- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
ทุนทางใจมีไว้พัฒนาจิตวิญญาณ

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 14-21 กุมภาพันธ์ 2563)
ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะออกเดินทาง สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องมีคือเงิน แต่ถ้ามีเงินเต็มกระเป๋า หากไกด์ไม่ให้แวะลงซื้อของ เงินที่พกมาเต็มกระเป๋าก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเจ้าของเงินไม่ได้ใช้ ทริปนั้นคงขาดความสุขจากการซื้อของให้คนที่คิดถึง เชื่อได้เลยว่านักท่องเที่ยวโดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเงินคงไม่พอใจแน่นอน
ความรู้สึกไม่พอใจเช่นนี้เกิดขึ้นเพราะในใจของมนุษย์ทุกคนมีคุณสมบัติบางอย่างติดตัวมาเพื่อให้มนุษย์ได้แสดงออก นั่นคือความรู้สึกอยากทำดีกับคนที่ตัวเองรักหรือเพื่อเอาใจใครบางคน การแสดงความรักความห่วงใยโดยการซื้อของไปฝากจึงเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ความรู้สึกดังกล่าวนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นทุนทางจิตใจหรือจิตสำนึกทางคุณธรรมที่พระเจ้ามอบให้เป็นคุณสมบัติสำหรับมนุษย์ที่พระองค์สร้างมา เพื่อให้มนุษย์ได้ใช้คุณสมบัตินี้ในการพัฒนาจิตวิญญาณ แม้แต่เด็กไม่ถึงสิบขวบก็มีสำนึกนี้ ลองถามเด็กดูว่าการช่วยเหลือคนตาบอดดีไหม เด็กจะตอบว่าดี
พระเจ้ามีคุณสมบัติอันดีงามหลายประการที่พระองค์ทรงฝังไว้ในชีวิตของมนุษย์ และพระองค์ได้แสดงหลักฐานให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ เช่น
พระองค์บอกมนุษย์ว่าพระองค์เป็นผู้ประทานปัจจัยยังชีพ และพระองค์ได้แสดงหลักฐานให้เห็นจากการที่พระองค์ประทานอาหารทิพย์ในรูปของน้ำนมแม่แก่ทารกแรกคลอดและอากาศหายใจสำหรับมนุษย์ทุกคน ทั้งนี้ เพื่อให้มนุษย์แน่ใจว่าเมื่อพระองค์สร้างมนุษย์ขึ้นมาแล้ว พระองค์จะประทานปัจจัยยังชีพแก่ทุกชีวิต
พระองค์บอกว่าพระองค์เป็นผู้นำทางสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่พระองค์สร้างมา พระองค์จึงสอนให้ผึ้งทำรังอย่างที่เราเห็น และสอนวิถีการดำรงชีวิตให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายซึ่งมนุษย์ไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้อง นี่เป็นหลักฐานที่พระองค์ต้องการจะบอกมนุษย์ว่าพระองค์ได้สอนแนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่มนุษย์เช่นกันในรูปของศาสนา
พระเจ้าบอกว่าพระองค์เป็นผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตา พระองค์จึงให้ความคุ้มครองมนุษย์และสัตว์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์แม่ ไม่เพียงเท่านั้น พระองค์ยังสร้างสภาพแวดล้อมและชั้นบรรยากาศที่ปกป้องชีวิตบนโลกใบนี้ไว้ด้วย คุณสมบัติเหล่านี้พระองค์ได้มอบให้เป็นสำนึกของมนุษย์เพื่อนำไปเป็นต้นทุนในการพัฒนาจิตวิญญาณให้สูงส่ง
ถ้ามนุษย์มีความกรุณาปรานี มีความเมตตาเป็นทุนทางจิตวิญญาณแล้ว หากมนุษย์ไม่มีโอกาสหรือเวทีที่จะแสดงคุณสมบัติอันงดงามนี้ออกมา ใครจะรู้ว่ามนุษย์คนใดเป็นผู้มีความกรุณาปรานี มีความเมตตา ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงให้สังคมมนุษย์มีคนลำบากยากจน มีคนพิการ มีภัยพิบัติเกิดขึ้น เพื่อให้มนุษย์ได้นำความกรุณาปรานีและความเมตตาที่มีอยู่ในตัวออกมาใช้ โดยการหยิบยื่นความช่วยเหลือให้แก่คนเหล่านั้นเพื่อเป็นการพัฒนาจิตวิญญาณของตัวเองให้สูงส่งขึ้น
พระเจ้าแนะนำตนว่าเป็นผู้ให้อภัยและพร้อมที่จะให้อภัยความผิดถ้ามนุษย์สำนึกผิดและหันไปขออภัยโทษต่อพระองค์ และพระองค์ได้ประทานคุณสมบัตินี้ให้แก่มนุษย์ไว้เช่นกัน เช่น พ่อแม่พร้อมที่จะให้อภัยลูก
ถ้ามนุษย์ได้รับคุณสมบัติแห่งการให้อภัยเป็นต้นทุนทางจิตวิญญาณแล้วมนุษย์ไม่มีโอกาสได้ใช้ คุณสมบัติอันสูงส่งนี้จะมีประโยชน์อะไร และเราจะรู้ว่าใครมีคุณสมบัติของการให้อภัย ด้วยเหตุนี้ในบางครั้งพระเจ้าจึงได้ให้มีใครบางคนทำให้เราโกรธเพื่อเป็นโอกาสให้มนุษย์ได้นำเอาคุณสมบัติแห่งการให้อภัยมาใช้ และใครยิ่งใช้ยิ่งมีความสุข ยิ่งเป็นที่รักของผู้ได้รับการให้อภัย
การพัฒนาทางด้านจิตวิญญาณในอิสลามจึงไม่จำเป็นต้องปลีกตัวออกจากสังคมเพื่อปฏิบัติธรรมในป่า แต่สามารถทำได้โดยการเรียนรู้คุณสมบัติของพระเจ้าและนำคุณสมบัตินั้นมาปฏิบัติ ด้วยเหตุนี้ในอิสลามจึงมีคำสอนว่าเริ่มแรกของการเรียนศาสนาคือการรู้จักพระเจ้าว่าพระองค์มีคุณสมบัติอย่างไร ทั้งนี้ เพื่อนำเอาคุณสมบัติของพระองค์มาใช้ในการพัฒนาชีวิตทางด้านจิตวิญญาณ
You must be logged in to post a comment Login