วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ชายแปลกหน้าบนถนนสายเปลี่ยว

On January 10, 2020

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่  10-17 มกราคม 2563)

คู่รักนักท่องเที่ยวแนวผจญภัยถูกชายแปลกหน้าทำร้าย ฝ่ายหญิงโชคดีสามารถหนีรอดมาได้ ตำรวจสืบสวนจนได้ตัวคนร้าย แต่ไม่มีใครทราบชะตากรรมฝ่ายชาย ขณะที่พยานบางคนอ้างว่าพบเห็นฝ่ายชายหลังจากเกิดเหตุ 1 สัปดาห์

หลังจากปีเตอร์ ฟอลโคนิโอ เรียนจบอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษเมื่อปี 2000 เขาก็ชวนโจแอนน์ ลีส์ แฟนสาว ไปท่องโลกแบบสะพายเป้ ออกตระเวนท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆ เช่น เนปาล กัมพูชา ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์

วันที่ 16 มกราคม 2001 ปีเตอร์และโจแอนน์เดินทางมายังเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ทั้งคู่วางแผนเดินทางด้วยรถยนต์ท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ เช่น แคนเบอร์รา เมลเบิร์น แอดิเลด ดาร์วิน และบริสเบน โดยเริ่มออกเดินทางเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน

เวลา 19.30 น. วันที่ 14 กรกฎาคม ปีเตอร์ขับรถโฟล์คตู้สีส้มมาตามถนนสจวร์ตไฮเวย์ มุ่งหน้าไปยังเดเวลส์มาร์เบิลส์ ปีเตอร์และโจแอนน์สังเกตว่ามีรถบรรทุกเล็กขับเคลื่อน 4 ล้อ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาวกระบะสีเขียวคันหนึ่ง ขับตามมาตลอดทางตั้งแต่ตอนที่แวะจอดเติมน้ำมันในเมืองบาร์โรว์ครีก

หวังดีประสงค์ร้าย

ปกติแล้วจะไม่ค่อยพบรถยนต์คันอื่นบนถนนสายเปลี่ยวแห่งนี้ จึงออกจะดูแปลกสักหน่อยที่มีรถคันอื่นขับตามมาตลอดทาง อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์และโจแอนน์ไม่คิดว่าถูกติดตามโดยตั้งใจ ปีเตอร์ตัดสินใจลดความเร็วเพื่อให้รถบรรทุกเล็กขับแซงหน้าไป

แต่แทนที่รถบรรทุกเล็กจะขับแซง คนขับกลับนำรถเข้าเทียบด้านข้าง เขาเป็นชายวัยกลางคนไว้หนวดยาวจนเลยมุมปากแบบชาวเม็กซิกัน สวมหมวกเบสบอลสีดำ สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวทับเสื้อคอกลม เบาะนั่งข้างคนขับมีสุนัขหนึ่งตัว

ชายแปลกหน้าโบกไม้โบกมือเหมือนจะบอกอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าวิตกกังวล ปีเตอร์สงสัยว่าชายแปลกหน้าพยายามจะบอกอะไรจึงนำรถจอดข้างทาง หลังจากรถทั้งสองคันจอดสนิท ปีเตอร์เดินไปหาชายแปลกหน้า เขาบอกกับปีเตอร์ว่าเห็นประกายไฟที่ห้องเครื่องยนต์ท้ายรถ

โจแอนน์ขยับมานั่งที่เบาะคนขับเผื่อว่าปีเตอร์จะให้ลองเร่งเครื่องยนต์ ขณะที่ปีเตอร์และชายแปลกหน้าเดินไปที่ท้ายรถ ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น โจแอนน์ลงจากรถไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ชายแปลกหน้าตรงเข้ามาประชิดตัวเสียก่อนพร้อมกับใช้ปืนขู่ไม่ให้ขัดขืน

เกือบไม่รอด

โจแอนน์ถูกจับมัดมือไพล่หลังด้วยสายไฟที่คนร้ายเตรียมมา คนร้ายพยายามมัดเท้าโจแอนน์แต่ไม่สำเร็จเพราะเธอดิ้นจนสุดฤทธิ์ โจแอนน์ถูกโยนใส่ท้ายรถบรรทุกเล็กของคนร้าย เธอไม่รู้ว่าปีเตอร์เป็นตายร้ายดีอย่างไรและคาดว่าคนร้ายจะต้องข่มขืนเธอแน่ๆ

อาศัยจังหวะที่คนร้ายเผลอ โจแอนน์กระโดดลงจากรถและรีบวิ่งไปซ่อนตัวในป่าข้างทาง คนร้ายนำสุนัขออกตามหา แต่โจแอนน์พยายามทำตัวนิ่งๆไม่เคลื่อนไหว คนร้ายผ่านจุดที่โจแอนน์ซ่อนตัวหลายครั้ง แต่เขามองไม่เห็นโจแอนน์ ในที่สุดคนร้ายก็เลิกค้นหาและขับรถหนีออกจากที่เกิดเหตุ

อย่างไรก็ตาม โจแอนน์เกรงว่าคนร้ายอาจยังวนเวียนอยู่บริเวณนั้น เธอจึงซ่อนตัวอยู่ที่เดิม จนกระทั่งเวลาผ่านไป 5 ชั่วโมง โจแอนน์ออกมาจากที่ซ่อน เดินไปตามถนนจนกระทั่งมีรถบรรทุกคันหนึ่งผ่านมาให้ความช่วยเหลือ นำตัวเธอมายังเมืองบาร์โรว์ครีก

