วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ความกลัวทำให้เสื่อม

On March 31, 2020

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 31 มี.ค. 63)

ดูแล้วก็นึกว่า ความกลัวทำให้เสื่อม ความกลัวโดยไม่รู้จริงยิ่งไปกันใหญ่ ไม่นึกว่ามันจะบานปลายได้ถึงขนาดนั้น โดยเมื่อเร็วๆนี้มีคุณหมอต่อว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัย พวกมูลนิธิกู้ภัย ทั้งป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกตัญญู ที่ไม่อยากอุ้มศพ จับศพ เนื่องจากกลัวติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งที่คุณหมอบอกว่าไม่ติด ซึ่งคนเป็นที่จะจับต้องคนตายไม่ว่าด้วยโรคอะไรก็ตามอาจจะติดโรคก็ได้ แต่โรคไวรัสโควิด-19 หรือโคโรนาไวรัส คุณหมอบอกว่าไม่ติด

งานนี้เจ้าหน้าที่มูลนิธิโดนหมอต่อว่าที่ไม่กล้าเก็บ ไม่กล้าอุ้มศพ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นครั้งแรกในเมืองไทย เขาบอกว่าประเทศไทยไม่เจริญก็เพราะพวกไม่รู้จริงแล้วมโนไปเอง คิดว่าเมื่อไปจับต้องศพที่เสียชีวิตด้วยเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วจะตาย นึกว่าโรคนี้มันจะกระโดดจากคนตายมาสู่คนเป็นได้

นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข พูดถึงกรณีปัญหาเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่กล้าเก็บศพเนื่องจากกังวลเรื่องการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า เราต้องรู้ก่อนว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวแพร่ทางการไอ จามรดกันในระยะ 1-2 เมตร หรือกรณีที่สารคัดหลั่งไปติดอยู่ตามพื้นแล้วเราเอามือไปสัมผัสเชื้อมาแล้วไม่ล้างมือแต่ไปจับหน้า จับตา แคะจมูก เป็นต้น ซึ่งย้ำอีกครั้งว่าศพไอ จาม ไม่ได้ แต่ถ้าไปเก็บศพแล้วเอามือไปแหย่จมูกศพแล้วมาแหย่จมูกตัวเองแบบนี้ติดแน่ๆ

ดังนั้น การเก็บศพก็ใช้วิธีที่เป็นมาตรฐานสำหรับการเก็บศพอื่นๆคือ สวมถุงมือ สวมหน้ากากอนามัย เมื่อเก็บศพแล้วก็ทำความสะอาดมือ ทำความสะอาดตัวเอง ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่กล้าเก็บศพคนฆ่าตัวตายทำให้คุณหมอต้องไปเก็บศพร่วมกับนิติเวชนั้น คุณหมอก็สวมเพียงหน้ากากอนามัยและถุงมือเท่านั้น ซึ่งเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว วันนี้ผลตรวจก็ออกมาแล้วว่าเป็นลบ อย่างไรก็ตาม ยังมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวนมากที่ไม่กล้าเก็บศพ ดังนั้น เราจะต้องมีการอบรมให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง ซึ่งมีการอบรมทางออนไลน์ได้โดยไม่ต้องมารวมกลุ่มกัน

ด้าน นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) บอกว่า ขณะนี้ สพฉ. มีเครือข่ายในการรับผู้ป่วยตามจุดต่างๆที่ได้รับแจ้งมา แบ่งเป็นรถพยาบาล ซึ่งก็เป็นบุคลากรทางการแพทย์อยู่แล้ว อีกส่วนหนึ่งคืออาสากู้ภัยต่างๆ ซึ่งถูกฝึกมาในสถานการณ์ปกติ เมื่อมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ออกหลักเกณฑ์การปฏิบัติในการรับผู้ป่วยที่แจ้งผ่าน 1669 และอยู่ระหว่างการอบรมบุคลากรสำหรับกรณีพบผู้เข้าข่ายโควิด-19 โดยเฉพาะ ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติงานได้ต้นเดือนเมษายนนี้ เบื้องต้นมี 100 ทีม ทีมละ 3 คน อนาคตเตรียมพัฒนาให้ได้อย่างน้อย 1,000 ทีม

นพ.อัจฉริยะกล่าวว่า ขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อมีการแจ้งเหตุผ่าน 1669 แล้วจะมีการประเมินเบื้องต้น หากชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับไวรัสโควิดก็จะส่งทีมเฉพาะไปรับผู้ป่วย แต่ถ้าไม่มีความชัดเจนจะส่งชุดแพทย์ฉุกเฉินตามปกติไปเพื่อประเมินหน้างานอีกครั้ง ถ้าไม่เกี่ยวกับโควิด-19 ก็รับตัวส่งโรงพยาบาลเลย แต่ถ้าสงสัยก็ประสานทีมเฉพาะไปรับตัวอีกครั้ง เหตุที่ไม่ส่งทีมเฉพาะไปทันทีเลยนั้นเพราะทีมยังมีน้อย ทั้งนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกระเบียบการจ่ายค่าเสี่ยงภัยให้คนเหล่านี้ด้วย

กรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่กล้าเก็บศพต้องถือว่าปัญหามันบานปลาย ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด-19 จะสร้างปัญหาได้ กลายเป็นเรื่องที่ไปกันใหญ่ และขยายความทุกข์ความลำบากบานปลายออก ก่อให้เกิดความยุ่งยาก ทั้งหมดทั้งสิ้นเป็นเพราะความไม่รู้จริงแล้วก็ไปวิตกกังวลจนกลายเป็นว่าทำอะไรก็ไม่ได้

กลัวว่าโรคร้ายจะกระโดดมาติดคนเป็น ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะจัดการกับศพมานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นศพเน่าจนเหลือแต่กระดูก หรือศพที่สยดสยอง น่ากลัวก็เก็บได้ แต่มาเจอศพตายแบบนี้เข้าก็ไม่กล้า เลยกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา ที่จริงถ้ากลัวก็ใส่ถุงมือหรือใส่อะไรป้องกันก็น่าจะทำได้ ไม่น่าจะถึงขั้นที่เรียกว่าไม่กล้าจับ ไม่กล้าอุ้ม ไม่โยกไม่ย้าย จนมีเรื่องกับคุณหมอจนเป็นข่าวเป็นคราว

เรื่องนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจว่า เจ้าหน้าที่กลัวไปเองหรือมโนไปเอง เรียกว่าความกลัวทำให้เสื่อม อย่างที่เขาพูดกันมานานแล้วว่าความกลัวทำให้เสื่อม กลัวข้าศึก กลัวจน กลัวตาย กลัวแก่ กลัวสวยสู้เขาไม่ได้ ไม่ว่าจะกลัวอะไรก็ค่อนข้างจะไม่มีความสุข เพราะฉะนั้นขอให้รู้จริงเสียก่อนแล้วค่อยกลัว แต่ถ้ารู้ไม่จริงแล้วกลัวจนเกินเหตุ มันก็เป็นความเชื่อผิดๆที่ก่อให้เกิดความเสียหาย

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login