คอลัมน์ : สำนัก(ข่าว)พระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 27 เมษายน 63)
คำว่าเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสสามารถใช้กับสถานการณ์ได้ทุกเรื่อง เพียงแต่ว่า ใครจะพลิกวิกฤตได้เก่ง ได้ดีได้มากกว่ากัน อย่างเช่น รถม้าที่ลำปางไม่ค่อยมีคนนั่ง เขาก็เลยเปลี่ยนมารับพัสดุส่งของ เรียกว่า เอาของไปส่งที่นั่น ที่นี่ ใช้ม้าวิ่งแป๊บเดียวก็ได้ใช้ได้ที่โน้น ที่นี่ไปเรื่อยๆ อันนี้ก็รู้จักเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยเบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) เปลี่ยนวิกฤติโควิด-19 เป็นโอกาสสร้างอาชีพ เสริมรายได้พิเศษ ให้รถม้าลำปาง ที่กำลังลำบาก จากภัยโควิด-19 โดยปรับเปลี่ยนรถม้า ที่ขนส่งนักท่องเที่ยว เป็นรถม้า รับ-ส่งพัสดุ ทั่วเมือง กว่า 20 คัน อนุรักษ์รถม้าสัญลักษณ์ประจำจังหวัดลำปาง ให้ยังคงโลดแล่นบนท้องถนนดังเดิม
นาย เจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) กล่าวว่า สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้รับผลกระทบอย่างหนัก และกระทบการทำมาหากินของชุมชนท้องถิ่นเป็นวงกว้าง หากดูสถิติเมื่อปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้าประเทศไทย ไม่ต่ำกว่า 130 ล้านคนต่อปี แต่ ณ วันนี้ โควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีแล้ว รวมทั้งการประกาศข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามออกนอกเคหสถาน ทั่วราชอาณาจักร ทำให้ชุมชนท้องถิ่นในแต่ละจังหวัด ต้องขาดรายได้ เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
โดยเฉพาะอาชีพรถม้าจังหวัดลำปาง จากก่อนที่เคยให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่มาวันนี้ ต้องหยุดตัวลง เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 “รถม้าลำปาง” ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัด ที่นับวัน อาจเริ่มเลือนหายไป เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ดังนั้นจากวิกฤติที่กำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ BEST Express จึงเข้ามาช่วยเยียวยา ด้วยการสนับสนุนอาชีพรถม้าลำปาง เพื่อคงไว้ซึ่งคุณค่าสัญลักษณ์ของชาวลำปางและชาวไทยให้ยังคงโลดแล่นบนท้องถนนต่อไป ผ่านโครงการสนับสนุนหารายได้พิเศษให้สมาคมรถม้าจังหวัดลำปางเปลี่ยนวิกฤติโควิด-19 ให้เป็นโอกาสเสริมรายได้พิเศษ ใช้รถม้า มาให้บริการ รับ-ส่ง พัสดุทั่วเมืองลำปางแทน เพื่อให้อาชีพรถม้าลำปาง ยังอยู่คู่บ้าน คู่เมืองตลอดจนชั่วลูกชั่วหลาน
นาย เจสัน เชียน บอกว่า หลังจาก BEST Express เริ่มใช้ รถม้า ให้บริการ รับ-ส่ง พัสดุทั่วเมือง จังหวัดลำปาง และมีการประชาสัมพันธ์โครงการออกไปในวงกว้าง ได้สร้างความตื่นเต้นและความประทับใจให้กับชุมชนชาวเมืองเป็นจำนวนมาก ทุกภาคส่วน ตั้งตารอ ที่จะใช้บริการ ไม่ว่าจะส่งของ หรือ รอรับของจากรถม้า ต่างพากันใช้บริการกันอย่างคึกคัก และประทับใจในบริการขนส่งของ BEST Express ที่มาในรูปแบบ สไตล์ การ รับ-ส่ง พัสดุ แบบดั้งเดิม โดยนำพาความมั่นใจ การ รับ-ส่ง พัสดุในแบบฉบับคนท้องถิ่น เข้าถึงทุกที่ ไปไหน ไปกัน Everywhere, with you
