บล.บัวหลวงชี้หุ้นสวิงหนักรอบ 6 ปี ยอดถือครอง DW01 อิงดัชนี SET50 พุ่งเท่าตัว

• Tweet
• 

นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ออกและเสนอขาย DW01 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาด เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น ทำให้ดัชนีหุ้นไทยในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ผันผวนหนักสุดในรอบ 6 ปี ส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) อ้างอิงดัชนี SET50 มากขึ้น เนื่องจากมีอัตราทดและค่าเสื่อมเวลาเริ่มต้นต่ำกว่า DW อ้างอิงสัญญาฟิวเจอร์ SET50 ในตลาด สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มระมัดระวังการลงทุนและลดระดับความเสี่ยงลง โดยเริ่มเห็นพฤติกรรมนักลงทุนตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้การลงทุน DW01 อ้างอิงดัชนี SET50 สามารถเก็งทิศทางตลาดได้ง่ายกว่า โดยดูความเคลื่อนไหวของหุ้นชั้นนำที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี ส่งผลให้มูลค่าถือครอง DW01 อ้างอิงดัชนี SET50 ณ สิ้นเดือน ก.พ.63 ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 100% จากสิ้นปี 62 ชี้ให้เห็นว่าการลงทุน DW01 อ้างอิงดัชนี SET50 เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สามารถใช้สร้างกลยุทธ์ทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยกระจายความเสี่ยงหรือลดความเสี่ยงจากหุ้นเฉพาะตัวได้และยังสามารถใช้เก็งกำไรในตลาดขาลงได้

ปัจจุบัน DW อ้างอิงกับ SET50 มี 2 แบบ คือ 1) อิงกับดัชนี SET50  และ 2) อิงกับสัญญาฟิวเจอร์SET50 ซึ่งอย่างหลังจะผันผวนตามการซื้อขายของสัญญาฟิวเจอร์สในตลาดอนุพันธ์ ส่วนอย่างแรกจะอ้างอิงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีจริงๆ ขณะที่หลักทรัพย์บัวหลวง เป็นผู้ออก DW รายเดียวที่ออก DW อ้างอิง SET50 ทั้งสองแบบ หากเป็น DW01 อ้างอิงดัชนี SET50 จะลงท้ายด้วยซีรีส์ A หรือ B ขณะที่ DW01 อ้างอิงสัญญาฟิวเจอร์ส SET50 จะเป็นซีรีส์ที่ลงท้ายด้วย F, G, H, I เป็นต้นไป ยกตัวอย่างเช่น S5001C2005A จะอ้างอิงกับดัชนี SET50 ส่วน S5001C2006F จะอ้างอิงสัญญาฟิวเจอร์ SET50 เป็นต้น

“การมีฟีเจอร์ที่หลากหลายของ DW เป็นกลยุทธ์ที่หลักทรัพย์บัวหลวงมุ่งเน้นในการออกและเสนอขาย DW01 มาโดยตลอด เพราะสามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้หลายสไตล์เทรด รองรับระดับความเสี่ยงที่รับได้ของนักลงทุนแต่ละคน รวมถึงหลากหลายสภาวะตลาด ทำให้ที่ผ่านมามาร์เก็ตแชร์ DW01 ของหลักทรัพย์บัวหลวงยังคงสูงสุดในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง”นายบรรณรงค์ กล่าว

สำหรับภาพรวมการซื้อขายตลาด DW ในเดือน ก.พ.63 ท่ามกลางดัชนี SET Index ดิ่งลงแรงจากสิ้นเดือน ม.ค.63 ถึง -173.62 จุดหรือคิดเป็นร้อยละ -11.47 ทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี พบนักลงทุนยังเข้ามาเก็งกำไร DW คึกคักด้วยมูลค่าการซื้อขาย DW สะสมในเดือน ก.พ.63 มูลค่า 135,698.0 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 7,142.0 ล้านบาท มีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขาย DW ต่อหลักทรัพย์ทั้งระบบที่ 11.0% และซื้อขาย Put DW เป็นสัดส่วนสูงถึง 55.5% มากสุดในรอบปี

ขณะเดียวกัน DW ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเดือน ก.พ.63 เป็น DW ที่อ้างอิงกับ SET50 ซึ่งมีสัดส่วนการซื้อขาย 53.9% ของการซื้อขาย DW ทั้งอุตสาหกรรม โดยมีการลงทุนใน DW ประเภท Put สัดส่วนสูงถึง 69.1% สอดคล้องทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ดิ่งลงหนักในเดือนที่ผ่านมา สะท้อนนักลงทุนเริ่มเก็งกำไรในขาลงมากขึ้น ส่วน DW ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงเป็นอันดับ 2 และ 3 ยังเป็น DW ที่อ้างอิงหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า นำโดยหุ้น GULF และ GPSC ซึ่งมีสัดส่วนการซื้อขายอยู่ที่ 5.3% และ 4.4% ของมูลค่าการซื้อขาย DW ทั้งอุตสาหกรรม ตามลำดับ โดยซื้อขาย DW ประเภท Put เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ ซึ่งสอดคล้องกับราคาหุ้น GULF และ GPSC ที่ปรับตัวลดลงตลอดเดือนที่ผ่านมา

“ภาพรวมตลาดหุ้นยังผันผวนหนักต่อเนื่องจากเดือนก.พ.ที่ผ่านมา จึงมองว่ามีโอกาสที่นักลงทุนจะเข้ามาซื้อขาย DW01 อ้างอิงดัชนี SET50 มากขึ้น เนื่องจากหลักทรัพย์บัวหลวงเป็นผู้ออก DW รายเดียวที่ออกโปรดักส์นี้ที่มีฟีเจอร์แตกต่างมาเป็นทางเลือก จึงรองรับความต้องการของนักลงทุนได้ และหากตลาดหุ้นเริ่มนิ่งหรือกลับสู่ภาวะปกติ นักลงทุนก็อาจกลับไปเก็งกำไร DW อ้างอิงสัญญาฟิวเจอร์ SET50 เหมือนเดิม ซึ่งเราเองก็มีโปรดักส์รองรับอยู่แล้ว”นายบรรณรงค์ กล่าว

อย่างไรก็ตามผลจากกลยุทธ์ในการออก DW01 ที่หลากหลาย ส่งผลให้หลักทรัพย์บัวหลวงมีส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าถือครอง DW ของนักลงทุน ณ สิ้นเดือนก.พ. 63 เป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมที่ 52.7% ถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 4 ปี  โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมในเดือนก.พ.63 ครองอันดับ 1 เช่นกัน อยู่ที่ 42.8% โดยมีจำนวน DW ในระบบ 346 รุ่น คิดเป็น 18.08% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ แบ่งเป็น Call DW 219 รุ่น  Put DW 127 รุ่นและมีจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกคิดเป็น 71.15% ของจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงที่มีทั้งหมดในอุตสาหกรรม

สำหรับภาพรวม DW ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ณ สิ้นเดือน ก.พ.63 มีจำนวน 1,914 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 1,489 รุ่นและ Put DW 425 รุ่น ลดลงจากสิ้นเดือนม.ค.63 มีจำนวน 2,061 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 1,625 รุ่นและ Put DW 436 รุ่น โดยมีหลักทรัพย์อ้างอิงเสนอขายในเดือนก.พ.63 จำนวน 104 ตัว เท่าเดือนม.ค.63 โดยมีหุ้นอ้างอิงเข้าใหม่ คือ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ส่วนหุ้นอ้างอิงที่หายไป ได้แก่ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP)

You must be logged in to post a comment Login