วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

PSTC จรดปากกาเซ็น MOU ศึกษา “โครงการเชื่อมท่อน้ำมันไทย-สปป.ลาว”

On February 7, 2020

นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC เปิดเผยว่า บริษัท ไทยไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) ในฐานะบริษัทร่วมค้าของ PSTC ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือในโครงการศึกษาจุดเชื่อมต่อท่อส่งน้ำมันไทย-สปป.ลาว ร่วมกับบริษัท ไชน่า ปิโตรเลียม ไปป์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (CPP) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมปิโตรเลียมและการก่อสร้างของประเทศจีน โดยมูลค่าโครงการดังกล่าวประมาณ 6,500ล้านบาท อย่างไรก็ตาม PSTC คาดหวังว่าจะได้รับอัตราผลตอบแทนจากการร่วมลงทุนประมาณ 9%

“การเข้าร่วมศึกษาจุดเชื่อมต่อท่อส่งน้ำมันไทย-สปป.ลาวในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะจะช่วยสร้างรายได้ประจำที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ทำให้บริษัทสามารถต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่รวมถึงความร่วมมือในโครงการต่างๆได้อีก และผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยบริษัทคาดว่าจะทราบผลการศึกษาถึงความคุ้มค่าในการลงทุนภายในระยะเวลา 12 เดือน ซึ่งประเมินจากปริมาณน้ำมันที่ใช้อยู่ใน สปป.ลาวปัจจุบันและเติบโตขึ้นในอนาคตจากการขยายเข้ามาลงทุนในประเทศลาวจากทางฝั่งจีน เชื่อว่าจะคุ้มค่าต่อการลงทุน”

นายพระนายกล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 บริษัทได้รับเกียรติจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์คลังน้ำมันแห่งใหม่ของ TPN ที่อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของจุดเชื่อมต่อในโครงการท่อส่งน้ำมันไทย -สปป.ลาว โดยเส้นทางจะเริ่มต้นเชื่อมต่อจากท่อส่งน้ำมันของ Thappline ที่จังหวัดสระบุรี ไปจนถึงคลังน้ำมันแห่งใหม่ที่ TPN กำลังดำเนินการรวม 342 กิโลเมตร มีเป้าหมายการขายน้ำมันให้กับ 20 จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2564

จากโครงการดังกล่าว คลังน้ำมันแห่งใหม่ของ TPN ในจังหวัดขอนแก่น อยู่ห่างจากเวียงจันทน์ เมืองหลวงของ สปป.ลาวเพียง 250 กิโลเมตร ปัจจุบันการขนส่งน้ำมันไปยัง สปป.ลาวยังอาศัยการขนส่งทางบก ดังนั้น เมื่อโครงการระบบขนส่งน้ำมันทางท่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือเสร็จสมบูรณ์ คลังน้ำมันที่จังหวัดขอนแก่นจะมีระยะทางใกล้ที่สุดในการขนส่งน้ำมันไปยัง สปป.ลาว TPN จึงมองเห็นโอกาสในการขยายโครงการระบบขนส่งน้ำมันทางท่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

รวมทั้งจะช่วยส่งเสริมแผนเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐบาล ซึ่งจะส่งเสริมการพัฒนาความร่วมมือระยะยาวในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ขณะเดียวกันยังสอดคล้องกับโครงการเส้นทางสายไหมของรัฐบาลจีนที่มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงทางด้านคมนาคม ด้านโลจิสติกส์ และความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน CPP จึงยินดีที่จะสนับสนุนและร่วมมือกับ TPN เพื่อร่วมดำเนินการศึกษาโครงการท่อส่งน้ำมันไทย-สปป.ลาว ซึ่งในอนาคตจะเป็นโอกาสในการศึกษาการขยายระบบขนส่งน้ำมันจาก สปป.ลาวไปยังจีนตอนใต้และภูมิภาคอื่นๆในบริเวณใกล้เคียง เพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อพลังงานและการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในการเป็นศูนย์กลางพลังงานในอินโดจีนอีกด้วย

 


You must be logged in to post a comment Login