ด้าน นาย อัครินทร์ พิชญกุล นายกสมาคมรถม้า จังหวัดลำปาง บอกว่า การขนส่งโดยใช้รถม้า มีใช้กันมายาวนานกว่า 100 ปีแล้ว เนื่องจากสมัยก่อนไม่มีรถยนต์ รถม้าเป็นเสมือนเส้นเลือดสำคัญการขนส่งในจังหวัดลำปาง ปัจจุบันนี้มีรถยนต์เข้ามาแทนที่ รถม้าก็หมดความสำคัญไป และในปีนี้ ก็มีโรคโควิด-19 เข้ามาอีก ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้ง จีน ยุโรป หรือจากประเทศอื่น ๆ หดหายไป จนถึงไม่มีเลย ดังนั้นการที่ BEST Express ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ถึงแม้อาจจะทำรายได้ให้ไม่มาก แต่ก็ยังคงช่วยให้อาชีพรถม้าและสัญลักษณ์ประจำจังหวัดลำปาง ยังคงอยู่คู่ลำปางต่อไป
ไม่เพียงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี่ ยังมีหลายคน หลายท่าน ที่รู้จักฉวยโอกาสนี้เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาตมาว่า ถ้ารัฐบาลฉวยวิกฤตเป็นโอกาสด้านศีลธรรมจะยิ่งง่ายขึ้นว่า ใครรับเงิน 5 พันบาทไปแล้ว เอาไปกินเหล้า เล่นการพนัน อาตมาคิดว่า นั่นเป็นโอกาสบันทึกความไม่ดี ไม่มีศีลมีธรรม คราวหน้าเกิดอะไรอีก คนพวกนี้ต้องขึ้นบัญชีดำว่า รับอีกไม่ได้แล้ว ไม่ได้รับสำนึก ไม่ได้มีความรู้สึกในทางที่เตรียมเนื้อ เตรียมตัวอะไรกันเลย โอกาสที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า ถ้ารัฐบาลรู้จักสอนคนไทยให้รู้จักห้ามใจ ยับยั้ง เบรกรั้ง หักห้ามใจ ไม่หุนหันพลันแล่น เป็นคนหนักแน่นเยือกเย็น เกิดวิกฤตขึ้นทีไรฝึกประชาชนให้ยับยั้งใจ โดยให้ยับยั้งใจไม่ให้ออกนอกบ้านก่อนเวลาเท่านั้น เท่านี้ที่เรียกว่า เคอฟิวส์นี่ ก็ฝึกให้เขารู้จักห้ามใจ ไม่ต้องไปกิน ไปเที่ยว ไปเล่น
เช่น ห้ามใจไม่ให้ดื่มเหล้าสักครึ่งเดือน 1 เดือน หรือ 3 เดือนอะไรอย่างนี้ ถ้าห้ามไม่ใจไม่ได้สักเรื่องหนึ่งมันก็กลายเป็นเรื่องคนที่ปล่อยไปตามอำเภอใจ ไม่มีคำว่า ยับยั้ง เบรกรั้ง เบรกใจไม่อยู่ ห้ามใจไม่อยู่ อยากกินอะไรก็ต้องได้กิน อยากทำอะไรก็ต้องได้ทำ ทั้งๆที่เรื่องนั้นมันไม่ดี ไม่งาม มันไม่ควรทำ ห้ามใจไม่อยู่ก็ไปทำ ซึ่งเรื่องห้ามใจไม่อยู่แล้วไปทำนี่ มันเป็นเรื่องที่ต้องรู้จักฝึก ฝึกไม่ทำ ฝึกห้ามใจ ถ้าฝึกไป ฝึกมามันกลายเป็นฝึกเป็น ฝึกได้ ถ้าห้ามใจได้ ยับยั้งใจได้ มันกลายเป็นเรื่องมโหฬาร ผลตอบแทนยิ่งใหญ่
เพราะฉะนั้น ถ้าเมืองไทย คนไทยไม่หุนหันพลันแล่น ไม่อ้างว่า เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ เราเปลี่ยนจากอารมณ์ชั่ววูบ หนักแน่น และถ้าฝึกให้หนักแน่น มันก็ไม่มีคำว่า อารมณ์ชั่ววูบ และจะสามารถห้ามใจไว้ได้ ดังนั้นเรื่องนี้จำเป็นที่รัฐบาลต้องจัดเป็นคอร์ส เป็นวิกฤตต่างๆเอามาสร้างคุณ สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ เราได้เห็นแล้วว่า โอกาสเหล่านี้มันทำอะไรๆให้บ้านเมือง รถราไม่ติด เพราะคนห้ามใจได้ ไม่ไปในที่ไม่จำเป็นต้องไป แต่ถ้าห้ามใจได้ รถโล่ง ตอนนี้พอปล่อยก็เอาแล้ว คนห้ามใจไม่อยู่ ไม่ควรจะขับไปก็ไป
