วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

“บิ๊กตู่” สั่งยกเลิกฟรีวีซ่า-VOA 18 ประเทศ สกัดโควิด-19 ระบาด

On March 11, 2020

วันนี้ (11 มี.ค.) เวลา 13.00 น. ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แถลงภายหลังการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า วันนี้ประชุมหลายหน่วยงานด้วยกัน ขอให้สื่อนำเสนอให้เห็นว่าทุกคนมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก เพราะนี่คือศูนย์ฯที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้จำเป็นต้องจัดประชุมโดยเร่งด่วนเพื่อรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันซึ่งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ข้อมูลการแพร่ระบาดในขณะนี้เราจึงจำเป็นต้องมาทบทวนและรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การหารือวันนี้ได้กำหนดมาตรการรองรับคนจากต่างประเทศที่จะเข้ามาจากประเทศที่เสี่ยงและมาตรการการดูแลคนไทยให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และอาจต้องดูแลเป็นพิเศษตามสิทธิการเป็นพลเมืองไทย สำหรับการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยทั้งทางตรงทางอ้อมจะต้องมีมาตรการควบคุม คัดกรอง ในส่วนพื้นที่ควบคุมแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ คนต่างประเทศที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง มีมาตรการเตรียมการที่สนามบิน โดยจัดโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ รองรับ เป็นการจัดไว้โดยเฉพาะ และขึ้นอยู่กับว่าผู้โดยสารที่มาจากประเทศนั้นๆจะอยู่กี่วัน ต้องยอมรับว่าถ้าอยู่ต้องกักตัวไว้ 14 วัน

นายกฯกล่าวว่า ส่วนมาตรการคัดกรอง จากการหารือภาคปฏิบัติทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ประจำสนามบิน ท่าเรือ ท่าอากาศยาน รวมทั้งช่องทางต่างๆที่กระทรวงกลาโหมดูแล ปัจจุบันมีการตรวจสอบเข้มข้น

“สำหรับคนที่จะเข้ามายังประเทศไทย ถ้าผ่านเข้ามาตามกติกาอาจจะมีความยุ่งยากมากขึ้นในเรื่องของ Visa on Arrival (VOA) และฟรีวีซ่า หรือ ผ.30 โดยจะมีมาตรการจากกระทรวงมหาดไทยออกมา โดยใช้กฎหมายคนเข้าเมือง”

นายกฯกล่าวอีกว่า การควบคุมตัวกลุ่มเสี่ยงตามความเข้มข้นในมาตรการรัฐบาล ในพื้นที่ภูมิลำเนาจะต้องเชื่อมโยงต่อมาจากสนามบิน และขนส่งไปถึงจังหวัดตามภูมิลำเนา โดยกระทรวงคมนาคมจัดยานพาหนะโดยกำหนดเป็นรถโค้ช จะไม่มีการปล่อยคนลงกลางทางเด็ดขาด จะส่งให้ถึงพื้นที่ต้นทางของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีการแต่งตั้งผู้ช่วยเจ้าพนักงานลงไปถึงผู้ว่าฯ สาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบตามครัวเรือน ทุกคนมีหน้าที่ตามกฎหมาย สำหรับคนที่มาจากต่างประเทศจะถือเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เพราะจะรู้ข้อมูลว่าใครเข้ามาด้วย สามารถติดตามเพื่อนที่มาด้วยกันว่าหนีไปไหน จะให้มีการรายงานเข้ามา ซึ่งกำลังเร่งรัดการใช้แอปพลิเคชั่นเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความมั่นใจในพื้นที่เพื่อควบคุมคนเหล่านี้ให้ได้

นายกฯกล่าวว่า สำหรับคนไทยที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศเขตโรคติดต่อร้ายแรงต้องผ่านมาตรการคัดกรองเข้าสู่มาตรการเฝ้าระวังในพื้นที่ที่กำหนดตามภูมิลำเนา โดยมีเจ้าหน้าที่ติดตาม กำกับดูแลถึงครัวเรือนและที่พัก ทุกคนต้องรับผิดชอบ และมีความผิดกรณีหลบหนีออกนอกบ้านและที่พัก มีการลงโทษทั้งปรับทั้งจำ กฎหมายมีอยู่แล้ว

นายกฯกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศติดต่อพูดคุยกับเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ส่งข้อมูลไปยังมิตรประเทศตามความจำเป็นว่าเรามีมาตรการอย่างไร เพื่อเตรียมความพร้อม ทั้งนี้ ทุกสถานทูตและสถานกงสุลต้องเตรียมรองรับมาตรการเหล่านี้ เพราะทุกคนที่จะเข้ามายังประเทศไทยต้องไปขอวีซ่าตามระบบเดิมทั้งหมดที่สถานทูตหลังจากยกเลิก VOA และฟรีวีซ่า

“ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนต้องไว้ใจกระบวนการเหล่านี้ ต้องร่วมมือช่วยกันดูแล ถ้าปล่อยเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียว ไม่ให้ความร่วมมือก็จะมีปัญหาทั้งหมด ทุกอย่างเราต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมายและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และกติกาที่มีอยู่ ถ้าไม่ทำแบบนี้เราอาจควบคุมสถานการณ์ไว้ไม่ได้ในระยะต่อไป รัฐบาลจึงต้องให้ความสำคัญ เพราะไม่ต้องการให้โควิด-19 แพร่เข้าสู่ระยะ 3 ในประเทศไทย วันนี้เรายังอยู่ในระยะที่ 2 แต่สถานการณ์รอบบ้านเราในวันนี้และประเทศอื่นทั่วโลกกำลังมีการแพร่ระบาดมากขึ้น เราจึงจำเป็นต้องสกัดกั้นตั้งแต่วันนี้จนถึงเวลาที่เหมาะสม หลายคนมีความต้องการหลายอย่าง แต่ยืนยันว่ารัฐบาลต้องหามาตรการที่ดีและเหมาะสม ต้องพูดคุยทำความเข้าใจ ยืนยันว่ารัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด เข้มแข็งที่สุด วันนี้เห็นใจเจ้าหน้าที่ ก็ต้องมีการหมุนเวียนให้ได้พักผ่อนกันบ้าง ทุกคนมีภาระหนักทั้งสิ้น เราต้องหาวิธีในการคัดกรองให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ถ้าเรายังใช้วิธีการเช่นเดิม โดยเฉพาะการเข้าออกประเทศก็อาจมีปัญหาได้ ก็ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย ขอร้องสื่อเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง อย่าจับผิดจับถูกคำพูดของผม เพราะผมพูดในระดับนโยบาย ทุกอย่างต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย การออกประกาศหรือกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ เราตรวจสอบกฎหมายหลายฉบับแล้วสามารถทำได้ ยืนยันว่าเรามีความพร้อมควบคุมสถานการณ์ตามที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่ต้องเตรียมรับมือไว้เผื่อสถานการณ์แพร่ระบาดมากขึ้น”

นายกฯกล่าวว่า ส่วนการติดตามตัวผีน้อยที่หลบหนีการคัดกรองนั้นติดตามได้หมดแล้ว ก็ขอให้มั่นใจ แม้การเข้าออกของคนจะมีจำนวนมาก ยอมรับว่ามาตรการที่ออกมาจะทำให้คนเข้าไทยลดลงแล้วอาจกระทบภาคธุรกิจด้วย รัฐบาลจึงต้องคิดรอบคอบทุกด้าน แต่จะให้คิดว่าเศรษฐกิจแย่แล้วปิดประเทศไปเลยคิดอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วจะรู้ว่ามันยาก ทั้งนี้ ระหว่างที่ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ มาตรการเดิมที่มีอยู่ก็จะเข้มข้นมากขึ้น ดังนั้น คนที่เข้าประเทศก็จะลดลงจำนวนมาก เพราะการขอวีซ่าต่างๆต้องไปประเทศต้นทางที่มีสถานทูตของไทย เราต้องเร่งสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศด้วยว่าไทยจำเป็นอย่างไร และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือ เรายังต้องคบกันต่อไปกับทุกประเทศ ทำอย่างไรจะมีความเข้าใจ เราเป็นประเทศที่ดำรงความเป็นกลาง สร้างความสัมพันธ์กับทุกประเทศอยู่แล้ว ขอร้องคนไทยทุกคนร่วมมือ ตนทราบถึงปัญหาทั้งหมด รวมทั้งข้อบกพร่องต่างๆก็พร้อมแก้ไข ขอให้แจ้งมาตามช่องทางให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอร้องอย่าไปตำหนิติเตียนหรือด่าว่าโดยใช้คำพูดหยาบคาย โดยเฉพาะในโซเชียล ตนไม่ค่อยแฮปปี้ กรุณาใช้คำพูดสุภาพหน่อย และขอสื่ออย่าตัดตอนคำพูด

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จะใช้อำนาจตามมาตรา 16 ตามกฎหมายคนเข้าเมืองดำเนินมาตรการโดยเริ่มเลยตั้งแต่บัดนี้ ทั้งนี้ จะปิดศูนย์ที่สัตหีบและศูนย์ควบคุมในจังหวัดต่างๆ ทุกคนจะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดของกระทรวงสาธารณสุข โดยให้อำนาจหน้าที่ฝ่ายปกครองจัดส่งกลับภูมิลำเนา กระทรวงสาธารณสุขจะแต่งตั้งผู้ช่วยเจ้าพนักงาน อาจเป็นผวจ.ฝ่ายปกครองในการดูแล


You must be logged in to post a comment Login