- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 10 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
สะอาดกายสะอาดใจไปพร้อมกัน
คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 17-24 เมษายน 2563)
นกบินอยู่กลางอากาศได้เพราะมันกางปีกสองข้างพยุงตัวไว้ เครื่องบินก็ใช้หลักการเดียวกันกับนก ปีกหลุดหรือหักไปข้างหนึ่ง ลำตัวของนกและเครื่องบินก็ร่วงลงสู่พื้นดิน
พระเจ้าสร้างมนุษย์ให้มีกายภาพที่สมดุล มีแขนมีขา มีหูและตาอยู่สองข้างลำตัว และเหนือสุดของร่างกายคือหัวอยู่ตรงกลาง ภายในหัวเป็นที่อยู่ของสมอง แหล่งที่มาของปัญญา ทำหน้าที่รักษาสมดุลทางร่างกาย คนเมาหรือติดสารเสพติดเดินโซเซเพราะปัญญาสูญเสียการควบคุมความสมดุลในการเคลื่อนไหว ทำอะไรได้ทุกอย่าง นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมทุกศาสนาจึงห้ามสิ่งมึนเมา และถือว่าสิ่งมึนเมาทุกชนิดเป็นแม่ของความชั่ว
กฎหมายที่ออกโดยมนุษย์ไม่เคยห้ามการเสพสิ่งมึนเมา หรือห้ามก็เป็นการชั่วคราวเนื่องในวาระโอกาสสำคัญ หรือไม่ก็ห้ามประชาชนผลิต แต่อนุญาตให้นายทุนผลิตเพื่อเก็บภาษีและสนับสนุนกิจกรรมทางการเมืองของตน
แต่กฎของศาสนาห้ามสิ่งมึนเมาเป็นการถาวร เพราะศาสนาคือแนวทางในการดำเนินชีวิตเพื่อความสุขความเจริญของมนุษย์ในโลกนี้และการได้รับความรอดพ้นจากการถูกลงโทษในโลกหน้า
เนื่องจากชีวิตประกอบด้วยร่างกายและวิญญาณ ในระหว่างที่ยังอยู่ด้วยกัน ทั้งร่างกายและวิญญาณต่างมีความต้องการเหมือนกัน ถ้าร่างกายต้องการอาหาร การชำระล้าง การพักผ่อน และการออกกำลัง วิญญาณก็ต้องการเช่นกัน
วิทยาศาสตร์อาจตอบสนองความต้องการทางด้านร่างกายได้ แต่ทางด้านวิญญาณวิทยาศาสตร์ไม่อาจทำได้ พระเจ้าผู้สร้างชีวิตจึงได้ส่งศาสนามาเพื่อตอบสนองความต้องการให้ ทั้งนี้ เพื่อที่ร่างกายและวิญญาณของมนุษย์จะได้รับการตอบสนองอย่างสมดุล ชีวิตมนุษย์จะได้สมบูรณ์
กฎหมายมีมาตรการควบคุมมนุษย์มิให้ทำผิดโดยใช้การลงโทษ แต่ศาสนาจะใช้วิธีการควบคุมทางจิตวิญญาณ คนปฏิบัติศาสนาจึงไม่ต้องมีกฎหมายมาควบคุม เพราะศาสนาใช้วิธีการควบคุมทางด้านวิญญาณที่เป็นจอมบงการพฤติกรรมของมนุษย์ และวิธีการที่ศาสนาใช้ในการควบคุมตัวตนของมนุษย์ก็คือพิธีกรรมทางศาสนา
เนื่องจากธรรมชาติของมนุษย์รักความสะอาด ในอิสลามจึงมีคำสอนตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ว่าความสะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา ดังนั้น การรักษาความศรัทธาและความสะอาดจึงเป็นสิ่งที่ทำไปพร้อมกันในชีวิต
วัตถุประสงค์ประการหนึ่งของการละหมาดก็คือเพื่อขัดเกลามนุษย์ให้หมดจดจากบาป เพราะทุกวันวิญญาณของมนุษย์อาจได้รับมลทินจากสิ่งชั่วร้ายรอบด้านเหมือนกับร่างกายได้รับสิ่งสกปรก
ทุกครั้งที่จะละหมาด มุสลิมต้องเตรียมตัวด้วยการชำระล้างร่างกาย ซึ่งถือเป็นกุญแจเข้าไปสู่การละหมาด เมื่อเริ่มต้นล้างมือทั้งสองข้างนั่นเท่ากับเขากำลังวิงวอนว่า “โอ้พระเจ้า โปรดรักษามือสองข้างของฉันให้พ้นจากความชั่ว และขอให้ความชั่วอะไรก็ตามที่ฉันทำไปโดยมือทั้งสองข้างนี้ได้ถูกชำระล้าง” หลังจากนั้นเมื่อเขาบ้วนปากและล้างใบหน้า วิญญาณของเขาได้วิงวอนเงียบๆว่า “โอ้พระเจ้า โปรดขจัดสิ่งไม่ดีจากอาหารที่ฉันกินเข้าไป จากคำพูดชั่วๆที่ฉันกล่าวออกมา และจากสิ่งชั่วช้าที่ฉันได้เห็น” หลังจากนั้นเมื่อเขาใช้มือเปียกน้ำลูบไปบนเส้นผม ตัวตนของเขาได้วิงวอนต่อพระเจ้าว่า “โอ้พระเจ้า โปรดชำระล้างสิ่งไม่ดีที่เกิดจากความคิดและแผนการอันชั่วร้ายของฉัน โปรดชำระความคิดจิตใจของฉันให้สะอาดด้วยเถิด” เมื่อเขาล้างเท้าทั้งสองข้าง การล้างเท้าของเขาเป็นการวิงวอนต่อพระเจ้าให้ชำระเท้าของเขาให้สะอาดจากธุลีแห่งความชั่ว และทำให้สองขาของเขาอย่าได้ย่างกรายเข้าไปในหนทางใดนอกจากหนทางแห่งความดีและความยุติธรรม
กระบวนการอาบน้ำละหมาดทั้งหมดจึงเป็นการสรุปคำวิงวอนในทางปฏิบัติว่า “โอ้พระเจ้า โปรดทำให้ฉันหันห่างออกจากความผิดและเป็นผู้รักษาตัวเองให้หมดจดจากความชั่ว”
คัมภีร์กุรอานกล่าวไว้ชัดเจนว่า “แท้จริงการละหมาดจะยับยั้งคนให้พ้นจากความชั่วช้าและความลามก” คนละหมาดและยังทำชั่วอยู่แสดงว่าวิญญาณยังไม่ได้รับการชำระล้างแม้จะทำความสะอาดร่างกายภายนอกแล้วก็ตาม
You must be logged in to post a comment Login