- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 14 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 6 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 7 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
D สุดเจ๋ง! บ.ย่อยคว้าโปรเจคมหาลัยฯ ภาครัฐขายชุดเก้าอี้ทันตกรรม-เครื่องเอกซเรย์มูลค่า 35 ลบ.
ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (D) กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจรในรูปแบบศูนย์ทันตกรรม คลินิกทันตกรรม รวมทั้งงานขายวัสดุ และอุปกรณ์ทันตกรรม เปิดเผยว่า บริษัท เดนทัลวิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (DVT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจตัวแทนจำหน่ายสินค้าทันตกรรมคุณภาพสูงจาก Brand ชั้นนำจากต่างประเทศ ให้แก่ทันตแพทย์, คลินิก, โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัย และแลปทันตกรรม ได้เซ็นสัญญาขาย 1.ชุดโต๊ะปฏิบัติการทันตกรรมประดิษฐ์และทันตกรรมจัดฟัน พร้อมชุดเครื่องกรอ เครื่องดูดฝุ่น โคมไฟฟ้าและเก้าอี้ 2.เครื่องจำลองขากรรไกรเข้าสู่ระบบการออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ 3.เครื่องกลึงชิ้นงานโลหะแบบเปียก และแบบแห้งทันตกรรมประดิษฐ์ 4.เครื่องถ่ายภาพรังสีเอกซ์แบบ 3 มิติ ให้กับมหาวิทยาลัยภาครัฐ มูลค่า 35.42 ล้านบาท ระยะเวลาการส่งมอบ 120 วัน
“ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของ บริษัท เดนทัล วิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ในการขยายฐานลูกค้าไปยังมหาวิทยาลัยภาครัฐ ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และบริษัทฯอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานมหาวิทยาลัยภาครัฐ มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านบาท คาดรู้ผลประมูลงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้รายได้ของกลุ่มบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร D กล่าวอีกว่า แม้บริษัทฯจะได้รับผลกระทบจากจำนวนคนไข้จากต่างประเทศที่ลดลงเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ ทำให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า และมีผู้มาใช้บริการทันตกรรมที่เป็นคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการผลการดำเนินการของโรงพยาบาล ทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่จะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2563 และผลการดำเนินการของบริษัทย่อย ที่ดำเนินธุรกิจ ขายวัสดุ และอุปกรณ์ ทันตกรรม ให้กับภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมไปถึงความพยายามในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่า แนวโน้มรายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ภายใต้สมมุติฐาน ภายในไตรมาส 3/63 คลินิกทันตกรรม ทุกสาขาของบริษัทฯจะสามารถกลับมาดำเนินการได้ ใกล้เคียงกับปกติ และคนไข้ต่างชาติ สามารถเดินทางมารับการรักษาทันตกรรมได้ในไตรมาส ที่ 4/63
ทั้งนี้ รพ. BIDH เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งแรกที่มีการรักษาเต็มรูปแบบของโรงพยาบาลทันตกรรม (ฟัน) โดยใช้งบประมาณลงทุนกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่สนับสนุนการเติบโตอย่างมั่นคง
โดยปัจจุบัน D มีศูนย์ทันตกรรม BIDC 1 แห่ง คลินิกทันตกรรม BIDC 4 แห่ง ที่พารากอน , เอ็มควอเทียร์ , ภูเก็ต , เชียงใหม่ คลินิกทันตกรรม Smile Signature 8 สาขา คลินิกทันตกรรมเดนทัล แพลนเน็ต เมเจอร์ รังสิต 1 แห่ง
You must be logged in to post a comment Login