วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“จุรินทร์” เผยไม่มีอำนาจสั่งอธิบดีกรมการค้าภายในถอนฟ้องโฆษกกรมศุลกากร

On March 12, 2020

วันนี้ (12 มี.ค. 2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีกรมการค้าภายในจะแจ้งความเอาผิดโฆษกกรมศุลกากรที่ให้ข้อมูลและสื่อสารผิดพลาดในเรื่องหน้ากากอนามัยว่า ตนไม่ทราบ แต่เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา เมื่อได้เห็นข่าวที่ออกไปตามโซเชียลมีเดียก็ตกใจ เพราะคำแถลงที่ปรากฏออกมาว่าโฆษกกรมศุลกากรเป็นผู้ให้ข่าวว่ามีการส่งออกหน้ากากอนามัยไป 330 ตัน ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ตนจึงเร่งตรวจสอบว่าอธิบดีกรมการค้าภายในได้อนุมัติไปตามนั้นจริงหรือไม่ และข้อเท็จจริงคืออะไร เพราะผู้ที่จะอนุมัติให้ส่งออกได้มีเพียงอธิบดีกรมการค้าภายในเท่านั้น

ทั้งนี้ ตนได้รับคำชี้แจงว่าตั้งแต่ประกาศเป็นสินค้าควบคุม และตนได้เคยมีนโยบายไปแล้วว่าไม่มีนโยบายอนุญาตให้ส่งออก รวมทั้งในทางปฏิบัติจะต้องเป็นไปตามประกาศ หากจะมีการส่งออกจะต้องขออนุญาตก่อน ซึ่งหน้ากากอนามัยที่จำเป็นต้องใช้ในประเทศเราไม่ให้ส่งออก ยกเว้นการผลิตหน้ากากอนามัยภายใต้ข้อผูกพันทางทรัพย์สินทางปัญญาที่เราเอามาขายในประเทศไม่ได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมการค้าภายในที่จะเป็นผู้พิจารณา โดยอธิบดีกรมการค้าภายในจะแถลงในรายละเอียดต่อไป และเท่าที่รับทราบท่านจะไปแจ้งความร้องทุกข์เพราะทำให้ท่านได้รับความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โทรศัพท์มาพูดคุยในประเด็นดังกล่าวหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้โทรศัพท์มา แต่ตนได้โทรศัพท์ไปประสานกับเลขานุการกรมศุลกากรเมื่อคืนวันที่ 11 มีนาคม 2563 เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง ซึ่งแจ้งมาว่าคำแถลงของกรมศุลกากรยืนยันว่าในช่วงหลังจากมีการประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมก็มีการส่งออกน้อยมาก

เมื่อถามว่าหากนายอุตตมาขอให้ถอนฟ้องจะถอนฟ้องหรือไม่ แล้วจะต้องทำความเข้าใจกับอธิบดีกรมการค้าภายในหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่มีอำนาจไปสั่งการท่าน เพราะอธิบดีกรมการค้าภายในไปแจ้งความในฐานะที่ทำให้เสียหาย เราจะใช้ดุลยพินิจแล้วบอกว่าไม่เสียหายอย่างนั้นไม่ได้ เพราะท่านต้องรักษาสิทธิและปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง ขอให้ท่านมาตอบเรื่องนี้แทน ตนจะตอบแทนคงไม่เหมาะ

เมื่อถามว่าการฟ้องร้องกันระหว่างรัฐกับรัฐจะทำให้เกิดความเสียหายในอนาคตตามมาหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ขอให้อธิบดีกรมการค้าภายในเป็นผู้แถลงว่าไปร้องทุกข์กล่าวโทษในกรณีใด เท่าที่ตนทราบเป็นกรณีของท่านกับโฆษกกรมศุลกากร ไม่ใช่หน่วยงานรัฐต่อหน่วยงานรัฐ หรือเป็นกรณีอื่นก็ได้ ขอให้ท่านเป็นคนมาพูดเองดีที่สุด ตนตอบแทนจะทำให้คลาดเคลื่อน

เมื่อถามว่าจะต้องมีการทบทวนเรื่องการแถลงข่าวหรือไม่ เพราะตอนนี้ประชาชนสับสนข้อมูล นายจุรินทร์กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องจริง ตอนนี้การให้ข้อมูลอะไรจากหน่วยงานภาครัฐต้องตรวจสอบให้รอบคอบชัดเจนแล้วจึงแถลง เพราะสถานการณ์ขณะนี้เป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ รวมถึงโซเชียลมีเดียไปเร็วมาก ถ้าคลาดเคลื่อนจะกระจายไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว ซึ่งกว่าจะทำความเข้าใจได้ต้องใช้เวลาจนผู้เสียหายได้รับความเสียหายในวงกว้าง การให้ข่าวอะไรจึงต้องระมัดระวัง

เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าฝ่ายบริหารไม่ได้ไปชี้ช่องให้เจ้าหน้าที่ฟ้องร้อง เพราะตอนนี้มีการมองกันว่าเป็นเกมการเมืองระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบตรงนั้น แต่ทั้งหมดจะยืนยันได้ด้วยข้อเท็จจริงและความจริงดีที่สุด ตนยังเชื่อว่าในระยะยาวสังคมพร้อมที่จะฟังความเห็นเมื่อพ้นจากภาวะไม่ปกตินี้ ดังนั้น ข้อเท็จจริงคือสิ่งที่จะบอกได้ดีที่สุดว่ามันคืออะไร

เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าเสถียรภาพของรัฐบาลยังเหนียวแน่น นายจุรินทร์กล่าวว่า ในส่วนของการทำหน้าที่ในรัฐบาลยังไม่ได้มีปัญหาอะไร


You must be logged in to post a comment Login