อย่างไปกินเหล้า ไปกินอะไร ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย กินที่บ้านก็ได้ ออกไปให้รถมันแน่นถนนเปล่าๆ ไม่เกิดคุณ เกิดประโยชน์ เพราะฉะนั้นการห้ามใจ มันเอามาใช้ทำประโยชน์ เช่น ในช่วงที่เขาเกิดวิกฤตมันทำได้ มันมีข้อบังคับกฎหมายอะไรที่ทำได้ง่าย ก็จะทำให้คนไทยรู้จักห้ามใจเป็น ฝืนใจข่มใจที่เรียกว่า ชนะ ถ้าคนเรามีสัจจะ ตั้งสัจจะว่า จะไม่ทำอะไร แล้วก็ข่มใจไม่ทำ แล้วก็อดทนไม่ทำ แล้วก็สละอารมณ์ที่จะทำออกไปจนกลายเป็นคนไม่ต้องทำในเรื่องที่มันไม่ดี ไม่งาม
แต่ถ้าห้ามใจไม่ได้ มันก็เลยทำเรื่องไม่ดี ไม่งาม เพราะฉะนั้นเรื่องเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสใช้ได้ทั้งหน้าที่การงาน ใช้ได้ทั้งจิตใจ สันดาน อารมณ์ ฝึกข่ม ฝึกฝืน ฝึกหัดจนกระทั่งกลายเป็นคนที่เรียกว่า ห้ามใจได้ ห้ามใจง่าย ห้ามใจอยู่ เช่น จะทะเลาะก็ไม่ทะเลาะ จะฆ่าก็ไม่ต้องฆ่า และไม่ทำอะไรที่มันไม่ถูก ไม่ควร เพราะได้ฝึกห้ามใจมาดี อย่างเจ้าไวรัสโควิด-19 ตัวนี้มันมาฝึกให้คนห้ามใจได้หลายเรื่อง หลายอย่าง เช่น จะดูมวยก็ห้ามใจไม่ต้องดู จะไปทำนั่น ทำนี่ ก็ห้ามใจได้อยู่
เจ้าไวรัสโควิดตัวนี้ มันสร้างนิสัยใจคอคนไทยใหม่ เชื่อว่า วิกฤตโควิดอาจทำให้คนไทยมีนิสัยรู้จักคำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” รู้จักคำว่า ขยัน ประหยัด อดออม เมื่อก่อนไม่รู้อดออม มีกิน มีใช้ ใช้หมด ไม่มีทุนสำรองไว้ใช้เลย ไม่ได้ออมไว้เลย หมดหน้าตักไปวันๆหนึ่ง เวลาเกิดลำบากขึ้นมายังมีคำว่า เศรษฐกิจยังขาดใจ คนเรามันก็มีโอกาสขาดแคลนได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง นี่ขาดแคลนแล้ว หมดทาง ตกงาน ไปฆ่าตัว โดดน้ำตาย ผูกคอตาย ร่มควันตายทุกวี่ ทุกวัน ไม่รู้นะเสียดาย ถ้า 2 พ่อลูกที่โดดน้ำตายมาอยู่วัดสวนแก้วอาจจะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
อาจจะไม่ต้องฆ่าตัวตายทั้งพ่อ ทั้งลูก นี่ก็มีคนใจบุญจัดงานศพให้ แต่เสียดายช่วยเขาตายเสียแล้ว แต่ก็ดีกว่าไม่ช่วย จะได้ช่วยกันตอนเป็นๆ อาตมาก็เลยถือโอกาสเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส มะม่วงมาล้นวัด ทุเรียน เงาะ มังคุด เลยบอกผลไม้กระจายบุญผ่านสื่อต่างๆ สื่อต่างๆเลยมาช่วยกันกระพือ ทำให้คนมีสตางค์อยากทำบุญ ซื้อแจกหมอ พยาบาล แจกคนทุกข์ยาก บ้านชรา นายจ้างซื้อแจกลูกจ้าง หน่วยงานต่างๆถ้าช่วยกัน วิกฤตที่ว่า มะม่วงจะเน่า จะเสีย มันกลายเป็นโอกาสระบาย และอาจจะเป็นเรื่องที่ฝากคนไทยดีมั้ยว่า เขาบอกผัก ผลไม้ มันล้างลำไส้ไม่ให้มีสารตกค้าง มันมีสารกากใย ดังนั้นหน้าผัก ผลไม้เนี่ย ควรทานเยอะๆ เราจะได้ไม่เจ็บ ไม่ป่วยเรื่องกระเพาะโรคลำไส้จะได้อยู่สุขกายสบายใจ และปลอดภัยไปตลอดชีวิต
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login