- อย่าไปอินPosted 19 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
“บิ๊กป้อม” ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 จังหวัดชายแดนใต้ต่ออีก 3 เดือน
วันนี้ (17 ก.พ. 63) ที่ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ชั้น 3 สมช. ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 1/2563 โดยกล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ทุกอำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้นอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุคิริน อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2563 และสิ้นสุดในวันที่ 19 มิถุนายน 2563 เพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและระงับยับยั้งเหตุการณ์ที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ รวมทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มเติม อาทิ 1) การกำหนดแนวทางการลงทะเบียนการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ให้มีความเหมาะสม เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ 2) การพัฒนาระบบข้อมูลด้านการสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่ และ 3) การเร่งรัดบรรจุพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยให้ สมช. นำมติดังกล่าวเรียนนายกรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การขยายระยะเวลาในครั้งต่อไปขอให้ประเมินสถานการณ์ในพื้นที่อย่างละเอียดรอบคอบ และคำนึงถึงเหตุผลความจำเป็นที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถิติการก่อเหตุ จำนวนการสูญเสีย และแนวโน้มสถานการณ์ประกอบกัน โดยจะต้องประสานงานร่วมกับหน่วยงานด้านการข่าวอย่างใกล้ชิดด้วย สำหรับในพื้นที่ 4 อำเภอ จังหวัดสงขลา และพื้นที่ที่ปรับลดไปแล้ว ขอให้นำมาตรการทางกฎหมายที่มีอยู่มาบังคับใช้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นรูปธรรม รวมทั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดกำหนดตำแหน่งพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามข้อเสนอของตำรวจภูธรภาค 9 โดยเร็ว ภายหลังที่ สมช. นำเสนอนายกรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็งในการเฝ้าระวังและป้องกันมิให้มีการก่อเหตุในพื้นที่ รวมทั้งดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ควบคู่กับการส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป
You must be logged in to post a comment Login