรวมทั้งเยาวชนได้เรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพร ตลอดจนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์เพื่อการพัฒนาทางสุขภาวะและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหิดลจึงได้จัดตั้งอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติขึ้นเพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรไทยและธรรมชาติวิทยาแนวใหม่ ในพื้นที่ 140 ไร่ ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ที่รวบรวมพันธุ์สมุนไพรที่ปรากฏในตำรายา พร้อมชื่อและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่อ้างอิงได้ถึง 892 ชนิด จัดสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด “การออกแบบเพื่อมวลชน” (Universal Design) เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้สูงอายุและผู้พิการด้วย โดยมีวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสมุนไพรและธรรมชาติวิทยาระดับโลก

S__28565628

ผศ.ดร.ภก.ภานุพงษ์ พงษ์ชีวิน หรือ “อาจารย์ป๋อม” หัวหน้าภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (Siree Park) เดิมเป็นแหล่งเรียนรู้สมุนไพรไทยสำหรับนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม “สวนสมุนไพรสิรีรุกขชาติ” ต่อมามหาวิทยาลัยมหิดลได้ยกระดับโดยการปรับภูมิทัศน์และขยายพื้นที่ให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ และเป็นศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรไทยระดับประเทศและระดับนานาชาติ รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางด้านพฤกษศาสตร์ และการพัฒนาตามแผนแม่บทแห่งชาติที่จะขับเคลื่อนจังหวัดนครปฐมให้เป็น “เมืองสมุนไพร” (Herbal City)

พันธกิจของ Siree Park คือการให้บริการผ่านกระบวนการอนุรักษ์ (Conservation) ศึกษาเรียนรู้ (Education) เป็นแหล่งอ้างอิง (Reference) และถ่ายทอดงานวิจัยสู่การประยุกต์ใช้ (Translational Research to Application) เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพของคนไทย โดยรวบรวมข้อมูลงานวิจัยพืชสมุนไพรที่มีการพิสูจน์สรรพคุณและประสิทธิผลในการรักษาตามภูมิปัญญาที่มีมาแต่เก่าก่อน เพื่อพัฒนาต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์ยาใหม่ที่มีการทดสอบกลไกการออกฤทธิ์ในร่างกาย และความเป็นพิษของสมุนไพรต่างๆ เพื่อทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจที่จะใช้ยาสมุนไพรได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น

S__28565630

Siree Park เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมวันพุธ-อาทิตย์ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี นอกจากจะได้ชมนิทรรศการถาวร “สมุนไพรภูมิปัญญาไทยสู่สากล” เพื่อเรียนรู้หลักการของการแพทย์และเภสัชกรรมแผนไทย ยังมีการจัดอบรมวิชาการและเชิงปฏิบัติเกี่ยวกับสมุนไพร การขยายพันธุ์ การทำผลิตภัณฑ์และอาหารเพื่อสุขภาพจากสมุนไพรโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ สามารถเข้าชมศึกษาสมุนไพรไทยและใกล้ชิดธรรมชาติ ดูนกที่มีมากมายหลายชนิดได้ภายในอุทยาน ทั้งการเดินชม ปั่นจักรยาน และนั่งรถรางพร้อมฟังบรรยายสมุนไพรที่ได้ทั้งสาระและความเพลิดเพลินไปพร้อมๆกัน

“เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ Siree Park ได้จัดกิจกรรมสำหรับเยาวชนติดต่อกันมาแล้ว 2 ปี โดยปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 11 มกราคม 2563 ภายใต้แนวคิด “Eco Park Eco Kids” ที่เน้นเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า กิจกรรมภายในงานนอกจากประกอบด้วยการทำยาดมสมุนไพรสูตรเฉพาะหนูทำเอง การชิมน้ำสมุนไพร และนั่งรถรางชมสวนเหมือนปีที่ผ่านๆมา ในปีนี้เรายังมีกิจกรรมใหม่ๆเพื่อปลูกฝังให้เด็กๆเรียนรู้วิธีรักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์โลก ได้แก่ การทำถุงผ้ารักษ์โลก กิจกรรมเรียนรู้วิธีการแยกขยะ การละเล่นจากวัสดุธรรมชาติ และดูนกที่อยู่ภายในอุทยานอีกด้วย” อาจารย์ป๋อมกล่าว

S__28565632

นอกจากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชพฤกษศาสตร์แล้ว อาจารย์ป๋อมยังมีความสนใจในเรื่องการดูนก โดยได้มีการศึกษาอย่างจริงจังตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจนกลายเป็นงานอดิเรกถึงปัจจุบัน ซึ่งงานวันเด็กที่จะจัดขึ้นที่ Siree Park ในปีนี้จะมาเป็นวิทยากรคอยแนะนำน้องๆที่มาร่วมงานให้รู้จักการดูนกด้วย โดยอาจารย์ป๋อมได้กล่าวถึงประโยชน์จากการทำกิจกรรมดูนกว่า นอกจากเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติแล้ว ยังฝึกให้เด็กๆมีสมาธิและรู้จักการอดทนรอคอย ซึ่งเป็นทักษะที่เด็กยุคใหม่ต้องมีเพื่อพร้อมรับกับอนาคต นอกจากนี้ในการดูนกยังได้ฝึกการใช้ประสาทสัมผัส การสังเกต และจดจำลักษณะของนกที่ได้เห็นมาค้นคว้าเปรียบเทียบกับตำราทางวิชาการจนเกิดการเรียนรู้อีกด้วย

นอกจากนี้กิจกรรมวันเด็กที่ Siree Park จะทำให้นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลได้ฝึกทักษะความรู้ที่ไม่ได้มีอยู่เฉพาะในตำราเรียนเท่านั้น จากการได้ทำงานอาสาสมัครเป็นพี่เลี้ยงให้น้องๆที่เข้ามาร่วมงานวันเด็ก ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกปี จากปีแรก 1,000 กว่าคน ปีต่อมา 1,500 คน คาดว่าปีนี้คงได้รับความสนใจไม่แพ้กัน โดยงานอาสาสมัครนอกจากเปิดรับนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลแล้ว ยังเปิดให้ผู้ที่สนใจทั่วไปได้มาสมัครเข้าร่วมทำงานจิตอาสาเพื่อร่วมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กๆ

อาจารย์ป๋อมกล่าวทิ้งท้ายว่า ในอนาคตมหาวิทยาลัยมหิดลมีแผนจะพัฒนา Siree Park ให้เป็น “Botanical Playground” เพื่อเป็นพื้นที่การเรียนรู้ทางด้านพฤกษศาสตร์สำหรับเยาวชนอีกด้วย ผู้สนใจติดตามรายละเอียดได้ที่ FB: Sireepark

 

*** สัมภาษณ์และเขียนข่าวโดยฐิติรัตน์ เดชพรหม

นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ)

งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

โทร.0-2849-6210


You must be logged in to post a comment Login