ตั้งรับอย่างมีสติ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 18 มี.ค. 63)

มีข่าวมาว่าประชาชนเริ่มกักตุนข้าวสารอาหารแห้ง กลัวว่าจะไม่ได้ออกไปไหน ต้องอยู่กับบ้าน แล้วอาหารการกินจะไม่พอถ้าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเข้าสู่ระยะที่ 3 ยังไงก็ขอให้ประชาชนตั้งรับอย่างมีสติ อย่าหวาดหวั่นจนเกินไป เขาบอกว่าความกลัวทำให้เสื่อม แต่เราก็ต้องไม่กล้าบ้าบิ่นอย่างชาวอาหรับหรือชาวอิหร่านที่ไปเลียประตูอะไรต่างๆ

แต่ถ้ากลัวจนไม่ทำมาหากิน ไม่ทำอะไรเลยก็เกินไป โลกตอนนี้มันสลับขั้วกัน ในยุโรปโรคกำลังระบาดอย่างหนัก ขณะที่จีนกับเกาหลีใต้เริ่มลดจำนวนลง เรียกว่าเริ่มเอาอยู่ ซึ่งรอบนี้มันมีอะไรที่หมุนเวียนเปลี่ยนกัน ความเจริญมากเท่าไรก็ไม่สามารถป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้ ย้อนยุคกลับไปสมัยสงครามโลกที่มีคนตายไปเยอะ หรือยุคหนึ่งที่มีโรคไข้ทรพิษอะไรต่างๆ ก็มีคนตายไม่ใช่น้อย เรียกว่าตายเป็นเบือ

ตอนนี้มนุษย์เราไม่น่าจะทะเลาะกันแล้ว แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาถล่มกัน เงินที่ซื้ออาวุธน่าจะเอามาทำวิจัยยาต้านไวรัสหรือทำวัคซีน หรือตั้งกองทุนเพื่อสู้กับไวรัสโควิด รบกับเศรษฐกิจ มันอาจจะมีมุมดีขึ้นมาบ้างก็ได้ ถ้านักลงทุนไม่ซื้ออาวุธ ไม่คิดสร้างอาวุธ แต่หันมาสร้างวัคซีน เข็มฉีดยา หน้ากาก หรืออะไรก็แล้วแต่ไม่ให้มันขาดแคลน อาวุธขาดยังไม่เป็นไรเพราะไม่ได้รบกัน แต่ถ้าปล่อยให้เครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ขาดมันจะรบไม่ชนะ เรียกว่าแพ้เชิง แพ้ชั้น แพ้ปริมาณ แพ้จำนวนของฝ่ายตรงข้ามคือโรคภัยไข้เจ็บ ถ้าหากเรามีเสบียงดี มียุทธวิธีดี ก็อาจชนะไวรัสโควิดได้ในระยะเวลาไม่นานเกินรอ

เพราะมีตัวอย่างจีนที่เริ่มส่อแววชนะแล้ว โดยประธานาธิบดีจีนได้ลงพื้นที่ที่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคไวรัสโควิด แสดงว่ามั่นใจว่าไปแล้วปลอดภัย ตรงนี้ถือว่าสำคัญมาก ถ้าประชาชนมีขวัญกำลังใจ ไม่เสียขวัญ ก็จะตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน เศรษฐกิจก็จะฟื้นเร็ว ที่เมืองจีนเรื่องเศรษฐกิจเขายอดเยี่ยมอยู่แล้ว และถ้าเขายอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะไวรัสโควิดได้เมื่อไรเขาจะกลายเป็นเจ้าโลกทันที

ถ้าสหรัฐไม่ชนะ มีคนตายเยอะ ก็จะกลายเป็นผู้แพ้สงครามโรคภัยไข้เจ็บ จีนกับสหรัฐเคยทำสงครามการค้ากันมาแล้ว มาร่วมกันทำสงครามกับโรคตัวนี้ให้ชนะเด็ดขาดเท่าไรยิ่งดี โลกนี้จะได้น่าอยู่ต่อไป

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login