วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เตือนวัยโจ๋-วัยทำงาน หยุดพฤติกรรมตั้งวงแฮงค์เอาท์ปาร์ตี้ อ้างเสรีภาพกินดื่ม

On March 24, 2020

วันนี้(24มีนาคม 2563) นายชูวิทย์  จันทรส  ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ขณะนี้จำนวนผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ พบว่าส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว วัยทำงาน เนื่องจากคนเหล่านี้มีการสังสรรค์ เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ไม่ลดกิจกรรมทางสังคม ไม่กักตัวอย่างเคร่งครัด จากข้อมูลของผู้ติดเชื้อ บอกชัดเจนว่า ได้ตั้งวงกินดื่ม โดยเฉพาะห้องแอร์ร้านเหล้าผับบาร์ รวมไปถึงในที่โล่ง ส่วนกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังก็มีพฤติกรรมที่ไม่รู้สึกรู้สา อ้างความไม่รู้ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงไม่ใช่สิ่งที่ยอมรับได้ในสถานการณ์นี้ เป็นอุปสรรคสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 ทำให้ไปแพร่เชื้อกับเพื่อนและครอบครัว อาจขยายวง ทำให้ควบคุมได้ลำบาก

“สำหรับผู้ที่ติดเชื้อ จะด้วยสาเหตุใดขอเอาใจช่วยให้หายในเร็ววัน และไม่ควรมีใครซ้ำเติมหรือบูลลี่กัน ควรคิดว่าเราจะช่วยกันอย่างไรได้บ้างในยามนี้ บทเรียนที่เกิดขึ้น ควรค่าอย่างยิ่งที่คนหนุ่มสาว คนทำงานจำเป็นต้องตระหนักกันให้มาก  หยุดเห็นแก่ความสนุกความสุขแค่เพียงส่วนตัว นี่คือความรับผิดชอบต่อส่วนรวม นาทีนี้  ขอให้อดทน อดกลั้น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เว้นวรรคการสังสรรค์ตั้งวงปาร์ตี้กินดื่ม เพราะแม้จะมีคำสั่งปิดร้านเหล้าผับบาร์ไปแล้ว ยังพบว่ามีกลุ่มที่แอบตั้งวงกันเอง เช่น ชายทะเล ชายหาด หรือในชุมชน ในหมู่บ้าน ซึ่งปัญหาจะตามมาไม่จบสิ้น ดังนั้นอะไรที่ทำแล้วไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ช่วงนี้เลี่ยงให้หมดทั้งเหล้า  บุหรี่  เพราะมันทำให้ร่างกายอ่อนแอ หันมาออกกำลังกายในที่แจ้ง  ไม่รวมกลุ่ม ทานอาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ใส่หน้ากากล้างมือ ติดตามข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ไม่ส่งต่อเฟคนิวส์ มีจิตสำนึกต่อส่วนรวม” นายชูวิทย์ กล่าว

2

ด้านนายคำรณ  ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่า ผับบาร์บางแห่งยังเปิดให้บริการ จึงอยากขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีการตรวจตราอย่างเข้มงวดและเท่าทัน เพราะก่อนหน้านี้พบหลายแห่งที่จัดทำห้องพิเศษ ซึ่งยากต่อการสังเกต ดูทั่วไปเหมือนกับร้านปิด แต่จัดให้ขาเที่ยวเข้าไปในห้องโดยเฉพาะ ซึ่งหากพบการกระทำแบบนี้จริงต้องจัดการ โดยอาจใช้คำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 ขั้นเด็ดขาด รวมไปถึงกิจกรรมรถแห่ ที่แสดงคอนเสิร์ต รวมตัวคนจำนวนมาก ต้องห้ามเด็ดขาด ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งไปยังเครือข่ายฯทุกจังหวัดให้ช่วยปูพรมเฝ้าระวัง แบ่งเบาภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอดส่องหากพบการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อห้ามต่างๆ จะประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป ทั้งนี้ต้องขอบคุณร้านเหล้าผับบาร์ ที่ปิดตัวไปก่อนจะมีคำสั่งปิดของรัฐบาล และเอาใจช่วยพนักงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานประกอบการ ที่จะอดทนฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันให้ได้ ส่วนตัวคิดว่าลูกจ้างพนักงานในร้านไม่ควรถูกนายจ้างตัดเงินเดือน หรือค่าจ้างในช่วงปิดตัว  ประกันสังคมต้องหาช่องทางเข้ามาดูแลตรงนี้ ซึ่งอาจครอบคลุมไปถึงธุรกิจ บริษัท ห้างร้านอื่นๆด้วย  เพราะเป็นสถานการณ์พิเศษ


You must be logged in to post a comment Login