- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 57 mins ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 22 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 6 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
จำนนต่อกรรม
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 11 มี.ค. 63)
มีข่าวพระสงฆ์และข้าราชการระดับอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ที่ทำอะไรต่อมิอะไรชนิดที่เรียกว่าไม่เกรงกลัวบาป ไม่เกรงกลัวกรรม ทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ในที่สุดศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางก็สั่งพิพากษาจำคุก 8 เดือน ปรับ 8,000 บาท อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา ที่หนุนจัดสรรงบโรงเรียนพระปริยัติธรรมโดยมิชอบ โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี ขณะที่ “พนม ศรศิลป์” อดีต ผอ.พศ. ถูกจำคุก 12 เดือนไม่รอลงอาญา
เชื่อว่าทั้งหลายทั้งปวงไม่พ้นคำว่ากฎแห่งกรรม กรรมก็ต้องสนองกรรม สนองที่การกระทำให้ได้รับผลเป็นทุกข์ในชีวิต ใครที่คิดจะทำเป็นรายต่อไปก็ควรจะยับยั้งชั่งใจ อย่าได้ย่ามใจ อย่าได้คิดว่าทำแล้วคงไม่มีอะไร คงไม่เป็นอะไร ถ้าคิดไปทำนองนั้นก็จะต้องเจออะไรต่อมิอะไรที่ไม่พึงปรารถนาต่อไป ก็หวังใจว่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนขี้โกง คนไม่ซื่อ คนไม่ตรง
แม้แต่ห่มผ้าเหลืองแล้วความโกงก็ยังสอดแทรกเข้าไปในผ้าเหลืองให้ไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่ จนเสียหน้าที่การงาน เสียความถูกต้องชอบธรรม โกงแม้กระทั่งอยู่ในร่มเงาของพระศาสนา ควรทำหน้าที่ให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง แต่กลับฉกฉวยเอาประโยชน์อย่างน่าเสียดาย ทำให้สิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่เป็นไปตามที่เราคิด เราคาด เราหวังกันไว้ ว่าศาสนาจะต้องรุ่งเรือง เพราะคนที่เป็นผู้อุปถัมภ์จะทำแต่เรื่องดีๆงามๆ สร้างคุณูปการให้กับศาสนา ไม่นึกเลยว่าเขาจะมาทำย่ำยีศาสนา จนในที่สุดต้องอยู่ในสภาพจำนนต่อกรรม
ถึงจะไม่จำนนต่อกฎหมายมาช่วงระยะหนึ่ง แต่แล้วก็ต้องมาจำนนต่อกรรมจนได้ ถ้าไม่เชื่อกรรม ไม่เชื่อความเพียร ความพยายามที่จะอยู่โดยไม่แตะต้องกับบาปกรรม ชีวิตก็ต้องตกต่ำ ติดคุกติดตะราง ตายก็จะตกนรกหมกไหม้ ชีวิตหนอชีวิต คิดแล้วก็น่าเห็นใจว่า อยู่ในร่มเงาพระศาสนา เอาแต่ผลประโยชน์เป็นหลัก ถ้าเอามรรคผลเป็นกฎเกณฑ์รับรองว่าเลือดตาไม่กระเด็น ความทุกข์ไม่เข้ามาย่ำยี กดขี่ข่มเหงได้ แต่เพราะเลือกเอาแต่ผลประโยชน์ที่เป็นเงินเป็นทอง ไม่ได้เป็นมรรคผลนิพพาน เลยต้องตกต่ำ ติดคุกติดตะราง ตกนรกหมกไหม้ไปเสียอย่างน่าเสียดาย
หวังว่ารายต่อไปที่ยังอยู่ในหน้าที่คงคิดเรื่องนี้ได้ดี เพราะเป็นอุทาหรณ์สอนใจ เป็นบทเรียนที่ควรจะได้สติ รู้บาปบุญคุณโทษบ้าง จะได้ไม่หลงระเริงกับความมั่งคั่ง มั่งมี แต่มันล้างผลาญอริยทรัพย์ของความเป็นมนุษย์ ศรัทธาไม่เหลือ ปัญญาไม่มี เหลือแต่ความงกกับความโลภ เลยพาให้ชีวิตต้องมัวหมอง ต้องตกต่ำ รับกรรมลำบากต่อไป ก็หวังใจว่าเรื่องเหล่านี้จะเป็นบทเรียนสอนจิตสอนใจให้คนทั้งหลายได้สำนึกในบาปบุญคุณโทษ และไม่หลงทำในสิ่งที่เป็นบาป เป็นกรรมต่อไป
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login