กรมการปกครองเลือก อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ขับเคลื่อน 10 โครงการ ขยายผลต้นแบบงานปกครอง “ทุกข์น้อยลง สุขมากขึ้น”

• Tweet
• 

กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ขับเคลื่อน 10 โครงการ ตอกย้ำบทบาทหน้าที่ฝ่ายปกครองทุกมิติ ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ปักหมุดอ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ส่งสัญญาณ ๘๗๘อำเภอทั่วประเทศ ขยายผลต้นแบบร่วมใจดำเนินการ “ทุกข์น้อยลง สุขมากขึ้น”

นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยกล่าวว่าทิศทางการทำงานของกรมการปกครองในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ได้กำหนดเป็น 10 โครงการสำคัญ (10 Flagships for DOPA Excellence 2020) เพื่อเป็นแนวทางและเป้าหมายการทำงานของฝ่ายปกครอง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคโดยเราจะเน้นการขับเคลื่อนใน “ระดับอำเภอและหมู่บ้าน” เพื่อให้เกิดผลโดยตรงกับประชาชนในพื้นที่โดยรวบรวมภารกิจที่ฝ่ายปกครองมีอยู่มาดำเนินการให้เร็วขึ้น ทันใจขึ้น และตอบสนองนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐที่ต้องการเห็นประชาชนทั่วทั้งประเทศ จำนวน 67 ล้านคน “ทุกข์น้อยลง สุขมากขึ้น” โดยน้อมนำปณิธานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” มาปฏิบัติ

ทั้งนี้ 10 โครงการมีการดำเนินการที่ครอบคลุมภารกิจของฝ่ายปกครอง และสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติในทุกมิติ เสริมสร้าง“ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ประกอบด้วย๑.โครงการจิตอาสาพระราชทานกำหนดให้ทุกอำเภอ ทั้ง 878 อำเภอ มีแผนงานจิตอาสาอย่างน้อย 1 แผนงาน๒.การขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ๓.การปกป้องเทิดทูนสถาบันหลักของชาติผ่านกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างยั่งยืน ๔.งานสัญชาติและสถานะบุคคล๕.การเสริมสร้างหมู่บ้านเข้มแข็ง (แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง)๖.อำเภอคุณธรรม๗.อำเภอมั่นคง (เสริมสร้างความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงภายในทุกมิติ)๘.อำเภอสีขาวปลอดยาเสพติด๙.อำเภอสะดวก (ยกระดับการบริการประชาชน)๑๐.อำเภอดำรงธรรม (ยกระดับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ) โดยในแต่ละโครงการ ได้มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนให้กับส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อน ทั้ง 10 เรื่องนี้ ก็จะเป็นกรอบทิศทางการทำงานในปีนี้ของกรมการปกครอง

“เลือกพื้นที่ “อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร” เป็นจุดเริ่มต้นจัดกิจกรรมวัน Kick-off ขับเคลื่อนโครงการสำคัญของกรมการปกครอง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ถือเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ได้ทรงพระราชทานพระนาม “วชิรบารมี” ตั้งเป็นชื่ออำเภอ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2540”อธิบดีกล่าวและว่า

“ทั้งเป็นการแสดงถึง“ความตั้งใจและความมุ่งมั่นร่วมกัน” ของฝ่ายปกครองทุกคน ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนงานเพื่อพี่น้องประชาชนโดยพื้นที่ อ.วชิรบารมีเป็น 1 ใน 12 อำเภอที่ตั้งชื่อตามพระนามพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นกรณีตัวอย่างในการดำเนินโครงการปกป้องเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ และโครงการจิตอาสาพระราชทานสืบเนื่องจาก พื้นที่นี้มีคลองวังพะยอม เป็นแหล่งน้ำสำคัญของอำเภอวชิรบารมี ที่รับน้ำมาจากจังหวัดกำแพงเพชร มีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลวังโมกข์ จำนวน 6 หมู่บ้าน ประมาณ 1,500 ครัวเรือน ใช้เป็นแหล่งน้ำทางการเกษตรทางกรมการปกครอง ร่วมกับจังหวัดพิจิตรจึงจัดให้มีกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาลำน้ำ ลำคลอง เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ บริเวณคลองวังพะยอมเพื่อเตรียมแหล่งน้ำสำหรับช่วยเหลือบรรเทาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค ในช่วงฤดูแล้ง และพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อไว้ใช้สำหรับกักเก็บในช่วงฤดูฝนเป็นต้น”

“กรมการปกครอง มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการสำคัญของกรมการปกครอง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 (10 Flagships for DOPA Excellence 2020) จะทำให้ประชาชน “ทุกข์น้อยลง สุขมากขึ้น” มีความเข้มแข็งในพื้นที่ด้วยตนเอง ดังเช่น หมู่บ้านทับเกวียนทอง ต.บึงบัว อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร เขามีความเข้มแข็ง ถึงเกิดภาพอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเราอยากเห็น 7,๘๐๐ หมู่บ้านมีหมู่บ้านอย่างนี้ มองภาพรวมประเทศชาติเราจะมีความเจริญ มีความสุขขนาดไหน เราต้องเริ่มพื้นฐานนี้ก่อน พื้นฐานเริ่มจากกรรมการหมู่บ้านเข้มแข็ง ทำงานร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับทุกฝ่าย มันก็จะเกิดอย่างนี้ ดังนั้นที่บอกว่ายาเสพติดในพื้นที่ ถ้ากรรมการหมู่บ้านดูแลปัญหายาเสพติดได้ดี ประกาศตัวว่าเป็นหมู่บ้านสีขาว หมู่บ้านปลอดยาเสพติด ทุกเรื่องก็จะตามมา เพราะฉะนั้นเราพยายายามเสริมพื้นฐานให้ได้ กรรมการหมู่บ้านมีมาตั้งแต่พรบ.ปกครองท้องที่ 2457 ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทำไว้ เราก็ต้องสร้างพื้นฐานให้เข้มแข็ง นี่คือหน้าที่ของนายอำเภอที่จะต้องไปจัดระบบ ทำความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในพื้นที่ได้ต่อไป”นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง

You must be logged in to post a comment Login