บาร์โรว์ครีกเป็นเพียงเมืองเล็กๆ ตำรวจไม่เคยรับมือกับอาชญากรรมร้ายแรงแบบนี้จึงต้องขอความช่วยเหลือจากสถานีตำรวจอลิซสปริงส์ ซึ่งเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุในเวลา 01.30 น. และทำการตรวจค้นพื้นที่หาปีเตอร์และคนร้ายจนถึงรุ่งเช้า

ไร้วี่แวว

เวลา 07.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม ตำรวจพบกองเลือด จากการชันสูตรพบว่าเป็นเลือดของปีเตอร์ผสมกับเลือดสัตว์ คาดว่าคนร้ายใช้เลือดสัตว์เพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย ทำให้ผู้สะกดรอยเกิดความไขว้เขว ตำรวจยังพบรถโฟล์คตู้ถูกซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ข้างทาง แต่ไม่พบตัวปีเตอร์

ตำรวจตั้งด่านตรวจค้นรถยนต์ทุกคันบนถนนสจวร์ตไฮเวย์ จ้างชนพื้นเมืองเผ่าอะบอริจินสะกดรอยตามหาคนร้ายแต่ก็ไม่พบเบาะแสใดๆ ตำรวจพยายามสืบจากรูปพรรณของรถบรรทุกเล็กที่คนร้ายใช้ พบว่ามีผู้จดทะเบียนรถชนิดนี้ 36 ราย

ตำรวจนำภาพถ่ายเจ้าของรถให้โจแอนน์ดู โจแอนน์ชี้ไปที่แบรดลีย์ เมอร์ด็อก บอกว่าคล้ายกับคนร้ายที่ก่อเหตุ แบรดลีย์ถูกรวบตัว เขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตำรวจยังไม่พบร่างปีเตอร์ จึงแถลงข่าวขอให้ผู้ที่รู้เบาะแสช่วยแจ้งข่าวให้กับตำรวจ

เมริสซา เคนเดล และรอบบี้ บราวน์ แจ้งกับตำรวจว่าพวกเขาเห็นปีเตอร์อยู่กับชายคนหนึ่งและหญิงคนหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันในเมืองโบรเคที่พวกเขาทำงานอยู่เมื่อ 1 สัปดาห์หลังจากเกิดเหตุ ซึ่งถ้าหากเป็นความจริงก็แสดงว่าปีเตอร์ยังมีชีวิตอยู่และปลอดภัยดี

คดีมีปัญหา

ตำรวจพบดีเอ็นเอของแบรดเลย์บนสายไฟที่ใช้มัดมือโจแอนน์ แต่ทนายของแบรดลีย์โต้แย้งว่าดีเอ็นเอของแบรดลีย์อาจปนเปื้อนโดยบังเอิญตอนที่แบรดลีย์แวะที่ร้านอาหารจานด่วนเรดรูสเตอร์ก่อนถูกตั้งข้อกล่าวหา หรือไม่ก็ถูกใครบางคนสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา ขณะที่โจแอนน์ยอมรับว่าเธอและปีเตอร์ได้แวะกินอาหารที่ร้านเรดรูสเตอร์เช่นเดียวกัน

แม้ว่าตำรวจจะไม่มีหลักฐานอื่นใดนอกเหนือจากนี้ แบรดลีย์ก็ถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดตามข้อกล่าวหา ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่ผู้ที่ติดตามคดีบางคนแย้งว่ามีความผิดพลาดในการพิจารณาคดี หลักฐานมัดตัวจำเลยมีน้อยเกินไป และไม่มีการพิจารณาคำให้การพยาน 2 คนที่อ้างว่าเห็นปีเตอร์หลังจากเกิดเหตุแล้ว 1 สัปดาห์ และที่สำคัญคือยังไม่พบร่างของปีเตอร์

บางคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการสมรู้ร่วมคิดใส่ร้ายแบรดลีย์เพื่อปิดบังความจริงบางอย่าง ปีเตอร์อาจพัวพันกับองค์กรค้ายาเสพติดและเขากำลังประสบปัญหาทางการเงินจึงสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อหลบหนี แต่ทั้งหมดเป็นเพียงแค่การคาดเดาที่ขาดหลักฐานเช่นเดียวกัน การหายตัวไปของปีเตอร์จึงยังเป็นปริศนาไปจนกว่าจะมีคนพบร่างปีเตอร์ไม่ว่าเป็นหรือตาย

 

1

1.โจแอนน์ ลีส์ และปีเตอร์ ฟอลโคนิโอ

2

2.โจแอนน์และปีเตอร์ในรถโฟล์คตู้

3

3.รถโฟล์คตู้พาหนะของปีเตอร์และโจแอนน์

4

4.บาดแผลบนข้อศอกโจแอนน์

5

5.ตำรวจตั้งด่านตรวจค้นรถทุกคัน

6

6.ภาพสเกตช์คนร้าย

7

7.คราบเลือดพบที่ริมถนน

8

8.แบรดลีย์ เมอร์ด็อก

9

9.แบรดลีย์และรถบรรทุกเล็ก ภาพจากกล้องวงจรปิดในปั๊มน้ำมันใกล้ที่เกิดเหตุ

10

10.สายไฟที่คนร้ายใช้มัดมือโจแอนน์


You must be logged in to post a comment Login