พบกันครึ่งทางมั้ย

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่  3 เม.ย. 63)

เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังสร้างปัญหาขยายเข้าวัดเข้าวา ตอนนี้ท่านเจ้าอาวาสวัดเนื่องจำนงค์ประกาศให้ความช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียงที่ไม่สามารถหาวัดที่ยอมประกอบพิธีฌาปนกิจให้แก่ผู้เสียชีวิต เพราะกลัวเสี่ยงติดเชื้อจากผู้เสียชีวิตหรือญาติๆ โดยทางวัดจะจัดการฌาปนกิจ และจัดการป้องกันอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามคำแนะนำและข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันการระบาดของโรค ญาติสามารถนำใบมรณบัตรมาติดต่อมาที่วัดโดยตรง

ขณะที่อีกวัดหนึ่งคือวัดนาควิชัยประกาศหยุดรับศพมาบำเพ็ญกุศลชั่วคราว ไม่รับศพมาประกอบพิธีฌาปนกิจ ไม่รับศพที่ตายจากโรคโควิด-19 จนกว่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ โดยเจ้าอาวาสวัดนาควิชัยเปิดเผยถึงสาเหตุที่ไม่รับเผาศพว่า ในช่วงนี้เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังระบาด ที่ผ่านมาวัดรับศพที่ญาติโยมนำมาเผา และตรวจสอบแล้วว่าไม่ได้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แต่ทางชุมชนไม่เห็นด้วย วิตกว่าศพที่เสียชีวิตอาจเกิดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องการให้งดรับสวดศพ เผาศพ แต่วัดไม่ได้ปิดถาวร หากคนในชุมชนเสียชีวิตก็สามารถนำมาเผาได้

ทางวัดได้พูดคุยกับชุมชนแล้วว่าหากมีญาติโยมในชุมชนตายก็จะตรวจสอบก่อนว่าเสียชีวิตจากโรคอะไร หากเป็นโรคทั่วไปหรือตายตามธรรมชาติก็สามารถเผาได้ ไม่ได้ห้ามว่าไม่เผาเลย ส่วนสาเหตุที่ปิดอีกประการหนึ่งคือ เพื่อซ่อมเตาเผา เนื่องจากสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2548 เตาเผามีการชำรุด บางครั้งเผาไปไฟก็ดับ ต้องซ่อมกันอยู่ประจำ

ทางด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้วัดและประชาชนเข้าใจว่าสามารถนำศพผู้ชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปฌาปนกิจที่วัดได้ เพราะกระทรวงสาธารณสุขได้ยืนยันมาแล้วว่าสามารถดำเนินการทางศาสนาได้ พร้อมฝากถึงวัดและประชาชนให้เข้าใจความรู้สึกของครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจะเอายังไงกันแน่ วัดหนึ่งที่รับเผาก็เป็นที่พึ่งของประชาชน แต่อีกวัดหนึ่งบอกว่าประชาชนในพื้นที่ไม่ให้เผา จะมีโอกาสพบกันครึ่งทางมั้ย จะจัดเผาที่ไหน อย่างไร เป็นเรื่องหลังจากตาย แต่ก่อนจะตายเราน่าจะหาทางป้องกันก่อน วัดไหนยังลงมติกันไม่ได้ แต่ไม่ควรขึ้นป้ายว่าไม่รับเผาศพ เพราะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน

ตอนนี้ผลกระทบหลังตายไม่น่าจะเอามาพูดกันมาก เพราะถ้าไม่เผาก็ฝัง ฝังก็กลบไปเลยก็คงไม่เป็นไร เพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 คงไม่โผล่มาจากดิน ทีนี้คนที่ยังไม่ตายจะป้องกันอย่างไร เขาบอกว่าพริก มะระขี้นก อะไรต่อมิอะไรกำลังเสนอตัวป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 บางคนบอกว่าเมี่ยงคำสามารถยับยั้งหรือป้องกันไม่ให้ไวรัสลุกลามหรือเข้ามาทำให้ชีวิตต้องเป็นโรคเป็นภัย เลยทำให้เมี่ยงคำที่วัดขายดิบขายดี

อาหารแบบไทยๆจำพวกสมุนไพร ขิง ข่า ตะไคร้ อะไรต่างๆ อาจมีตัวใดตัวหนึ่งที่ไม่ถูกกับไวรัส หรือไวรัสไม่ถูกกับอาหารตัวนี้ ก็น่าจะกลายเป็นผลดี เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย เรากินอาหารให้เป็นยา อย่ากินยาเป็นอาหาร กินยาเป็นอาหารมีผลข้างเคียงมากมาย แต่ถ้ากินอาหารให้เป็นยาน่าจะมีแต่ประโยชน์ โทษคงจะน้อย สรุปแล้วก็คือว่าประเทศไทยมีอาหารการกินที่เป็นสมุนไพรจำนวนมาก เผื่อมีชนิดไหนเป็นอาหารที่เป็นเบี้ยแก้เจ้าไวรัสโควิด-19 นี่ ก็จะกลายเป็นผลเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยไป

เชื่อว่าประเทศไทยคงมีอะไรดีกว่าหลายประเทศ โดยเฉพาะที่เขาลือกันว่าที่อิตาลีต้องเอารองเท้าเข้าบ้าน เขาบอกว่าอาจเป็นตัวแพร่ระบาดของไวรัสตัวนี้ก็เป็นได้ ประเทศไทยเป็นประเทศอากาศร้อน วันนี้เลยทนอยู่กลางแดด ไม่กางร่ม ไปดูงาน บริหารงาน โดยออกแดด ทำกลางแดดให้มันแผดเผา ร้อนหัวร้อนตัวกันบ้าง เผื่อว่ามันจะฟลุคขึ้นมาทำให้ไวรัสโควิด-19 อยู่ไม่ได้ ต้องไปจากประเทศไทย เพราะเรามีอากาศที่ร้อน และปีนี้ก็ร้อนน่าดูซะด้วย คงจะช่วยกำจัดไปได้บ้าง รวมแล้วอาหาร อากาศ ออกกำลังกายกันไว้ เขาบอกว่าอยู่บ้านอย่าอยู่เฉยๆ สะบัดแขนสะบัดขาบ้าง ไม่ใช่อยู่แล้วนอนซมไม่มีภูมิคุ้มกันเลย

อาหารดี อากาศดี แสงแดดแผดเผาดี เอาแต่พอสมควรก็แล้วกัน อย่าไปอยู่แต่ในร่ม นอนซม พอเขาบอกให้อยู่บ้านช่วยชาติเพื่อป้องกันตัวเอง เราก็ฉวยโอกาสนอน ไม่ออกกำลังกายเลย อาหารดีแล้ว ออกกำลังกลางแดดให้แดดมันเผาร่างกายให้ร้อนบ้าง เสื้อผ้าก็ตากแดดให้เต็มที่ ที่หลับที่นอนก็ตากแดดให้เต็มที่ มันก็น่าจะดีวันดีคืนขึ้น

เชื่อว่าประเทศไทยได้เปรียบหลายประเทศอยู่ แต่ก็ไม่ควรประมาท ไม่ควรชะล่าใจ อาหารอะไรที่กินแล้วเขาบอกว่ามันมีผลขับไล่ ไม่ว่าจะเป็นฟ้าทะลายโจร มะระขี้นก หรือพริกต่างๆ อะไรที่กินแล้วเป็นยาไปในตัวก็กินๆกันไป ไม่อร่อย ไม่ถูกปาก ก็ต้องฝืนใจกินเพื่อให้ชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยต่อไป

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login