วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

บีจีซี เผยแผนปี 63 เดินหน้าสู่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร

On March 10, 2020

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ บีจีซี (BGC) เปิดเผยว่า “จากศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทฯ ในหลากหลายด้าน ทำให้เราปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจใหม่จากเดิมที่เน้นบรรจุภัณฑ์แก้วเพียงอย่างเดียว ตอนนี้บริษัทฯ มุ่งสู่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร หรือ โทเทิล แพคเกจจิ้ง โซลูชั่น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเมื่อกลางปีที่แล้วบริษัทฯ ได้เริ่มนำบรรจุภัณฑ์อื่นๆ เข้าไปนำเสนอแก่ลูกค้านอกเหนือจากบรรจุภัณฑ์แก้วที่เราผลิต เช่น ฝาขวด กล่องกระดาษ ฉลากสินค้า เป็นต้น ซึ่งส่วนนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย รวมถึงช่วยในการบริหารจัดการต้นทุนให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะควบรวมกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้ว เพื่อทำให้เกิดความครบวงจรในการผลิตสินค้าและการบริการ สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

bg1

ปีนี้คาดว่ารายได้รวมบริษัทฯ จะเติบโต 5-10% หรือมูลค่ารวมประมาณ 13,000 ล้านบาท สัดส่วนการเติบโตมาจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ 95% และธุรกิจพลังงาน 5% โดยในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ บริษัทฯ      จะเน้นขยายตลาดในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม ซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ทำให้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีโอกาสเติบโต อีกทั้งในตลาดยุโรป สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ประเทศเหล่านี้มีความตื่นตัวในการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ทำให้ซัพพลายในประเทศไม่เพียงพอ ถือเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทฯ จะเข้าไปเจาะตลาดในกลุ่มนี้”

bg2

จากกลยุทธ์ดังกล่าว ทำให้ บีจีซี ให้ความสำคัญในเรื่องของการบริหารจัดการต้นทุน ควบคู่กับการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในทุกกระบวนการ รองรับ        การเติบโตของธุรกิจในอนาคต

“บริษัทฯ ได้เตรียมงบประมาณ 400 – 500 ล้านบาทในแต่ละปี  เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ และลดต้นทุนในการผลิต โดยการจัดหาเครื่องจักรที่มีคุณภาพสูง และปรับปรุงกระบวนการผลิตเดิม โดยการติดเซ็นเซอร์ในจุดต่างๆ เพื่อรายงานสถานภาพการผลิตแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาด   จากการผลิต รวมทั้งยังสามารถเก็บข้อมูลการผลิตในทุกจุดอย่างละเอียด เพื่อจัดทำฐานข้อมูลใน   การนำไปวิเคราะห์ด้วยระบบเอไอ (ปัญญาประดิษฐ์) และนำผลไปปรับปรุงระบบการผลิตต่อไป  ซึ่งเป็นการยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยในปัจจุบันบริษัทฯ ใช้กำลังการผลิตเกือบ 100% และได้มีการปรับปรุงระบบการผลิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น

DCIM100MEDIADJI_0006.JPG

นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจพลังงาน บริษัทฯ มีความสนใจลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนรูปแบบต่างๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานความร้อนใต้พิภพ เป็นต้น โดยตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 300 – 400 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตรวม 120 เมกะวัตต์ มาจากโครงการภายในประเทศ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนามที่บริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 2 โครงการ คือ โครงการ Xuan Tho 1 และโครงการ Xuan Tho 2 ซึ่งเป็นโครงการที่เริ่มมีการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วทั้ง 2 โครงการ”


You must be logged in to post a comment Login